xs
xsm
sm
md
lg

กกต.พร้อมร่วมเป็นพยานคดี “ยุทธ ใบแดง” เชื่อรู้ผล พ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม กกต.
“สดศรี” ระบุการพิจารณาศาลฎีกาในคดี “ยุทธ ใบแดง” จะยึดพยานหลักฐานมากกว่าพยานบุคคล และศาลอาจสั่งจำหน่ายหากเห็นว่าเป็นพยานฟุ่มเฟือย คาดรู้ผลภายในเดือนนี้ พร้อมเข้าร่วมเป็นพยานหากมีหมายเรียก

วันนี้ (8 พ.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการเพื่อศึกษาวิเคราะห์ขอบเขตและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งว่า กกต.มีแนวคิดที่จะตั้งสถาบันดังกล่าว ซึ่งงบประมาณในการจัดตั้งจะนำมาจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 12 ล้านบาท และในปี 2552 จะนำมาใช้อีก 70 ล้านบาท โดยงบประมาณดังกล่าวจะนำมาพัฒนาบุคลากรของ กกต.และบุคลากรที่จัดการการเลือกตั้ง นอกจากนี้ จะจัดอบรมนักการเมือง ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อให้นำความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยไปถ่ายทอดให้กับประชาชน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และการได้มาซึ่งคนดี โดยโครงการนี้มีเพื่อพัฒนาองค์กรและสถาบันทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองต่างๆ เชื่อว่าจะทำให้นักการเมืองเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย และการหาเสียงเลือกตั้ง ขณะที่การซื้อสิทธิขายเสียงก็จะลดลง เพราะประชานจะเข้าใจถึงผลที่ได้รับจากการซื้อเสียง รวมถึงการร้องเรียนก็จะลดลงด้วย

นางสดศรี กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดีทุจริตการเลือกตั้งของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่หนึ่ง พรรคพลังประชาชน ขอร้องให้ กกต.คุ้มครองพยานว่า ในวันนี้ศาลฎีกาได้พิจารณาในส่วนของพยาน กกต.จำนวน 3 คน โดยในส่วนของ นายชัยวัฒน์ นั้น ทราบว่า ได้มอบตัวในคดีอื่นด้วย โดยในส่วนของนายชัยวัฒน์ อ้างว่า ที่ถูกข่มขู่ เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ขอกำลังให้ช่วยคุ้มครอง เชื่อว่า การสืบพยานก็ให้ความปลอดภัยกับพยานอยู่แล้ว นอกจากนี้ ฝ่ายกฎหมายได้ชี้แจงว่าในวันนี้ศาลจะสืบพยาน ของ กกต.ซึ่งเป็นกำนันในพื้นที่ และอยู่ในเหตุการณ์จ่ายเงินซื้อเสียง ซึ่งหากสอบพยาน 3 ปากนี้เสร็จสิ้นก็จะสอบพยานฝ่ายนายยงยุทธ และคาดว่า ภายในเดือนนี้ น่าจะสืบพยานเสร็จสิ้นและทราบผลการตัดสิน

เมื่อถามว่า การสืบพยานจำนวนมากเกรงหรือไม่คดีจะพลิกกลับ นางสดศรี กล่าวว่า กระบวนการของศาลจะให้ผู้ถูกกล่าวหาอ้างพยานให้เต็มที่ แต่ถ้าเป็นพยานฟุ่มเฟือยศาลก็จะตัดทิ้ง ไม่ทราบว่านายยงยุทธอ้างพยานมากแค่ไหน แต่หากศาลได้นัดพยานล่วงหน้ามากถึง 5 วันเชื่อว่าน่าจะมีพยานเป็นจำนวนมาก แต่พยานคงไม่มีผลอะไร เราก็ต้องมาสู้กันในกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน เพราะศาลจะมองพยานหลักฐานเป็นเกณฑ์ โดยเป็นคนละระบบกับ กกต.ที่ใช้หลักฐานเพียงเชื่อได้ว่าก็ลงมติได้แล้ว

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่านายยงยุทธจะขอให้ตนเป็นพยานนั้นจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นมีการเรียกมา และจริงๆ แล้ว กกต.ทุกคนให้ความเห็นส่วนตัวไปแล้ว ตามที่ศาลขอมา ถ้ามีเหตุผลที่ต้องเชิญ กกต.ไปก็จะเบิกความได้เฉพาะส่วนที่เรามีความเห็นส่วนบุคคลที่ลงมติไปแล้วเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ว่า กกต.คงจะไม่ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่าเป็นเรื่องของสภาที่ได้ส่งไปแล้ว กกต.คงไม่ส่งซ้ำ ขณะที่องค์กรอื่นก็ไม่ได้ส่งเช่นกัน อีกทั้งกฎหมายก็ไม่ได้บังคับเอาไว้ และเรื่องดังกล่าว กกต.ก็ไม่ต้องออกเป็นมติ
กำลังโหลดความคิดเห็น