“จำลอง” ประกาศเตือนผู้ชุมนุมให้อยู่ในเขตแผงเหล็กกั้น โดยเฉพาะส่วนท้าย หลังได้ข่าวมีกลุ่มมอเตอร์ไซค์เตรียมมาป่วนจำนวนกว่า 300 คัน อีกทั้งได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หากตำรวจยังเพิกเฉยปล่อยให้เกิดเหตุขึ้น ลั่นฟ้องศาล ทั้ง ผบ.ตร.และ ผู้บัญชาการตร.นครบาล
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประกาศเตือนผู้ชุมนุม
เมื่อเวลา 18.10 น.วันนี้ (26 พ.ค.) หลังการแสดงดนตรีของ เชษฐ์ วงพองพอง บนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นมาประกาศเรื่องความปลอดภัยของผู้มาร่วมชุมนุมที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยให้ผู้ร่วมชุมนุมเข้ามาอยู่ในเขตแผงรั้วกั้นเหล็กสีเหลือง
พล.ต.จำลอง แจ้งแก่ผู้ร่วมชุมนุม ซึ่งกำลังสนุกสนานกับการแสดงบนเวที ว่า แม้จะมีหลายฝ่ายภาคประชาชนมาช่วยกันเสริมกำลังคุ้มกันอย่างเต็มที่ แต่ต้องการให้พี่น้องที่อยู่ส่วนท้าย โดยเฉพาะแถวประตูกองบัญชาการกองทัพบก และโรงเรียนนายร้อยเดิม ขยับเข้ามาที่แผงจราจร หรือเรียกเล่นๆ ว่า วงสายสิญจน์
“ได้ข่าวว่ามีการรวบรวมมอเตอร์ไซค์กว่า 300 คัน พร้อมอุปกรณ์หลายชนิดที่จะมาทำอันตรายกับเรา และเราได้เตรียมป้องกันไว้พร้อมแล้ว และก็บอกตำรวจไว้แล้ว พร้อมอัดเทปด้วยว่า แจ้งตำรวจให้ทราบเมื่อไหร่” พล.ต.จำลอง บอกแก่ผู้มาชุมนุม และกล่าวอีกว่า ถ้าไม่มารักษาความปลอดภัย แล้วเกิดอะไรขึ้นจะฟ้องศาล ตั้งแต่ ผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะฟ้องให้ติดคุก
“ขอให้พี่น้องรับทราบโดยทั่วกันว่า เราพยายามปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 70 แห่งบทบัญญัติรัฐธรรนูญฉบับปี 2550 บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนตำรวจมีหน้าที่โดยตรง และต้องทำหน้าที่นี้ยิ่งกว่าเรา ถ้าพวกเราไม่ทำหน้าที่นี้ก็ไม่มีกฎหมายลงโทษ แต่ถ้าข้าราชการตำรวจำไม่ทำก็ตัวใครตัวมัน” พล.ต.จำลอง กล่าว
อย่างไรก็ดี พล.ต.จำลอง ได้ย้ำต่อผู้ชุมนุมอีกครั้งให้ผู้ที่อยู่นอกวงสายสิญจน์ หรือรั้วเหล็กเข้ามาด้านใน เพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย จากนั้นก็นำร้องเพลง “เหนื่อยเราไม่เหนื่อย เมื่อยไม่เราไม่เมื่อย เราไล่ไปเรื่อยๆ” พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า “เราไม่ได้ไล่คนๆ เดียว เราไล่เป็นฝูง ฝูงหนึ่งในสภา ฝูงหนึ่งในทำเนียบถือเป็นโอกาสน้อยเหลือเกิน”
สำหรับกำหนดการสำคัญของการชุมนุมพันธมิตรฯ ในวันนี้ 5 แกนนำจะเริ่มขึ้นเวทีปราศรัยในเวลาประมาณ 20.00 น.