อัยการนำร่องงัดข้อ คตส.ตีกลับสำนวนหวยบนดิน เสนอตั้งกรรมการร่วมพิจารณาใหม่ อ้างไม่สมบูรณ์ครอบคลุม 5 ประเด็น ด้าน “อุดม” ย้ำไม่มีความรู้สึกอะไร หนุนให้องค์กรเอกชนจากภายนอกเข้าร่วมเพื่อความโปร่งใส ชี้สังคมตัดสินใจเองว่าใครทำอะไรไว้บ้าง
วันนี้ (19 ม.ค.) นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดสงหนังสือให้ คตส.ตรวจสอบหลักฐานและสอบพยานเพิ่มเติม โดยอ้างว่าเอกสารยังไม่สมบูรณ์ว่า อัยการสูงสุดได้ส่งเอกสารมาให้ คตส.เรียบร้อยแล้ว โดยขอให้ คตส.ทำการสอบสวนเพิ่มเติม 5 ประเด็น กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม หนังสือดังกล่าวไม่ใช่เป็นการทำความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง แต่เป็นการขอให้ คตส.สอบเพิ่มเติม ดังนั้นจะนำหนังสือดังกล่าวเข้าที่ประชุมใหญ่ คตส.ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ เพื่อให้พิจารณาว่าจะมีมติเห็นชอบให้มีการตั้งคณะทำงานสองฝ่ายหรือไม่ ส่วนตัวยังตอบไม่ได้ว่าที่ประชุมจะมีมติเห็นด้วยหรือไม่
“ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่อัยการสูงสุดจะมีความเห็นแตกต่างกับ คตส.ซึ่งสามารถที่จะหาจุดร่วมได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วม โดยผมเห็นควรจะมีหน่วยงานยุติธรรม จากองค์กรเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อให้ทุกอย่างเปิดเผยโปร่งใส อาจจะมี สภาทนายความ เนติบัณฑิตสภา และสมาคมวิชาชีพด้านนิติศาสตร์อื่น เข้ามาร่วมพิจารณาด้วย พร้อมมีคนใน คตส.ด้วย และไม่จำเป็นต้องเป็นผม เพราะต้องเข้าไปชี้แจงในเรื่องนี้อยู่แล้ว ฐานเป็นผู้รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ผมไม่รู้สึกเสียใจ เพราะเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของท่าน แต่สุดท้าย สื่อ ก็จะตรวจสอบแต่ละฝ่ายเองว่าใครมีที่มาอย่างไร และใครทำอะไร เพราะทุกคนต้องถูกตรวจสอบอยู่แล้ว สังคมจะรู้ เองว่าใครทำอะไร” นายอุดม กล่าว
มีรายงานข่าวจากอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หนังสือที่อัยการสูงสุดส่งถึงนายอุดม ลงวันที่ 17 ม.ค.2551 เรื่อง แจ้งข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีได้ และตั้งคณะทำงานร่วมกัน โดยอัยการสูงสุดได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะอนุกรรมการแล้วเห็นว่า ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 47 คน กระทำความผิดเกี่ยวกับการออกสลากพิเศษ
รายงานข่าวแจ้งว่า ประเด็นที่อัยการสูงสุดเสนอให้ คตส.ตรวจสอบเพิ่มเติมมีทั้งหมด 5 ประเด็น คือ 1.คดีนี้คณะอนุกรรมการตรวจสอบตามคำสั่ง คตส.ที่1/2549 ลงวันที่ 19 ต.ค.2549 กับอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณ กับพวก กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามคำสั่ง คตส. ที่ คตส.009/2550 ลงวันที่ 24 เม.ย.2550 เป็นอนุกรรมการคนละชุด และมีหน้าที่ต่างกัน ซึ่งอนุกรรมการตรวจสอบมีหน้าที่เพียงแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อ คตส. แต่คณะอนุกรรมการไต่สวนเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ไต่สวนความผิดทางอาญา เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวน การที่คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้นำบันทึกถ้อยคำของบุคคลในชั้นตรวจสอบมาเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณา แล้วมีความเห็นดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหา
โดยมิได้นำบุคคลผู้ให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการตรวจสอบมาสอบคำให้การเป็นพยานในการสอบสวนคดีอาญา ถ้อยคำของพยานบุคคลดังกล่าวจึงเป็นเพียงพยานบออกเล่า ไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังให้ศาลลงโทษได้ และไม่มีผลผูกพันให้บุคคลดังกล่าว ต้องเบิกความในชั้นศาล หากบุคคลดังกล่าวให้การที่ผิดแผกแตกต่างจากชั้นตรวจสอบก็ไม่ถือว่าเป็นการให้เท็จต่อพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนในคดีอาญา จึงเป็นข้อที่ไม่สมบูรณ์ อาจก่อให้เกิดความเสียหาย แก่การดำเนินคดีได้ ควรให้บุคคลดังกล่าวมาให้การต่อหน้า คณะอนุกรรมการไต่สวนโดยตรง หรือให้มีการรับรองข้อเท็จจริงตามที่เคยให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการตรวจสอบ
2.ในกรณีการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2-3 ตัว ถือว่าเป็นสลากเพื่อการกุศล จะเป็นสลากกินแบ่งหรือสลากกินรวบ ไม่มีคำนิยามในกฎหมายว่าเป็นสลากประเภทใด มิได้แยกประเภทไว้ชัดเจน เนื่องจากคดีนี้มีปัญหาเรื่องการจัดเก็บภาษีการพนัน ซึ่งเป็นสาระสำคัญในคดี จึงจำเป็นต้องให้ผู้ชำนาญการพิเศษของกระทรงวงมหาดไทย หรือของศาลมาให้ถ้อยคำ เป็นพยานว่าการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัว ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2546 เป็นการพนันประเภทใด การที่มิได้มีการสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษไว้ในสำนวน จึงเป็นข้อไม่สมบูรณ์ของการสอบสวน
3.ในสำนวนการสอบสวนไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคณะรัฐมนตรีเคยมีมติให้สำนักงานกินแบ่งรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐอื่นออกสลากกินแบ่งหรือสลากพิเศษ เพื่อหารายได้ไปใช้ในกิจการสาธารณกุศล โดยความเห็นของคณะรัฐมนตรี ในรูปแบบใดบ้าง โดยเฉพาะการออกสลากการกุศลในรูปแบบสลากกินแบ่ง สลากการกุศล หรือสลากพิเศษ เสี่ยงโชคแบบอื่นๆ และเมื่ออนุญาตแล้วสำนักกินแบ่งรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตออกสลากการกุศลดังกล่าวได้รับการยกเว้นภาษี ตามประมวลรัษฎากร หรือลดหย่อนอากร ตาม พรบ.การพนัน พ.ศ.2478 เพียงใด และสำนักกินแบ่งรัฐบาลได้รับผลประโยชน์อย่างไร การที่กล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหาร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีอากร พยานหลักฐานจึงยังไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้
4.พยานหลักฐานเกี่ยวกับการนำรายได้ ที่เกิดจากการออกสลากเพื่อนำรายได้คืนสู่สังคม ได้นำเงินไปใช้จ่ายในกิจกรรมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ สำหรับการแก้ไขปัญหาเด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาส เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน คนยากจนอย่างไรบ้าง ยังไม่ปรากฏในสำนวน จึงจำเป็นต้องสอบสวนเพิ่ม โดยไต่สวนข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการด้านยุทธศาสตร์และผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ได้รับผลประโยชน์จากเงินดังกล่าวเป็นพยาน
5.เห็นควรให้สอบสวนหลักฐานที่แน่ชัดว่า คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้สอบบัญชี และทำการตรวจสอบรับรองบัญชีการเงินทุกประเภทของสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ตั้งแต่เริ่มโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2-3 ตัว เพื่อนำรายได้คืนสู่สังคม จนถึงวันสิ้นสุดการออกสลากพิเศษ และทำรายงานผลการตรวจสอบบัญชีและการเงินเสนอต่อสำนักงานกินแบ่งรัฐบาลตาม พรบ.สำนักงานกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 เพื่อเสนอต่อครม.ไว้อย่างไร หรือไม่ และถ้าหากมีการตรวจสอบและรับรองบัญชีแล้วให้ส่งเอกสารหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงท้ายของหนังสืออัยการสูงสุดขอให้ คตส.ตั้งคณะทำงานจำนวน 5 คน เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาตรา 11 ต่อไป เมื่อ คตส.ตั้งคณะทำงานแล้ว โปรดแจ้งให้อัยการสูงสุดแจ้งให้ทราบด้วย
ด้าน นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า นายชัยเกษม นิติศิริ อัยการสูงสุด ได้ทำหนังสือถึง คตส.อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้เพื่อให้ คตส.ทำการสอบสวนคดีหวยบนดินเพิ่มเติม เนื่องจากอัยการเห็นว่าสำนวนหวยบนดินที่ คตส.ส่งมานั้น ไม่สมบูรณ์ เพราะการสอบสวนในหลายจุด สมควรให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมให้มากกว่านี้ จึงมีความเห็นให้ คตส.สอบสวนเพิ่มเติม 5 ประเด็น เช่น ให้สอบสวนว่าการออกสลากกินรวบและสลากกินแบ่งฯ มีความแตกต่างกันอย่างไร และขอให้เขียนให้ชัดเจน เพราะมีส่วนสำคัญในคดี ที่สำคัญ คตส.ต้องนำพยาน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมายืนยัน ความแตกต่างของสลากกินรวบ กับสลากกินแบ่งให้ได้ เพราะในสำนวนที่ คตส.ส่งมาไม่มีส่วนนี้ ซึ่งอัยการเห็นว่าหากไม่มีแล้วมีการส่งฟ้องต่อศาล จะทำให้การนำสืบในชั้นศาลไม่มีพยาน
อย่างไรก็ตาม ทางอัยการยังไม่ได้ลงลึกสอบสวนว่าเรื่องหวยบนดินมีใครทุจริต หรือทำให้รัฐเสียหาย เพราะข้อเท็จจริงที่ส่งมายัง คตส.ยังไม่ชัดเจน จึงทำให้การสอบสวนเรื่องการทุจริตอัยการยังไม่สามารถสอบสวนลงไปลึกได้ ดังนั้น อัยการสูงสูดจึงทำให้อัยการสูงสุดทำหนังสือส่งไปยัง คตส.ให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดยการตั้งคณะทำงานร่วมกัน 2 ฝ่าย คือคตส.กับอัยการ ซึ่งอัยการสูงสุดได้เสนอรายชื่อคณะทำงานในส่วนของคณะทำงาน 5 คน
ก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุหนึ่งที่มีการยื้อสำนวนการสอบสวนส่วนหนึ่ง อาจมาจากกรณีที่มีบิ๊กอัยการคนหนึ่งถูก คตส.สอบสวนในคดีเครื่องตรวจจับระเบิดซีทีเอ็กซ์ด้วย และคดียังไม่ค่อยมีความคืบหน้าเนื่องจากหน่วยราชการไม่ให้ความร่วมมือให้ข้อมูล
/0110