กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ หน้าเดิมๆ ที่เคยไปป่วนบริเวณหน้าธรรมศาสตร์ โผล่ไปยั่วยุ ด่าทอ และขว้างขวดใส่พันธมิตรฯ ตำรวจจับไปดำเนินคดีได้ 1 ตัว พร้อมทั้งเสริมกำลังคอมมานโดจากกองปราบตั้งแถวเป็นแนวป้องกันไม่ให้มีการเผชิญหน้า แต่หวั่น พลบค่ำ ควบคุมสถานการณ์ลำบาก ประสาน กทม.ขอรถไปส่องสว่างแล้ว
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นเวทีต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลจะดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย บริเวณหน้าบริษัท เมืองโบราณ จำกัด โดยกลุ่มที่มาป่วนการชุมนุม ที่ปักหลักกันบริเวณหนาาบริษัทดังกล่าว พยายามที่จะข้ามถนนไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้น มีการขว้างปาขวดเข้าใส่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ดีแต่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบจลาจลของกองบังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) หรือ 191 ซึ่งยืนรักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ และควบคุมตัวผู้ขว้างปาขวดใส่กลุ่มพันธมิตรฯ จากนั้นคุมตัวส่งไปดำเนินคดีที่ สน.สำราญราษฎร์
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพรรคพวก ถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีแล้ว แต่กลุ่มที่เข้ามาป่วน ยังคงปฏิบัติการยั่วยุ และท้าทาย ด้วยการด่อทอกลุ่มพันธมิตรฯด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงด่าทอแกนนำพันธมิตรฯอย่างรุนแรงด้วย จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่า เหตุการณ์อาจจะบานปลายไปได้ จึงได้นำกำลังจากหน่วนคอมมานโดของกองปราบปราม เข้าไปยืนตั้งแถวเป็นแนวป้องกัน หลังแนวป้องกันของตำรวจหน่วยปราบจลาจลที่ยืนคุมสถานการณ์อยู่ก่อนแล้วอีกชั้นหนึ่ง จนกลุ่มที่เดินทางมาป่วน พากันเคลื่อนย้ายจากหน้าบริษัท เมืองโบราณ ไปยังหน้าภัตตาคารเมธาวลัย ศรแดง และปักหลักชุมนุมกันบริเวณดังกล่าว ซึ่งยังคงมีการยั่วยุ ด่าทอและท้าทายเช่นเดิม ทางตำรวจจึงนำกำลังไปประจำอยู่หน้าบริเวณดังกล่าวตาม
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 กล่าวถึงมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยว่า ในวันนี้ มีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็กการมาชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ตำรวจอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในความสงบ ไม่ยั่วยุซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคยไปต่อต้านยังบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯจัดสัมมนา
“วันนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย มีการกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อย มีการขว้างปาขวดใส่กัน ซึ่งตำรวจก็สามารถคุมตัวไว้ได้ 1 ราย ถูกนำตัวไปยัง สน.สำราญราษฎร์ แล้ว ส่วนกำลังตำรวจที่ใช้ในการดูรักษาความปลอดภัยในวันนี้นั้น เป็นการสนธิกำลังของตำรวจนครบาลกับกองปราบปราม และ ตชด.จำนวนประมาณ 400-500 นาย ทั้งนี้ ตำรวจจะคอยดูแลไม่ให้มีการเผชิญหน้ากัน และเชื่อว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังเป็นห่วงในช่วงหัวค่ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานของตำรวจ แต่ได้ประสานไปยัง กทม.ขอรถไฟส่องสว่างมาส่องเพื่อดูแลความเรียบร่อยและปลอดภัยแล้ว” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่การชุมนุมจะยืดเยื้อนั้น ตำรวจประเมินสถานการณ์ว่า จะไม่เกินวันพรุ่งนี้เช้า ซึ่งตำรวจจะต้องตามไปดูแลรักษาความปลอดภัย จนกว่าการชุมนุมจะเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ตำรวจยังได้มีการบันทึกภาพและเสียง ของกลุ่มผู้ที่มายั่วยุ และแกนนำที่ก่อความวุ่นวาย โดยจะนำหลักฐานดังกล่าวมาตรวจสอบ เพื่อใช้สำหรับดำเนินคดีในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ตำรวจปราบจลาจลจำนวนหนึ่งได้เข้าประจำที่บริเวณหน้าภัตตาคารเมธาวลัย ศรแดงแล้ว โดยสวมหมวกกันน็อก มีโล่ และกระบอง เข้ายืนกั้นเป็นแนว เพื่อป้องกัน ไม่ให้กลุ่มป่วนได้ข้ามถนนไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ต่อมา เมื่อเวลา 18.40 น. ผ๔สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มป่วนได้เริ่มก่อกวน โดยหนึ่งในผู้ชุมนุม ได้ใช้ผ้าพันคอกู้ชาติ ของกลุ่มพันธมิตรฯ มาผูกที่รองเท้าทั้ง 2 ข้าง และยกให้กลุ่มพันธมิตรดู เพื่อเป็นการยั่วยุ ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่าย พยายามข้ามฝั่งถนนเข้าหากัน และมีการขว้างปาขวดน้ำ ทั้งขวดพลาสติด ขวดแก้ว และท่อนไม้ เข้าใส่กัน จากนั้น มีการวิ่งเข้าไปปะทะกันที่กลางถนนประมาณ 5 นาที โดยตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งต่อมา ตำรวจคอมมานโด ที่มีทั้งกระบอง และโล่ ได้ผลักดันทั้ง 2 ฝ่ายให้กลับไปอยู่คนละฝั่งถนนเช่นเดิม โดยเหตุปะทะกันดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝั่งพันธมิตรฯทราบชื่อนายจารุวัฒน์ บาลนคร อายุ 20 ปี เป็นพันธมิตรฯจากจ.เพชรบุรี ได้รับบาดเจ็บที่หน้าแข้งขวาแตก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งรพ.วชิระพยาบาลแล้ว
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นเวทีต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลจะดำเนินการของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย บริเวณหน้าบริษัท เมืองโบราณ จำกัด โดยกลุ่มที่มาป่วนการชุมนุม ที่ปักหลักกันบริเวณหนาาบริษัทดังกล่าว พยายามที่จะข้ามถนนไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้น มีการขว้างปาขวดเข้าใส่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ดีแต่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบจลาจลของกองบังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) หรือ 191 ซึ่งยืนรักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ และควบคุมตัวผู้ขว้างปาขวดใส่กลุ่มพันธมิตรฯ จากนั้นคุมตัวส่งไปดำเนินคดีที่ สน.สำราญราษฎร์
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพรรคพวก ถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีแล้ว แต่กลุ่มที่เข้ามาป่วน ยังคงปฏิบัติการยั่วยุ และท้าทาย ด้วยการด่อทอกลุ่มพันธมิตรฯด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงด่าทอแกนนำพันธมิตรฯอย่างรุนแรงด้วย จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่า เหตุการณ์อาจจะบานปลายไปได้ จึงได้นำกำลังจากหน่วนคอมมานโดของกองปราบปราม เข้าไปยืนตั้งแถวเป็นแนวป้องกัน หลังแนวป้องกันของตำรวจหน่วยปราบจลาจลที่ยืนคุมสถานการณ์อยู่ก่อนแล้วอีกชั้นหนึ่ง จนกลุ่มที่เดินทางมาป่วน พากันเคลื่อนย้ายจากหน้าบริษัท เมืองโบราณ ไปยังหน้าภัตตาคารเมธาวลัย ศรแดง และปักหลักชุมนุมกันบริเวณดังกล่าว ซึ่งยังคงมีการยั่วยุ ด่าทอและท้าทายเช่นเดิม ทางตำรวจจึงนำกำลังไปประจำอยู่หน้าบริเวณดังกล่าวตาม
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 กล่าวถึงมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยว่า ในวันนี้ มีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็กการมาชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ตำรวจอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในความสงบ ไม่ยั่วยุซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคยไปต่อต้านยังบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯจัดสัมมนา
“วันนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย มีการกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อย มีการขว้างปาขวดใส่กัน ซึ่งตำรวจก็สามารถคุมตัวไว้ได้ 1 ราย ถูกนำตัวไปยัง สน.สำราญราษฎร์ แล้ว ส่วนกำลังตำรวจที่ใช้ในการดูรักษาความปลอดภัยในวันนี้นั้น เป็นการสนธิกำลังของตำรวจนครบาลกับกองปราบปราม และ ตชด.จำนวนประมาณ 400-500 นาย ทั้งนี้ ตำรวจจะคอยดูแลไม่ให้มีการเผชิญหน้ากัน และเชื่อว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังเป็นห่วงในช่วงหัวค่ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานของตำรวจ แต่ได้ประสานไปยัง กทม.ขอรถไฟส่องสว่างมาส่องเพื่อดูแลความเรียบร่อยและปลอดภัยแล้ว” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่การชุมนุมจะยืดเยื้อนั้น ตำรวจประเมินสถานการณ์ว่า จะไม่เกินวันพรุ่งนี้เช้า ซึ่งตำรวจจะต้องตามไปดูแลรักษาความปลอดภัย จนกว่าการชุมนุมจะเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ตำรวจยังได้มีการบันทึกภาพและเสียง ของกลุ่มผู้ที่มายั่วยุ และแกนนำที่ก่อความวุ่นวาย โดยจะนำหลักฐานดังกล่าวมาตรวจสอบ เพื่อใช้สำหรับดำเนินคดีในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ตำรวจปราบจลาจลจำนวนหนึ่งได้เข้าประจำที่บริเวณหน้าภัตตาคารเมธาวลัย ศรแดงแล้ว โดยสวมหมวกกันน็อก มีโล่ และกระบอง เข้ายืนกั้นเป็นแนว เพื่อป้องกัน ไม่ให้กลุ่มป่วนได้ข้ามถนนไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ต่อมา เมื่อเวลา 18.40 น. ผ๔สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มป่วนได้เริ่มก่อกวน โดยหนึ่งในผู้ชุมนุม ได้ใช้ผ้าพันคอกู้ชาติ ของกลุ่มพันธมิตรฯ มาผูกที่รองเท้าทั้ง 2 ข้าง และยกให้กลุ่มพันธมิตรดู เพื่อเป็นการยั่วยุ ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่าย พยายามข้ามฝั่งถนนเข้าหากัน และมีการขว้างปาขวดน้ำ ทั้งขวดพลาสติด ขวดแก้ว และท่อนไม้ เข้าใส่กัน จากนั้น มีการวิ่งเข้าไปปะทะกันที่กลางถนนประมาณ 5 นาที โดยตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งต่อมา ตำรวจคอมมานโด ที่มีทั้งกระบอง และโล่ ได้ผลักดันทั้ง 2 ฝ่ายให้กลับไปอยู่คนละฝั่งถนนเช่นเดิม โดยเหตุปะทะกันดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝั่งพันธมิตรฯทราบชื่อนายจารุวัฒน์ บาลนคร อายุ 20 ปี เป็นพันธมิตรฯจากจ.เพชรบุรี ได้รับบาดเจ็บที่หน้าแข้งขวาแตก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งรพ.วชิระพยาบาลแล้ว