เมื่อเวลาประมาณ 21.20 น.ที่ผ่านมา ขบวนประชาชนผู้ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนออกจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับ 5 แกนนำแล้ว โดยมีกองทัพธรรมนำหน้า เคลื่อนขบวนไปตามถนนราชดำเนิน ผ่านสะพานผ่านฟ้าฯ ไปยังหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ข้ามสะพานมัฆวานรังสรค์ ไปเลี้ยวขวาตรงแยกมิสักกะวัน เพื่อไปตั้งเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาลไปจนถึงรุ่งเช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ครั้งนี้มีประมาณ 1 แสนคน โดยหัวขบวนอยู่ที่เชิงสะพานผ่านฟ้า ขณะที่ท้ายขบวนอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางสู่ทำเนียบ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดพร้อมนำแผงกั้นหลายจุด เริ่มตั้งแต่ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกมิสักกะวัน ทำให้การเคลื่อนขบวนต้องหยุดชะงัก และแกนนำได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้เปิดทางไปยังทำเนียบรัฐบาล
โดย นายสำราญ รอดเพชร และนายอมร อมรรัตนานนท์ ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียง ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่เชิงสะพานผ่านฟ้าฯ ขอเปิดทาง โดยยืนยันว่าจะไม่มีก่อความรุนแรง เพราะการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบครั้งนี้ เพียงแค่ไปยื่นข้อเรียกร้อง
โดยก่อนหน้านี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศที่จะเดินขบวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณทำเนียบฯ จำนวนกว่า 200 นาย อย่างเข้มแข็ง ส่วนบริเวณรอบนอกของทำเนียบฯ ได้มีตำรวจจากหน่วยปราบปรามการจลาจลกว่า 200 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบนอก
นอกจากนี้ยังมีตำรวจตระเวนชายแดนพลร่มจากค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าเสริมกำลังประมาณ 3 คันรถบัส เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เดินขบวนมายังบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยเฝ้าระวังกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้ลุกลามต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้ชุมนุมบางส่วนสามารถฝ่าแนวสกัดกั้นของตำรวจที่บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าไปได้ แต่ก็ยังถูกสกัดอยู่ที่เชิงสะพานมัฆวาน ซึ่งมีตำรวจคอมมานโดรักษาการณ์อยู่จำนวนมาก และมีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ รวมอยู่ด้วย