ผู้จัดการรายวัน - ระดมตำรวจกว่า 500 นายดูแลเวทีพันธมิตรฯ เย็นนี้ "อัศวิน" เอาจริงสั่งอรินทราชสลายม็อบป่วนทันทีไม่มีเจรจาต่อรองหากปะทะรุนแรง ประกาศห้ามรุกล้ำพื้นผิวการจราจรเด็ดขาด พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่จับตาใกล้ชิด ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบประกบแกนนำม็อบต้านห้ามยั่วยุรุนแรง "เหลิม" รับประกันไม่มีป่วนเวทีพันธมิตรฯ แน่ แขวะกลุ่มชุมนุมอย่าตีหัวตัวเอง "สุริยะใส" เผยพันธมิตรฯเตรียมปรับรูปแบบการเคลื่อนไหวจากในร่มสู่กลางแจ้ง ชี้สถานการณ์เริ่มสุกงอม
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ตร.และคณะ ได้แถลงมาตรการเตรียมความพร้อมการสัมมนาของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเย็นวันนี้ (25 เม.ย.) ว่า ได้กำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมแล้ว ทั้งในบริเวณมหาวิทยาลัย และสนามหลวง โดยจัดกำลังรวมกว่า 500 นายทั้งในและนอกเครื่องแบบ เช่น กองร้อยควบคุมฝูงชนและตำรวจปราบจลาจลหน่วยละ 150 นายที่รอ ณ ที่ตั้งพร้อมปฏิบัติการ ชุดปฏิบัติการข่าว 28 นาย พร้อมตั้งจุดตรวจค้นคนและยานพาหนะบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ป้อมพระสุเมรุ หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และแยกพระจันทร์
พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวว่า จากรายงานการข่าวของสันติบาล คาดว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรฯมาร่วมสัมมนากว่า 5,000 คน และกลุ่มต่อต้าน 300-500 คน โดยการข่าวขณะนี้ยังไม่พบรายงานว่าจะมีความรุนแรง แต่ก็ได้เน้นย้ำให้นครบาลที่ดูแลระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน เนื่องจากมีบทเรียนมาแล้วจากการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา หากเกิดการกระทบกระทั่ง ตำรวจจะพยายามแยกไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันซึ่งหน้า แม้การข่าวจะประเมินว่าไม่รุนแรง แต่เราก็ไม่ประมาท ทั้งยังเตรียมประสานเจ้าหน้าที่จาก กทม.มาช่วยเสริมกรณีเกิดเหตุปะทะด้วย
"เราจะควบคุมการสัมมนาไม่ให้เกิน 24.00 น.โดยได้กำชับให้ตำรวจนครบาลเตรียมพร้อมตลอด พร้อมทั้งเตรียมแผนมกรา 50 ซึ่งสอดคล้องกับแผนกรกฎ 48 มารับมือแล้ว แต่ถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อออกไปก็ให้ บก.น.1 เตรียมตำรวจไปสับเปลี่ยน ขณะเดียวกันหากมีการเคลื่อนขบวนของกลุ่มใดก็ตามไปยังสถานที่อื่นก็ให้ดูแลอย่างเข้มงวดเช่นกัน ส่วนการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมและกลุ่มผู้สนับสุนนในการชุมนุมครั้งที่ผ่านมานั้น ทางนครบาลดำเนินการอยู่ โดย สน.ชนะสงคราม เจ้าของพื้นที่การชุมนุมเป็นผู้สอบสวนดำเนินคดีอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมข้อมูล"
"อัศวิน" สั่งจับตากลุ่มป่วน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้ประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 รวมทั้งนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมประเมินสถานการณ์โดยกำชับแผนปฎิบัติการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวหลังประชุมว่า รักษาราชการ ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้ปฏิบัติทุกหน่วยว่า มีการเตรียมกำลังความพร้อมไว้แล้วเต็มที่ โดยใช้กำลังจากตำรวจปราบจลาจล 3 กองร้อย 450 นายร่วมกับตำรวจท้องที่ ตำรวจจราจรอีก 100 นาย เชื่อว่า สถานการณ์ไม่น่าห่วง เนื่องจากการรวมพลครั้งนี้ไม่ได้เป็นการชุมนุม แต่เป็นการจัดในรูปแบบการสัมมนาและมีการใช้พื้นที่เฉพาะในห้องประชุม ทำให้ง่ายต่อการดูแล ซึ่งเราเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี
พล.ต.ท.อัศวิน ยอมรับว่า ทางด้านการข่าวมีรายงานว่าจะมีกลุ่มคัดค้านเดินทางมาประมาณ 1,000 คน แต่ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่จัดกำลังคุมเข้มดูแลพื้นที่โดยรอบบริเวณแล้ว พร้อมให้นำแผงเหล็กมากั้นไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน โดยกั้นแบบ 2 ชั้น มีระยะห่างระหว่างชั้น 1 และ 2 ประมาณสองช่วงตัว พร้อมตั้งจุดตรวจค้นอาวุธทุกชนิด รวมทั้งสิ่งของขนาดเล็กที่เป็นอุปกรณ์อาจนำมาใช้ขว้างปาได้ ห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขว้างปาใส่กัน เมื่อกลุ่มพันธมิตรเดินทางเข้าไปในภายในรั้วมหาวิทยาลัย เรียบร้อยแล้วก็จะปิดประตูด้านหน้าทันที จากนั้นจะนำรถ 6 ล้อประชาสัมพันธ์ตำรวจนครบาลมาปิดกั้นห้ามเข้าออก และห้ามไม่ให้มีการลุกล้ำเข้าไปบนทางเท้าสร้างความชุลมุนวุ่นวายเหมือนครั้งที่ผ่านมาอีก
นอกจากนี้ ยังจัดกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบประกบแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาคัดค้านไม่ให้ยั่วยุก่อเหตุร้ายรุนแรง หากไม่เชื่อฟังก็จะนำตัวไปควบคุมไว้ก่อน แต่หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ยังมีการเตรียมกำลังตำรวจชุดอรินทรราชไว้ ณ ที่ตั้งจำนวนหนึ่ง หากเกิดการปะทะรุนแรงชุลมุน เจ้าหน้าที่จะไม่มีการเข้าเจรจาใดๆ จะทำการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในทันที
"นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 26 ตัวรอบพื้นที่พร้อมรถโมบายเคลื่อนที่ตรวจสอบสัญญาณประจำจุดด้านหน้าและด้านใน หากพบการกระทำความผิดกฎหมายก็จะส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้เข้าจับกุมทันที ขณะเดียวกัน ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ บก.น.1 และตำรวจจราจร ตั้งด่านตรวจบริเวณแยกผ่านพิภพลีลา ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยด้านท่าพระจันทร์ และประตูทางเข้าด้านหน้ามหาวิทยาลัย ฝั่งท้องสนามหลวง เน้นตรวจสอบรถยนต์กระบะ รถจักรยานยนต์ที่อาจจะไม่หวังดีเข้ามาก่อความวุ่นวายด้วย"
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้มีการกระทบกระทั่งหรือถึงเนื้อถึงตัว หรือเกิดความรุนแรงขึ้น โดยเรื่องนี้ตนได้เน้นย้ำกับ ผบช.น.ไปแล้ว แต่ขอเตือนว่าฝ่ายพันธมิตรฯอย่าไปตีหัวกันเองก็แล้วกัน แต่หากจะตีก็ให้ใช้ก้านมะละกอใส่ยาแดงและขอให้พันธมิตรฯ สบายใจ เพราะการเมืองยุคนี้ไม่มีการใช้อำนาจ เปิดโอกาสให้กับประชาชนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่
เผยพันธมิตรพร้อมปรับรูปแบบ
นายสุริยะใส กตะสิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงเวทีสัมมนาประชาชนของพันธมิตรฯวันนี้ว่า ประเด็นหลักจะเป็นการเปิดโปงวาระซ่อนเร้นในการรื้อรัฐธรรมนูญ และความพยายายามของพรรคพลังประชาชนที่จะเข็นร่างรัฐธรรนูญฉบับฟอกมาร เข้าสู่รัฐสภาฯ และใช้เสียงข้างมาก รวบรัดตัดตอนโดยไม่สนใจการมีส่วนร่วมของประชาชน
"สำหรับเวทีวันนี้ทุกอย่างพร้อมเต็มที่ไม่ห่วงเรื่องการเผชิญหน้า เพราะพันธมิตรฯหลีกเลี่ยงความรุนแรงเรายึดมั่นแนวทางสันติอหิงสาอย่างเคร่งครัด หากมีม็อบป่วนก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการตามกฎหมาย ส่วนการเคลื่อนไหวโดยใช้รูปแบบการสัมมนาหรือเวทีในร่มครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะจากการประเมินของแกนนำเชื่อว่าสถานการณ์จะเริ่มสุกงอม เร็วกว่าที่คาด ในขณะเดียวกันความลุแก่อำนาจของรัฐบาลนับวันยิ่งปรากฎชัดและท้าทายประชาชนหรือแม้แต่คนที่เลือกพรรคพลังประชาชนเองก็เริ่มรับไม่ได้กับการใช้อำนาจมิชอบ"
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า หลังจากวันนี้เชื่อว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ คงจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ส่วนจะถึงขั้นเป็นการชุมนุมใหญ่และยืดเยื้อหรือไม่ ก็คงต้องประเมินจากมติของที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคอีกที หากมีมติเดินหน้ารื้อรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดและปฏิเสธการมีสว่นร่วมของประชาชน ถึงตอนนั้นพันธมิตรฯ ก็ไม่มีทางเลือกการชุมนุมใหญ่ก็เป็นคำตอบเดียวเท่านั้น
นางเครือมาศ นพรัตน์ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯขอนแก่น เผยว่า ในส่วนของ จ.ขอนแก่น ได้มีประชาชนเดินทางไปร่วมเวทีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยจำนวน 2 คันรถตู้ โดยแกนนำฯได้ร่วมกันลงขันเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่ารถและค่าน้ำมันราว 10,000 บาท หลังจากการเดินทางไปร่วมฟังสัมมนาครั้งนี้ทางพันธมิตรฯ ขอนแก่น จะประเมินสถานการณ์ร่วมกันอีกครั้งและจะจัดให้มีกิจกรรมเสวนาการเมืองในพื้นที่ต่อไปในเร็ววันนี้
นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของภูเก็ตจะใช้สถานที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง ถ่ายทอดสดมาจากเวทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับชม และมีส่วนหนึ่งเดินทางไปร่วมเวทีที่กรุงเทพฯ ด้วย
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ตร.และคณะ ได้แถลงมาตรการเตรียมความพร้อมการสัมมนาของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเย็นวันนี้ (25 เม.ย.) ว่า ได้กำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมแล้ว ทั้งในบริเวณมหาวิทยาลัย และสนามหลวง โดยจัดกำลังรวมกว่า 500 นายทั้งในและนอกเครื่องแบบ เช่น กองร้อยควบคุมฝูงชนและตำรวจปราบจลาจลหน่วยละ 150 นายที่รอ ณ ที่ตั้งพร้อมปฏิบัติการ ชุดปฏิบัติการข่าว 28 นาย พร้อมตั้งจุดตรวจค้นคนและยานพาหนะบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ป้อมพระสุเมรุ หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และแยกพระจันทร์
พล.ต.ท.วัชรพลกล่าวว่า จากรายงานการข่าวของสันติบาล คาดว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรฯมาร่วมสัมมนากว่า 5,000 คน และกลุ่มต่อต้าน 300-500 คน โดยการข่าวขณะนี้ยังไม่พบรายงานว่าจะมีความรุนแรง แต่ก็ได้เน้นย้ำให้นครบาลที่ดูแลระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน เนื่องจากมีบทเรียนมาแล้วจากการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา หากเกิดการกระทบกระทั่ง ตำรวจจะพยายามแยกไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันซึ่งหน้า แม้การข่าวจะประเมินว่าไม่รุนแรง แต่เราก็ไม่ประมาท ทั้งยังเตรียมประสานเจ้าหน้าที่จาก กทม.มาช่วยเสริมกรณีเกิดเหตุปะทะด้วย
"เราจะควบคุมการสัมมนาไม่ให้เกิน 24.00 น.โดยได้กำชับให้ตำรวจนครบาลเตรียมพร้อมตลอด พร้อมทั้งเตรียมแผนมกรา 50 ซึ่งสอดคล้องกับแผนกรกฎ 48 มารับมือแล้ว แต่ถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อออกไปก็ให้ บก.น.1 เตรียมตำรวจไปสับเปลี่ยน ขณะเดียวกันหากมีการเคลื่อนขบวนของกลุ่มใดก็ตามไปยังสถานที่อื่นก็ให้ดูแลอย่างเข้มงวดเช่นกัน ส่วนการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมและกลุ่มผู้สนับสุนนในการชุมนุมครั้งที่ผ่านมานั้น ทางนครบาลดำเนินการอยู่ โดย สน.ชนะสงคราม เจ้าของพื้นที่การชุมนุมเป็นผู้สอบสวนดำเนินคดีอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมข้อมูล"
"อัศวิน" สั่งจับตากลุ่มป่วน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้ประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 รวมทั้งนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมประเมินสถานการณ์โดยกำชับแผนปฎิบัติการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวหลังประชุมว่า รักษาราชการ ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้ปฏิบัติทุกหน่วยว่า มีการเตรียมกำลังความพร้อมไว้แล้วเต็มที่ โดยใช้กำลังจากตำรวจปราบจลาจล 3 กองร้อย 450 นายร่วมกับตำรวจท้องที่ ตำรวจจราจรอีก 100 นาย เชื่อว่า สถานการณ์ไม่น่าห่วง เนื่องจากการรวมพลครั้งนี้ไม่ได้เป็นการชุมนุม แต่เป็นการจัดในรูปแบบการสัมมนาและมีการใช้พื้นที่เฉพาะในห้องประชุม ทำให้ง่ายต่อการดูแล ซึ่งเราเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี
พล.ต.ท.อัศวิน ยอมรับว่า ทางด้านการข่าวมีรายงานว่าจะมีกลุ่มคัดค้านเดินทางมาประมาณ 1,000 คน แต่ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่จัดกำลังคุมเข้มดูแลพื้นที่โดยรอบบริเวณแล้ว พร้อมให้นำแผงเหล็กมากั้นไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน โดยกั้นแบบ 2 ชั้น มีระยะห่างระหว่างชั้น 1 และ 2 ประมาณสองช่วงตัว พร้อมตั้งจุดตรวจค้นอาวุธทุกชนิด รวมทั้งสิ่งของขนาดเล็กที่เป็นอุปกรณ์อาจนำมาใช้ขว้างปาได้ ห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขว้างปาใส่กัน เมื่อกลุ่มพันธมิตรเดินทางเข้าไปในภายในรั้วมหาวิทยาลัย เรียบร้อยแล้วก็จะปิดประตูด้านหน้าทันที จากนั้นจะนำรถ 6 ล้อประชาสัมพันธ์ตำรวจนครบาลมาปิดกั้นห้ามเข้าออก และห้ามไม่ให้มีการลุกล้ำเข้าไปบนทางเท้าสร้างความชุลมุนวุ่นวายเหมือนครั้งที่ผ่านมาอีก
นอกจากนี้ ยังจัดกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบประกบแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาคัดค้านไม่ให้ยั่วยุก่อเหตุร้ายรุนแรง หากไม่เชื่อฟังก็จะนำตัวไปควบคุมไว้ก่อน แต่หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ยังมีการเตรียมกำลังตำรวจชุดอรินทรราชไว้ ณ ที่ตั้งจำนวนหนึ่ง หากเกิดการปะทะรุนแรงชุลมุน เจ้าหน้าที่จะไม่มีการเข้าเจรจาใดๆ จะทำการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในทันที
"นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 26 ตัวรอบพื้นที่พร้อมรถโมบายเคลื่อนที่ตรวจสอบสัญญาณประจำจุดด้านหน้าและด้านใน หากพบการกระทำความผิดกฎหมายก็จะส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้เข้าจับกุมทันที ขณะเดียวกัน ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ บก.น.1 และตำรวจจราจร ตั้งด่านตรวจบริเวณแยกผ่านพิภพลีลา ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยด้านท่าพระจันทร์ และประตูทางเข้าด้านหน้ามหาวิทยาลัย ฝั่งท้องสนามหลวง เน้นตรวจสอบรถยนต์กระบะ รถจักรยานยนต์ที่อาจจะไม่หวังดีเข้ามาก่อความวุ่นวายด้วย"
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้มีการกระทบกระทั่งหรือถึงเนื้อถึงตัว หรือเกิดความรุนแรงขึ้น โดยเรื่องนี้ตนได้เน้นย้ำกับ ผบช.น.ไปแล้ว แต่ขอเตือนว่าฝ่ายพันธมิตรฯอย่าไปตีหัวกันเองก็แล้วกัน แต่หากจะตีก็ให้ใช้ก้านมะละกอใส่ยาแดงและขอให้พันธมิตรฯ สบายใจ เพราะการเมืองยุคนี้ไม่มีการใช้อำนาจ เปิดโอกาสให้กับประชาชนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่
เผยพันธมิตรพร้อมปรับรูปแบบ
นายสุริยะใส กตะสิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงเวทีสัมมนาประชาชนของพันธมิตรฯวันนี้ว่า ประเด็นหลักจะเป็นการเปิดโปงวาระซ่อนเร้นในการรื้อรัฐธรรมนูญ และความพยายายามของพรรคพลังประชาชนที่จะเข็นร่างรัฐธรรนูญฉบับฟอกมาร เข้าสู่รัฐสภาฯ และใช้เสียงข้างมาก รวบรัดตัดตอนโดยไม่สนใจการมีส่วนร่วมของประชาชน
"สำหรับเวทีวันนี้ทุกอย่างพร้อมเต็มที่ไม่ห่วงเรื่องการเผชิญหน้า เพราะพันธมิตรฯหลีกเลี่ยงความรุนแรงเรายึดมั่นแนวทางสันติอหิงสาอย่างเคร่งครัด หากมีม็อบป่วนก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการตามกฎหมาย ส่วนการเคลื่อนไหวโดยใช้รูปแบบการสัมมนาหรือเวทีในร่มครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะจากการประเมินของแกนนำเชื่อว่าสถานการณ์จะเริ่มสุกงอม เร็วกว่าที่คาด ในขณะเดียวกันความลุแก่อำนาจของรัฐบาลนับวันยิ่งปรากฎชัดและท้าทายประชาชนหรือแม้แต่คนที่เลือกพรรคพลังประชาชนเองก็เริ่มรับไม่ได้กับการใช้อำนาจมิชอบ"
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า หลังจากวันนี้เชื่อว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ คงจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ส่วนจะถึงขั้นเป็นการชุมนุมใหญ่และยืดเยื้อหรือไม่ ก็คงต้องประเมินจากมติของที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคอีกที หากมีมติเดินหน้ารื้อรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดและปฏิเสธการมีสว่นร่วมของประชาชน ถึงตอนนั้นพันธมิตรฯ ก็ไม่มีทางเลือกการชุมนุมใหญ่ก็เป็นคำตอบเดียวเท่านั้น
นางเครือมาศ นพรัตน์ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯขอนแก่น เผยว่า ในส่วนของ จ.ขอนแก่น ได้มีประชาชนเดินทางไปร่วมเวทีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยจำนวน 2 คันรถตู้ โดยแกนนำฯได้ร่วมกันลงขันเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่ารถและค่าน้ำมันราว 10,000 บาท หลังจากการเดินทางไปร่วมฟังสัมมนาครั้งนี้ทางพันธมิตรฯ ขอนแก่น จะประเมินสถานการณ์ร่วมกันอีกครั้งและจะจัดให้มีกิจกรรมเสวนาการเมืองในพื้นที่ต่อไปในเร็ววันนี้
นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของภูเก็ตจะใช้สถานที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง ถ่ายทอดสดมาจากเวทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับชม และมีส่วนหนึ่งเดินทางไปร่วมเวทีที่กรุงเทพฯ ด้วย
