ข้าราชการ “บัวแก้ว” ฮึดสู้ “ระบอบทักษิณ” ใช้อำนาจกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม ล่าสุด ปลัดกระทรวงเขียนจดหมายด้วยลายมือ เค้นความรู้สึกเชิดชูอดีตกรมสนธิสัญญา ระบุ สมเป็น ขรก.ของพระเจ้าอยู่หัว ฐานไม่ยอมร่วมมือ ขณะที่ “จารุวรรณ” ร่วมสดุดีพร้อมเตรียมนำพนักงาน สตง.-คตส.มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจจันทร์นี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (9 พ.ค.) ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ฮึดสู้อำนาจการเมืองใช้อำนาจมิชอบสั่งย้าย นายวีระชัย พลาศรัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง อย่างไม่เป็นธรรม และมีเสียงวิจารณ์ว่าการโยกย้ายดังกล่าวเป็นใบสั่งจากคนบางคนกรณีขัดขวางไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเอกสารทุจริตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซ๊ทีเอ็กซ์ให้ทราบข้อมูล ล่าสุด ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงข้าราชการชื่นชมการทำหน้าที่ของ นายวีระชัย ว่า เป็นการทำหน้าที่เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ทั้งนี้ “เว็บไซต์มติชนออนไลน์” ได้รายงานว่า วันที่ 8 พฤษภาคม นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปสมทบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศจีน ตั้งแต่ค่ำวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ และเปิดเทศกาลไทยครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 8-10 พฤษภาคม และให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการย้าย นายวีระชัย ว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีข้าราชการเก่งๆ มากมาย และคนที่แต่งตั้งมาแทนก็มีความเหมาะสม สามารถทำงานได้
นายนพดล ย้ำว่า การย้ายครั้งนี้เพื่อความเหมาะสมและประสิทธิภาพในการทำงาน จริงๆ แล้วเรื่องภายในกระทรวง ตนก็ไม่อยากนำมาพูดมาก แต่การย้ายครั้งนี้ ขอยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องเอกสารคดีซีทีเอ็กซ์แต่อย่างใด แต่ความจริงมีสาระสำคัญมากกว่านั้น ขณะนี้ตนต้องมาดูเรื่องเอกสารที่ให้ข้าราชการไปประชุมที่กัมพูชา ว่า มีข้อตกลงที่ผูกมัดไทยมากไปหรือไม่
“ผมทำงานอยู่หลังฉาก ไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ข้าราชการ แต่ขอรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และสิ่งที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้ว” นายนพดล กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ย้าย นายวีระชัย พลาศรัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุการโยกย้ายดังกล่าว เนื่องจากมีคนบางฝ่ายได้มีประสานเป็นการภายในเพื่อขอข้อมูลการสอบสวนของสหรัฐฯ เรื่องการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ แต่ นายวีระชัย ให้ทำหนังสือขอมาเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้คนบางฝ่ายไม่พอใจนายวีระชัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกด้วยลายมือส่งถึงข้าราชการกรมสนธิสัญญาฯ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีเนื้อหาชื่นชมความรู้ความสามารถของ นายวีระชัย ความว่า
เรียนเพื่อนข้าราชการกรมสนธิสัญญาทุกท่าน
เนื่องในโอกาสที่ท่านอธิบดีวีระชัย จะพ้นตำแหน่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผมขอขอบคุณท่านอธิบดีวีระชัย ที่ได้อุทิศตนทำงานเพื่อชาติอย่างเข้มแข็ง แม้จะในช่วงเวลาอันแสนสั้นในตำแหน่งนี้
ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานกับท่านอธิบดีวีระชัย ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเจรจาเขตแดนกับลาว และกัมพูชา ซึ่งท่านอธิบดีได้แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์แก่ฝ่ายลาวและกัมพูชา พวกเราทุกคนที่อยู่ในคณะผู้แทนไทยทั้งข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยราชการต่างๆ มีความภูมิใจที่ราชอาณาจักรไทยมีนักการทูตที่เก่งกาจ เช่น ท่านอธิบดีวีระชัย ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีเลิศในการปกป้องผืนแผ่นดินไทยและผลประโยชน์ของชาติ
ตลอดเวลาที่ผมได้ร่วมงานกับท่านอธิบดีวีระชัยมา ผมมีความเชื่อมั่นในวิจารณญาณและ INTEGRITY (ความซื่อสัตย์ซื่อตรง) ของท่านอธิบดี ซึ่งผมมีความมั่นใจว่าท่านอธิบดีวีระชัยในการปฏิบัติหน้าที่ใหม่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของปลัดกระทรวงและดูแลงานด้านบุคคลากรของกระทรวงก็จะประสบความสำเร็จ อย่างดียิ่งด้วยคุณสมบัติดังกล่าวของท่านอธิบดี
สุดท้ายนี้ ขอให้ข้าราชการทุกท่านของกรมสนธิสัญญายึดถือท่านอธิบดีวีระชัย เป็นบุคคลตัวอย่างได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติอย่างสุดความสามารถและรักษาเกียรติยศของชาติของกระทรวงการต่างประเทศให้สมศักดิ์ศรีของข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ลงชื่อ วีระศักดิ์ ฟูตระกูล
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
7 พฤษภาคม 51
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวแจกจ่ายให้กับข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศให้รับรู้กันอย่างทั่วถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในกระทรวงการต่างประเทศมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงประเด็นการย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ข้าราชการหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วย และเสียดายที่นายวีระชัยโดนย้าย
ข้าราชการบางคน กล่าวว่า ไม่คิดว่า นายวีระชัย จะโดนย้ายด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับเขาพระวิหาร ขณะที่ข้าราชการที่กรมสนธิสัญญาฯบางคนกลับไม่เห็นด้วยว่าการย้ายครั้งนี้เพื่อปรับเปลี่ยนคนให้เหมาะสมกับงานตามที่นายนพดลให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้
“อธิบดีวีระชัยคือคนที่เหมาะกับตำแหน่งนี้ที่สุดแล้ว” เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง กล่าว
ด้าน นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า เอกสารการสอบสวนคดีการจัดซื้อซีทีเอ็กซ์ 9000 และระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ของสหรัฐที่กรมสนธิสัญญาฯ ช่วยแปลให้ คตส.นั้นถือเป็นเอกสารชั้นความลับสุดยอด เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรับทราบได้
“ทางสหรัฐฯ กำชับว่า เป็นความลับสูงสุด จะเปิดเผยได้ก็เฉพาะในกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น หากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เปิดเผยก็จะมีความผิด ร่วมถึงบุคคลที่ขอให้เปิดเผย ก็ต้องมีความผิดด้วย ข้าราชการที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ควรที่จะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ ไม่ควรถูกคุกคาม กลั่นแกล้ง” นายสัก กล่าว
ด้าน คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมการ คตส.กล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานของนายวีรชัย และขอดูแคลนพฤติกรรมการย้ายเช่นนี้ และวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 10.00 น.จะนำกระเช้าดอกไม้ไปมอบให้กับนายวีระชัยที่กระทรวงการต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงจารุวรรณยังได้โฟสต์ข้อความชื่นชมนายวีรชัยผ่าน “เว็บไซต์มติชนออนไลน์” ด้วย
โดยมีข้อความว่า “ดิฉันขอให้กำลังใจ ท่าน วีระชัย และขอแสดงความขมขื่นใจ ต่อความดูแคลน ของผู้ใช้อำนาจโยกย้าย ที่ดูเสมือนไร้ความเป็นธรรม ดูประหนึ่งเป็นการรังแกข้าราชการ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดิฉันขอสดุดี ท่านวีระชัย พลาศรัย และ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ข้าราชการ สตง.ขอร่วมแสดงความนับถือ ต่อมาตรฐานอันสูงส่ง ของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ
จาก คุณหญิงจารุวรรณ
แหล่งข่าวจาก คตส.รายหนึ่ง กล่าวว่า เอกสารดังกล่าว คตส.ได้รับส่งมอบมาจากอัยการสูงสุด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งทั้งสองหน่วยงานนี้มีอยู่คนละชุด ต่างกันก็เพียงเอกสารของ คตส.ผ่านการแปลเป็นภาษาไทย โดยมีกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการให้ ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า มีนักการเมืองชื่อดังพยายามจะติดสินบน เพื่อให้คนบางกลุ่มดึงเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศแปลเอกสารนี้ออกไปให้นานที่สุดด้วย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เงา ของพรรคก็มีการพูดถึงเรื่องการโยกย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ และมีข้อมูลเช่นกันว่ามีความพยายามของบางฝ่ายที่จะเอาข้อมูลดังกล่าวออกไป พรรคจะติดตามเรื่องนี้ว่าสาเหตุการโยกย้ายเป็นเพราะเหตุผลนี้หรือไม่ ถ้าพบว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย เราก็จะพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
“ผมขอเตือนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า บทบาทของท่านที่ผ่านมา ทำตัวเป็นตัวแทนประเทศไทยน้อยมาก แต่ยังทำตัวปกป้องผลประโยชน์ของอดีตนายกรัฐมนตรีมากกว่า ซึ่งมันไม่เหมาะสม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (เงา) พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การย้ายนายวีระชัยนั้น คิดว่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการขอเอกสารซีทีเอ็กซ์อย่างเดียว แต่มีเรื่องอื่นๆ เช่น เงื่อนไขข้อตกลงบันทึกช่วยจำความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่าง ไทย ลาว พม่า กัมพูชา และมีหลายส่วนที่เกี่ยวโยงกับ คตส.หรือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รัฐบาลต้องให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ ว่า เป็นจริงตามข่าวลือหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน้าตาของประเทศ และกระทบต่อข้าราชการโดยตรง อย่างไรก็ตาม มีช่องทางที่ข้าราชการเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้กับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หรือศาลปกครอง
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อยื่นถอดถอนนายนพดล กรณีโยกย้ายนายวีระชัยอย่างไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นจะตั้งกระทู้ถามในสภาก่อน