“อภิสิทธิ์” รอมาเดือนเศษ จึงได้ออก NBT วิจารณ์ผลงาน 3 เดือนรัฐบาล ชี้ ยังไม่ค่อยเข้าตา ระบุผลโพล ปชช.ไม่พอใจ เพราะรัฐละเลยปัญหาความเดือดร้อน มัวแก้ รธน. แถมเมินคำแนะนำจาก ครม.เงา แนะนายกฯ ลดท่าทีสร้างความขัดแย้งในสังคม
คลิกที่นี่เพื่อฟังรายการ ถามจริงตอบตรง
รายการ “ถามจริง ตอบตรง” ดำเนินรายการโดย นายจอม เพ็ชรประดับ ออกอากาศทางเอ็นบีที เคยเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านมาร่วมรายการ ในวันที่ 2 เม.ย.2551 แต่กลับมีการยกเลิกกะทันหันก่อนเวลาออกอากาศเพียงครึ่งชั่วโมง เพื่อหันไปถ่ายทอดรายงานพิเศษ “น้ำ เดอะสตาร์” เสียชีวิตแทน อย่างไรก็ตาม ล่าสุด คืนวันนี้ (8 พ.ค.) นายอภิสิทธ์ ก็ได้มาออกรายการเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือน หลังจากที่วันก่อน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับผลงานของรัฐบาล ในวันที่ 6-7 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมุมมองของพรรคฝ่ายค้านที่มีต่อผลงานรัฐบาลในช่วง 3 เดือน ซึ่งมีผลสำรวจความคิดเห็น ระบุว่า ประชาชนยังไม่พอใจกับการบริหารงานของรัฐบาล โดย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาลนั้น มาจากสาเหตุใหญ่ 3 ข้อ คือ ประชาชนมีความคาดหวังสูง ว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งน่าจะดูแลปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่านี้ สาเหตุที่สองคือ รัฐบาลเองไม่ได้แสดงออกถึงการจัดอันดับความสำคัญของปัญหาที่จะต้องแก้ไข เพราะสิ่งที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ไม่ได้รับการแก้ไข แต่ไปแก้ไขเรื่องอื่นที่ยิ่งพูดยิ่งแก้ ก็ยิ่งส่งผลขัดแย้งทางการเมือง และสาเหตุสุดท้ายคือ รัฐบาลยังไม่มีนโยบายในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนที่ชัดเจน เช่นนโยบายการลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ทั้งที่รัฐบาลก็เคยหาเสียงเอาไว้ว่าจะแก้ไข แต่พอเข้าบริหารงานจริงกลับไม่มีนโยบาย และการดำเนินงานที่ชัดเจน
หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า ปัญหาทางนโยบายต่างๆ ทางฝ่ายค้านก็ได้มีการพูดคุยกันในปัญหาต่างๆ แล้วให้รัฐมนตรีเงา นำเสนอต่อรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องนั้นๆ โดยตรงเช่น มาตรการลดรายจ่ายให้ประชาชนช่วงก่อนเปิดเทอม ฝ่ายค้านก็มีการจัดทำแผนการแก้ไขไปนำเสนอ รมต.คลัง มีการแจงตัวเลขให้เสร็จสรรพ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ หรืออย่างปัญหาเรื่องข้าว ที่พรรคประชาธิปัตย์ เคยบอกไปแล้วว่ารัฐบาลไม่ควรไปสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดข้าว แต่ รมต.ที่เกี่ยวข้องก็กลับไปให้สัมภาษณ์เรื่องข้าว จนเกิดความปั่นป่วนในเรื่องการกักตุนข้าวและกลายเป็นปัญหามาถึงตอนนี้ ซึ่งปัญหาต่าง ๆ นี้ทางฝ่ายค้านเคยเสนอไปหมดแล้ว แต่รัฐบาลก็ไม่ตอบสนอง ซึ่งตนก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้เองคือสาเหตุที่ประชาชนไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล
ด้านการแก้ปัญหาภาคใต้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารงานใหม่ๆ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้เคยเข้าพบตน ซึ่งตนก็ให้ข้อคิดข้อเสนอ รวมถึงส่งร่างกฎหมายให้หนึ่งฉบับ เพื่อที่จะนำไปปรับโครงสร้างการแก้ปัญหาภาคใต้ทั้งหมด ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมก็ตอบรับด้วยดีแต่ก็ยังไม่ดำเนินการจนถึงตอนนี้ ทั้งที่ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข รวมถึงให้กำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงาน
“ตรงนี้เป็นเรื่องต้องสร้างขวัญและกำลังใจ ที่ท่านนายกฯบอกว่ายังไม่ต้องไป แต่ผมไปมาแล้ว และเมื่อไปผมก็ได้รู้ว่าเขาเหล่านั้นต้องการกำลังใจ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ต่อคำถามที่ว่าพรรคฝ่ายค้านผิดหวังกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลหรือไม่ และรัฐบาลควรจะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนยอมรับได้ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า “ผิดหวัง และคิดว่ารัฐบาลจะต้องปรับปรุงท่วงทำนองในการบริหาร อย่างเมื่อคืนพรรคร่วมรัฐบาลคุยกัน ซึ่งบางพรรคบอกว่ายังไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ อยากแก้ปัญหาปากท้องก่อน ถ้าท่านพูดจริงและจะทำจริง อันนั้นคือมาถูกทางแล้ว และผมขอยืนยันว่า ในฐานะของฝ่ายค้าน ถ้ารัฐบาลมุ่งในการแก้ปัญหาที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ เรายินดีที่จะสนับสนุนให้ความร่วมมือ และข้อคิดต่าง ๆ ที่เรานำเสนอไป แม้ท่านไม่ตอบสนองมา ผมจะไม่หยุดก็ยังยืนยันว่ามีอะไรที่เราคิดว่ามีประโยชน์ต่อประชาชน ก็จะนำเสนอรัฐบาลต่อไป”
เมื่อถามว่า ผลงานใดของรัฐบาลที่ฝ่ายค้านคิดว่าพอใจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พอใจในเรื่องของ การยกเลิกมาตรการเงินทุนสำรอง 30% และการช่วยเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ขายอ้อยได้ราคาสูงขึ้น แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาอ้อย โดยผลักภาระให้ผู้บริโภคโดยขึ้นราคาน้ำตาล กก.ละ 5 บาท เพราะตนเห็นว่ามีวิธีการอื่นที่ดีกว่าการผลักภาระให้ประชาชน
ผู้ดำเนินรายการถามว่า มีอะไรแนะนำเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ขอให้ท่านมุ่งปัญหาให้ประชาชน ลดการส่งเสริมการขัดแย้งในการเมืองขัดแย้ง และท่านเองจะอ้างว่าเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของท่านนั้น คือถ้าเป็นการใช้ชีวิตในส่วนตัวของท่านก็ไม่เป็นไร แต่วันนี้ท่านเป็นผู้นำประเทศ การพูดการแสดงท่าทางต่างๆ มันเป็นตัวกำหนดบรรยากาศของบ้านเมือง” นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
