คตส.เห็นพ้องสั่งเพิ่มฐานความผิดแก๊งทุจริตซีทีเอ็กซ์ ทั้ง พ.ร.บ.ฮั้ว และฉ้อโกง เข้าไปในสำนวนด้วย พร้อมส่ง อสส.จันทร์หน้า ด้านบ้านเอื้ออาทร จ่อคิวเชือดผู้บริหารกรุงไทย ปล่อยกู้ 3.5 พันล้าน เอื้อบริษัทในเครือกฤษดามหานคร
วันนี้ (6 พ.ค.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงภายหลังการประชุม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 4 ในการพิจารณาสำนวนการทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปในข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว โดยพบว่ามีบุคคลกระทำความผิดกฎหมายจำนวน 3 กลุ่ม คือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พนักงานเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการชุดต่างๆ และภาคเอกชน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเอกสารหลักฐานทั้งจากสหรัฐอเมริกา และจากฝ่ายไทย จนได้ข้อยุติจบเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกต และให้อนุกรรมการไต่สวนฯ กลับไปปรับบทให้สอดคล้องกับความเห็นของที่ประชุม โดยเฉพาะข้อกฎหมาย ซึ่งต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับพฤติกรรมเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น จึงได้เลื่อนไปพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค.เวลา 09.30 น.คาดว่า จะได้ข้อสรุปแน่นอน
แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ได้พิจารณาและเห็นตรงกันจากหลักฐานและเอกสารที่อนุกรรมการไต่สวนฯสรุป โดย คตส.ส่วนใหญ่เชื่อว่ามีการกระทำความผิด มีการเรียกรับเงิน และได้มอบให้อนุกรรมการไต่สวนฯ กลับไปปรับบทกฎหมายในส่วนของความผิด โดยให้เพิ่มความผิด พ.ร.บ.ฮั้ว และประมวลกฎหมายอาญาฐานฉ้อโกง มาตรา 341 เข้าไปในสำนวนด้วย โดยในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค.นี้ คตส.จะพิจารณาผู้ถูกกล่าวหาเรียงตัวว่าบุคคลใดมีความผิดตามกฎหมายใดบ้าง
นอกจากนี้ นายสัก ยังกล่าวด้วยว่า คตส.ยังได้รับแจ้งอัยการสูงสุดว่าจะมีการส่งผลการพิจารณาสำนวนคดีการปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่าของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่ง คตส.กำลังรอดูข้อเท็จจริงอยู่ ไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกับอัยการสูงสุด เพื่อหาทางออกหรือไม่
นายสัก กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในโอกาสใกล้หมดวาระ คตส.ขอขอบคุณสปอนเซอร์ทุกท่านที่ส่งคุกกี้ และ เค้ก มาให้ คตส.รับประทานเป็นอาหารว่างทุกนัดที่มีการประชุม โดยมีการส่งมาจากทั้งชาวไทย และญี่ปุ่น นอกจากนี้ ขอขอบคุณผู้หวังดีที่ได้ส่งหนังสือศิลปะการมีชีวิตในโลก และศิลปะการดับทุกข์ มาให้ คตส.ด้วย
นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส.กล่าวว่า การประชุม คตส.ในวันที่ 12 พ.ค.นอกเหนือไปจากการสรุปสำนวนคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 แต่จะมีการพิจารณาคดีโครงการบ้านเอื้ออาทร และกรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้อนุมัติเงินกู้ให้แก่บริษัทในเครือกฤษดามหานคร เกินวงเงินที่ต้องใช้จริงเป็นจำนวน 3.5 พันล้านบาท เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไปด้วย
เลขานุการ คตส.กล่าวว่า ตอนนี้ที่ประชุม คตส.ได้ติดตามสอบถามการทำงานของคณะอนุกรรมการไต่สวนทุกคณะว่ามีความคืบหน้าอย่างไรเพื่อที่จะได้จัดวาระการประชุมให้ลงตัวสำหรับการพิจารณาคดีได้ ซึ่งคาดว่า ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ จะมีคณะอนุกรรมการไต่สวนฯเสนอเรื่องมาให้ คตส.มาพิจารณาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะต้องขอให้มีการประชุมคตส.เป็นสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อรองรับการทำงานที่ตามมาในช่วงนี้