“ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ” มั่นใจมวลชนร่วมชุมนุมหลายหมื่น หากไม่ถูกสกัด แจง 3 กลุ่มไม่เห็นพ้องรัฐบาล ย้ำจุดยืนต้องถอนญัตติล้มล้างรัฐธรรมนูญ ยึดหลักสันติวิธีเคลื่อนไหว ประเมินสถานการณ์นาทีต่อนาที
วันนี้ (23 พ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประเมินการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า จะมีคนเข้าร่วมชุมนุมน่าจะหลักหมื่นคน เพราะนี่เป็นการชุมนุมลงถนนครั้งแรก และเชื่อว่า หากไม่มีการสกัดกั้นจากรัฐบาลคนจะมาร่วมหลายหมื่น อย่างแน่นอน ซึ่งการประกาศชุมนุมของพันธมิตรฯ ต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง
นอกเหนือจากฐานมวลชนเดิมแล้ว ยังมีแนวร่วมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น คนที่เคยโลเลวันนี้ตัดสินใจชัดเจนว่าจะเข้ามาร่วมชุมนุม มีแนวร่วมใหม่อย่างน้อยจาก 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่ง เป็นกลุ่มที่เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจแล้วเห็นว่ารัฐบาลมุ่งแต่จะรื้อรัฐธรรมนูญ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่อาจประเมินผลงานรัฐบาลแล้วไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาประเทศได้ แต่กลับสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้าตลอดเวลา กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มที่เห็นว่ารัฐบาลละเลยและไม่จริงใจต่อการจัดการกับขบวนการโจมตีสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะกรณีที่คนในรัฐบาลมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่เสียเอง
นายสุริยะใส กล่าวย้ำว่า เป้าหมายในการชุมนุมยังอยู่ที่การเรียกร้องให้ถอนญัตติล้มล้างรัฐธรรมนูญออกจากสภา เพราะวันนี้การลงประชามติไม่มีความหมาย เปลืองงบประมาณแผ่นดินเปล่าๆ และไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้งอะไรเพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน และ ส.ว.ในเครือข่ายมีเจตนาชัดแจ้งที่จะรื้อรัฐธรรมนูญเพื่อตัดตอนกระบวนการยุติธรรม และฟอกผิดพวกเดียวกัน ฉะนั้น แม้ในสัปดาห์หน้า ครม.มีมติและอนุมัติงบประมาณให้ลงประชามติก็คงไม่มีสภาพบังคับอะไร เพราะญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าไปแล้ว
สำหรับการถอดถอนเราระบุข้อกล่าวหาไป 4 ฐานความผิด คือ ความผิดของ ส.ส.และ ส.ว.ตามมาตรา 122 กรณีผลประโยชน์ขัดกัน แยกเป็นคนละกรณีระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว.ความผิดปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามมาตรา 291 และความผิดล้มล้างรัฐธรรมนูญมาตรา 68
ส่วนการชุมนุมนั้น จะยืดเยื้อหรือไม่คงประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่ได้บอกให้มวลชนพันธมิตรฯ เตรียมตัวกันพร้อมจะอยู่ยาว หรือยืดเยื้อถ้าจำเป็น การชุมนุมในบ่ายวันอาทิตย์ ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และ กทม.จะมีการตั้งเวทีที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยบนเวทีจะมีการปราศรัยของ 5 แกนนำและตัวแทนองค์กรต่างๆ รวมทั้งจะเชิญนักวิชาการ และชมรม ส.ส.ร.50 มาร่วมปราศรัยให้ข้อมูลกับสังคม นอกจากนี้ศิลปินเพื่อชีวิตก็มากันคับคั่งเช่นเคย
ส่วนเรื่องความวุ่นวายได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันดูแลรับผิดชอบ ที่ผ่านมา ทราบมาว่า ในส่วนของตำรวจเองก็สรุปบทเรียนจากความหละหลวม และมีการปรับมาตรการในการป้องกันความวุ่นวายแล้ว สำหรับพันธมิตรฯ ยังยืนยันยึดหลัก สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและหลักสันติวิธีอย่างเคร่งครัด