ตำรวจนับพันตรึงเข้มห้าม “พันธมิตรฯ” ข้ามสะพานมัฆวานฯ มุ่งหน้าสู่ทำเนียบ ด้านแกนนำพันธมิตรฯ ลั่นปักหลักยาวหากถูกปิดกั้น ขณะที่วิทยุอาสาสมัครฯ เผย “เด็กแว้น” ทุ่งบางเขนเตรียมบุกป่วนพันธมิตรฯ คืนนี้
หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อมุ่งหน้าไปปักหลักชุมนุมยังที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ข้างทำเนียบรัฐบาล แต่ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นโดยไม่ยอมให้ขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ ผ่านไปยังทำเนียบฯ
สถานการณ์ล่าสุดเมื่อเวลา 21.40 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีรถกระจายเสียงเพื่อชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบจลาจลจำนวน 300 นาย โดยขอเดินทางไปยังทำเนียบฯ โดยในเบื้องต้นไม่ได้รับการตอบรับ จากนั้น พล.ต.จำลอง ได้ใช้เวลาในการเจรจานานกว่า 10 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเปิดทางให้ผู้ชุมนุมกว่า 1 หมื่นคน โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือกระทบกระทั่งกันอย่างใด
ต่อมาเวลา 22.35 น. แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่ก็ต้องพบด่านสกัดจากเจ้าหน้าที่กว่า 500 นาย โดยมีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ระดับไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่าน ทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องลงไปเจรจา โดยล่าสุดการเจรจาระหว่างแกนนำตำรวจยังไม่ได้ข้อยุติ
ตำรวจยังคงตรึงกำลังสกัดขบวนอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยยืนกรานไม่เปิดทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมมุ่งหน้าสู่ทำเนียบ เนื่องจากกลัวผุ้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในทำเนียบ ทั้งที่ พล.ต.จำลอง ยืนยันแล้วว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปภายในทำเนียบฯ แต่ต้องการชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าทำเนียบฯ เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลได้ตั้งแถวสกัด 3 แถว พร้อมใช้รถ 6 ล้อจำนวน 3 คัน และกั้นแผงเหล็กขวางทางบริเวณสะพานมัฆวานฯ ไม่ให้ผู้ชุมนุมผ่านไปได้ ทำให้แกนนำฯ ได้ตัดสินใจปักหลักชั่วคราว โดยนำรถเครื่องเสียงมาทำเป็นเวทีชั่วคราวและได้ประกาศขอให้ผู้ชุมนุมนั่งลงและอยู่ในความสงบ ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.น.1 ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากศูนย์วิทยุอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ระบุพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มจักรยานยนต์ ถูกว่าจ้างมาจากกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่บางเขน ส่งให้มาก่อกวนการชุมนุมของพันธมิตรฯ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งเตรียมแก๊สน้ำตา กระสุนยาง เพื่อสลายการชุมนุม หากเกิดการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.55 น.ที่บริเวณท้ายขบวนซึ่งอยู่ช่วงแยกแยก จปร. ได้เกิดการปะทะกัน โดยพบว่ากลุ่มม็อบป่วนได้พยายามก่อกวนขว้างปาก้อนหินตลอดเวลา ทำให้ล่าสุดแนว รปภ.ของพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายอนุรักษ์ ศิริ โดนมีดจากม็อบป่วน บาดเจ็บที่มือซ้าย อีกคนคือนายจักรรินทร์ คันทิด ถูกก้อนหินขว้างหัวแตกเหนือคิ้วซ้าย เบื้องต้นทั้งสองได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระเป็นการด่วนแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 23.15น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุม ได้เริ่มปักหลักบริเวณสะพานมัฆวานฯแล้ว ส่วนการเจรจาระหว่างพันธมิตรฯ กับตำรวจนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นผล เบื้องต้นคาดว่า หากไม่มีคำตอบภายใน 1ชั่วโมง พันธมิตรฯอาจจะตัดสินใจฝ่าแผงกั้นเข้าไป โดยอาจจะใช้รถยนต์หรือกำลังคนฝ่าเข้าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ได้เดินทางมาเจรจากับนายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยแสดงความห่วงใยผู้ชุมนุมที่อยู่ช่วงท้ายขบวนที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมพวกม็อบต้านพันธมิตรฯได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเสริมกำลังเข้าไปและรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นแต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมา อาจขาดความใส่ใจในบริเวณท้ายขบวนมัวแต่มาตรึงกำลังสกัดพันธมิตรฯทางด้านหน้าขบวนแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามยังผู้ร่วมชุมนุมแล้ว ส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังใจสู้ และพร้อมจะยืนหยัดชุมนุมต่อไป โดยไม่มีความคิดที่จะกลับบ้าน
ทางด้านท้ายขบวน มีรายงานยอดผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันจำนวน 11 ราย เป็นฝ่ายรปภ.พันธมิตรฯ 4 คน และฝ่ายม็อบต้านอีก 7 คน โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยวชิระ เผยว่า หากมีการปะทะรอบต่อไป จะต้องส่งไปที่โรงพยาบาลกลาง หรือโรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากขณะที่ที่โรงพยาบาลวชิระเต็มแล้ว