เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ต่อต้านและกลุ่มผู้ร่วมสัมมนา ยามฯ 2 หลังการสัมมนาจบ ตำรวจปราบจลาจลต้องเพิ่มกำลังติดโล่ห์และกระบองระงับเหตุ พร้อมเจรจาให้ยุติความวุ่นวายจนกลุ่มผู้ต่อต้านยอมเดินทางกลับแล้ว
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการให้ความรู้ประชาชนในงานสัมนา ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ 2 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถนนท่าพระจันทร์ นำโดย นายสุชาติ นาคบางไทร ได้เดินขบวนออกมาจากบริเวณท้องสนามหลวงเพื่อไปยังถนนท่าพระจันทร์ เพื่อมาชุมนุมกันต่อบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงก็ได้กดดันด้วยการเกาะรั้วประตูเขย่า และตะโกนด่าทอพร้อมทั้งท้าทายให้ประชาชนที่มาร่วมงานสัมมนายามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ 2 ด้านในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาประจันหน้ากัน เนื่องจากขณะนั้นในบริเวณดังกล่าวมีเพียงกำลังจากเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความสงบเรียบร้อยเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังอยู่บริเวณโดยรอบทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจไม่สามารถเข้าไปกั้นพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านเข้ามาตะโกนด่าทอ
ต่อมา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เดินทางเข้ามายังที่เกิดเหตุเพื่อเข้าไปเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านให้อยู่กับที่หยุดเดินและหยุดก่อกวน แต่นายสุชาติ แกนนำไม่ยอมยังคงเดินหนี พล.ต.ท.อัศวิน จนทำให้แนวร่วมกลุ่มต่อต้านเกิดการเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุมแกนนำทำให้ยิ่งมีการพูดจาท้าทาย จากนั้น พล.ต.ท.อัศวิน จึงได้สั่งการให้ตำรวจปราบจลาจลเข้ามาตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถนนท่าพระจันทร์ และพล.ต.ท.อัศวิน ก็ได้ขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวทันที ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความเข้าใจผิดอีกครั้งว่าจะมีการจับกุมตัวนายสุชาติ แกนนำออกจากที่เกิดเหตุ แต่หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเห็นว่าไม่ได้เป็นไปตามที่เข้าใจก็กลับไปยังบริเวณประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เกิดเหตุอีกครั้งแต่พบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลตรึงกำลังอยู่จึงยอมเดินทางกลับมายังที่ตั้งเดิมในที่สุด
กระทั่งในเวลา 22.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านทราบว่าใกล้จะจบการสัมมนาในครั้งนี้แล้วนายสุชาติ ก็ได้นำกลุ่มแกนนำต่อต้านดังกล่าวเคลื่อนย้ายมายังบริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกครั้ง และพูดจาโจมตี ด่าทอ ยั่วยุ ให้เกิดการปะทะกันจนในเวลา 23.15 น.ได้เกิดเหตุปะทะกันขึ้นระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการสัมมนา ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ 2 กับกลุ่มผู้เข้าฟังการสัมมนา โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ขว้างปาสิ่งของที่มีอยู่ เช่น กระป๋อง และขวดน้ำ ใส่กันไปมา จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลต้องนำรถส่งตัวผู้ต้องหามาจอดกันบริเวณดังกล่าวไว้ แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมคัดค้านยังคงปักหลักด่าทอ ยั่วยุ อยู๋บริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล อีก 50 นายติดโล่ห์และกระบอง ตรึงพื้นที่บริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวดและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลได้พยายามเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ต่อต้านการสัมมนาให้ยุติการก่อความวุ่นวาย แต่แกนนำและกลุ่มต่อต้านดังกล่าวยังคงปักหลักสร้างความวุ่นวายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” ได้ขับรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงมาร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านในครั้งนี้ด้วย
และเมื่อเวลา 23.50 น.หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลได้กันทั้ง 2 กลุ่มออกจากกันและเข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ต่อต้านการสัมมนาในครั้งนี้จนเป็นผลสำเร็จ ทั้ง 2 กลุ่มได้ยอมเดินทางแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วแต่ก่อนเดินทางกลับกลุ่มผู้ต่อต้านยังได้จุดประทัดประมาณ 2 แพใหญ่บริเวณที่มีการชุมนุม ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด