มหาสารคาม - เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังกำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะข้าวเหนียว เนื่องจากพ่อค้าปิดการรับซื้อ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขและมีทางออกแล้ว
นายวิไล อามาตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเลิงใต้ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในพื้นที่ตำบลเลิงใต้เป็นแหล่งปลูกข้าวนาปรังที่สำคัญของจังหวัด แม้ที่ผ่านมา จะมีการระบาดของศัตรูข้าว แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานเกษตรก็สามารถให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้ แต่ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องการตลาดต้องอาศัยร่วมมือจากทุกภาคส่วน
โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องมีความชัดเจนเพื่อให้ผู้ซื้อ และผู้ผลิตมีความมั่นใจวิถีการตลาดข้าวตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิตจนไปถึงมือพ่อค้าผู้ส่งออก
จากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดพบว่า ที่ตลาดกลางผลิตผลการเกษตร สหกรณ์โกสุมพิสัยจำกัด พ่อค้าที่เปิดจุดรับซื้อข้าวได้เลือกซื้อเฉพาะข้าวเจ้า ส่วนข้าวเหนียวได้ปิดการรับซื้อไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ทำให้เกษตรกรต้องประสบปัญหาความเดือดร้อน ไม่มีลานตากข้าว ซึ่งระยะนี้มีฝนตกชุกเกือบทุกวัน ทำให้ข้าวมีความชื้นสูง หากปล่อยไว้นานข้าวจะได้รับความเสียหาย
โดย นายนิพัฒน์ ปุริมศักดิ์ ผู้จัดการสหกรณ์โกสุมพิสัย จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ได้ทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป โดยได้ติดต่อพ่อค้าเปิดจุดรับซื้อที่สหกรณ์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นมา แรกๆ ข้าวเหนียวยังมีปริมาณน้อย 400-500 ตัน แต่ระยะหลังราคาตลาดข้าวมีความผันผวนจึงต้องปิดการรับซื้อข้าวเหนียวไว้ก่อน
จากปัญหาที่เกิดขึ้น นายรังสรรค์ เพียรอดวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้ร่วมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวแทนเกษตรกร การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ติดต่อโรงสีจากต่างจังหวัด เปิดจุดรับซื้อข้าวนาปรัง เพิ่มเป็น 3 จุด คือที่สหกรณ์ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และที่ตลาดกลาง ธ.ก.ส.อำเภอเมืองมหาสารคาม เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการซื้อขาย
ทั้งนี้ ข้าวเหนียวจะรับซื้อในราคาตันละ 6,000 บาท และข้าวเจ้าราคาตันละ 11,200 บาท กำหนดจะเริ่มเปิดจุดรับซื้อทั้ง 3 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป