ปธ.คณะที่ปรึกษา ยันยังไม่มีมติเรื่องยุบ ชท.-มฌ คาดพุธหน้าสรุปความเห็นเสนอ กกต.ได้ ยอมรับกรรมการมีความเห็นแตกต่างกัน ด้าน “สุเมธ” แนะ 2 กกต.เสียงข้างน้อยร่วมเป็นพยานในคดียุทธ ใบแดง ตามคำขอ
วันนี้ (21 มี.ค.) นายสุพล ยุติธาดา ประธานคณะที่ปรึกษากฎหมาย กล่าวว่า ในการประชุมคณะที่ปรึกษาเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมได้มีการถกปัญหาในข้อกฎหมายที่ กกต.ขอให้คณะที่ปรึกษาพิจารณา ทั้งในเรื่องที่กฎหมายกำหนด ว่า เมื่อกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กกต.จะต้องส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา โดยถือว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครบองค์ประกอบกฎหมายแล้วหรือยัง หรือกรรมการบริหารพรรคทำผิดจนถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะต้องมีกรรมการบริหารพรรคคนอื่นรู้เห็นด้วยหรือไม่ แต่ทั้งนี้ ที่ประชุมก็ยังไม่ได้มีการลงมติใดๆ ทั้งสิ้น เพราะกรรมการทั้ง 7 คน ยังมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันนัก ซึ่งเป็นประเด็นของรายละเอียดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้
สำหรับในส่วนของประเด็นข้อเท็จจริงที่ว่า มีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทางที่ปรึกษาไม่ได้มีการพิจารณาแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นประเด็นที่มีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนเป็นที่ยุติแล้ว อย่างไรก็ตามในการประชุมในวันที่ 26 มี.ค.ที่จะถึงนี้ คณะที่ปรึกษาจะมีการนัดประชุมอีกครั้ง ซึ่งน่าจะได้ข้อยุติ พร้อมทั้งเสนอความเห็นเสนอต่อที่ประชุม กกต.ได้
ด้าน นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับทราบความเห็นของที่ปรึกษา กกต.ถ้าหากทราบแล้วก็ต้องดูว่า คณะที่ปรึกษาแนบเหตุผลในการอธิบายข้อกฎหมายที่ กกต.สงสัยอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งนี้หากที่ปรึกษาเสนอความเห็นมา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจาณาว่า ข้อเสนอดังกล่าวฟังได้หรือไม่ และก็จะนำมาประกอบกับสำนวนข้อเท็จจริงที่มีการสืบสวนสอบสวนที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ กกต.ก็มีดุลพินิจของ กกต.เอง ที่สามารถจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหวัหน้าพรรคพลังประชาชน อ้างชื่อ นายสมชัย จึงประเสริฐ และ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.เป็นพยานในคดีของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช นั้น ก็เห็นว่า เมื่อเขาขอมาให้ไปเป็นพยานก็ควรไป อย่าถือว่า กกต.อยู่ข้างใดข้างหนึ่ง แต่ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร เมื่อใครขอมา ก็ไปทั้งนั้น แต่ทั้งนี้ ต้องดูว่า ศาลฎีกาได้ทำหนังสือเรียกมาจริงหรือไม่อย่างไร