“สุริยะใส” ฮึ่มอาจปักหลักชุมนุมยาวถ้า พปช.ไม่ถอนร่างแก้ไข รธน.

“สุริยะใส” ยื่นหนังสือขอให้ บช.น.รักษาความปลอดภัยการชุมนุมพรุ่งนี้เข้มงวด ระบุยังไม่กำหนดเวลายุติการชุมนุมใช้ประเมินสถานการณ์จริง ชี้หากพรรคพลังประชาชนไม่ถอนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญการชุมนุมก็อาจยืดเยื้อ

วันนี้ (24 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายสุริยะใส กตะศิลา ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.จร. ในฐานะหัวหน้าสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในการจัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 25 พ.ค. นี้ เนื่องจากเกรงว่าในวันดังกล่าวจะมีมือที่ 3 หรือผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ก่อเหตุวุ่นวายได้

พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนจะประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อซักซ้อมการปฏิบัติงาน ซึ่งการดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยแก่ประชาชนถือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องทำอยู่แล้ว ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางไม่ให้เกิดความวุ่นวาย โดยจะดูแลให้มีการแสดงตามสิทธิเสรีภาพที่ไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิของผู้อื่น ทั้งนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะเรื่องมือที่ 3 ที่อาจเข้ามาก่อความวุ่นวายได้ ซึ่งได้ใช้ฐานด้านการข่าวและข้อมูลที่มีอยู่เป็นตัวประเมินสถานการณ์

“เป็นคนไทยเหมือนกัน ผมเชื่อว่าคนไทยรู้และเข้าใจสิทธิเสรีภาพของซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี จึงไม่น่าจะมีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น หากมีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นยืนยันว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่” พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อกวนในการชุมนุมได้ตลอด ส่วนการกำหนดพื้นที่ไม่สามารถทำได้ต้องดูจากสถานการณ์จะกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆ ถือเป็นเรื่องยาก ซึ่งขอให้ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมทุกคนเคารพในสิทธิซึ่งกันและกันด้วย ซึ่งผู้ชุมนุมอีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ และจะชุมนุมที่ท้องสนามหลวงตนเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรบกวนกันอย่างแน่นอน

ด้าน นายสุริยะใส กล่าวว่า ในการจัดการชุมนุมจะเริ่มเวลา 15.00 น.ในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดการยุติการชุมนุม เนื่องจากจะต้องดูสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้เป็นตัวประกอบอีกครั้งหนึ่ง โดยการหารือร่วมกับ บช.น.วันนี้นอกจากจะหารือเรื่องความปลอดภัยแล้วยังจะหารือเรื่องการจัดช่องทางจราจร ที่จะขอปิดช่องทางจราจร 1 ช่องทาง ส่วนรายละเอียดจะต้องหารือกัน ซึ่งในช่วงค่ำของวันพรุ่งนี้ขอให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงเส้นทางบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ หากจะมีการปักหลักชุมนุมต่อเนื่องจะไม่ใช้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแน่นอนส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับมติของพรรคพลังประชาชน หากมีการถอนมติขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรก็จะไม่ยืดเยื้อ

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ขอฝากถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ด้วยว่าการนำเงินจำนวน 2,000 ล้านบาทมาใช้ทำประชามติ ไม่สามารถซื้อความสุขหรือแก้ความรำคาญได้ตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้าง ซึ่งตนเองเห็นว่าแม้จะมีประชามติที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลจะทำตามผลประชามตินั้น โดยในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. นี้เวลา 10.00 น. ตนจะไปแสดงตนต่อประธานสภาฯ ประธานวุฒิสภา และแสดงเจตจำนงในการยื่นถอดถอน สส.และสว.ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ นายสุริยะใส กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้ดำเนินการถอดถอนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมขัดกันแห่งผลประโยชน์ และอาศัยมาตรา 68 วรรคสองยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลิกการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือยุบพรรคการเมืองดังกล่าว และมีมติใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ในการรณรงค์และรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน เพื่อใช้สิทธิร้องขอต่อประธานวุฒิสภาให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ลงชื่อทุกคน ตามมาตรการที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เคยประกาศเอาไว้แล้วในแถลงการณ์ ฉบับที่ 5/2551 ลงวันที่ 2 เมษายน 2551 เนื่องจากเห็นว่า บุคคลเหล่านั้นมีพฤติกรรมที่มีส่วนได้ส่วนเสีย มีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญ และการแก้รัฐธรรมนูญไม่เป็นธรรม และในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร.ทำหน้าที่รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง จะเป็นประธานการประชุมกับกองทัพภาค 1 และกทม. เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน