“สดศรี” เผยกกต.มอบหมายอนุกก.ฯ สอบสัญญาการจ้างของนายกฯ ในรายการ “ชิมไปบ่นไป” หากพบเป็นการรับจ้างก็รอดตัวไม่เข้าข่ายความผิด แต่ถ้าสัญญาระบุว่าเป็นลูกจ้าง ถือว่ามีความผิดชัดเจน ขณะเดียวกันจะตรวจสอบไปถึงการถือหุ้นหรือมีตำแหน่งในบริษัทด้วยหรือไม่ โดยใช้เวลาสอบข้อเท็จริง 15 วัน
วันนี้ (20 พ.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัตินายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จากที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องขาดคุณสมบัติเนื่องจากรับจ้างจัดรายการชิมไปบ่นไปว่า ในวันนี้คาดว่าจะได้รับหนังสือชี้แจงรายละเอียดจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งประเด็นอยู่ที่การสอบสัญญาจ้าง หากพบเป็นการรับจ้างก็ไม่เข้าข่ายความผิด แต่หากสัญญาระบุว่านายกรัฐมนตรีเป็นลูกจ้างก็ถือว่ามีความผิดชัดเจน นอกจากนี้ยังคงต้องตรวจสอบเรื่องการถือหุ้น หรือตำแหน่งในบริษัทดังกล่าวด้วยว่านายกรัฐมนตรีมีชื่อติดเข้าไปด้วยหรือไม่
"ขณะนี้กกต.ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการชุดที่มี นายยอดชาย เทพยสุวรรณ ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน ซึ่ง กกต.จะพิจารณาในเรื่องการเป็นลูกจ้างของนายสมัคร ว่าเข้าตามกฎหมายแรงงานหรือไม่ รวมถึงสัญญาจ้าง ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ยืนยันว่า แม้นายสมัคร จะยุติการจัดรายการในขณะนี้ก็จะไม่ส่งผลต่อการสอบสวนของ กกต."นางสดศรีกล่าว
ขณะที่นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกกดดันต่อการพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยย้ำว่า กกต.จำเป็นต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ เนื่องจากมีผู้ร้องเข้ามา มิเช่นนั้น กกต.อาจถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากบ้านพักซอยนวมินทร์ 81 ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะมีภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเยือนประเทศฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ต้องดูว่านายกรัฐมนตรีระบุว่าจะยื่นจดหมายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้วินิจฉัยกรณีการจัดรายการโทรทัศน์ชิมไปบ่นไปว่าอยู่ในสถานะลูกจ้าง หรือเป็นการรับจ้างเท่านั้น โดยต้องการให้ กกต.วินิจฉัยโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายสมัครระบุว่ากรณีดังกล่าวถือเป็นความพยายามในการทำให้ตนเองต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งหากต้องออกจากตำแหน่งจริง จะถือว่าเป็นการตายน้ำตื้น