นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงหลังการประชุมใหญ่เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีต่างๆ ของ คตส.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคดีอาญา กรณีที่เกี่ยวกับ พระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตแปลงเป็นค่าสัมปทาน(เอื้อประโยชน์) ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการคตส.เป็นประธาน ซึ่งอนุฯไต่สวน ได้สรุปรายงานสำนวนดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่คตส. ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่า เห็นควรให้คณะอนุกรรมการฯนำกลับไปปรับปรุง และนำมาเสนอใหม่ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาคำฟ้องของคณะทนายความที่ขอตัวมาช่วยงานในการร่างสำนวนเพื่อส่งฟ้องกรณีการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ โดยจะเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ คตส.พิจารณา ในวันที่ 24 มิ.ย.
ส่วนคดีกรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพวก กระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (แอร์พอร์ต ลิ้งค์) และโครงการจัดสร้างบ้านเอื้ออาทร ที่ประชุมใหญ่ คตส.จะพิจารณาในวันที่ 25 มิ.ย เช่นเดียวกัน
สำหรับความคืบหน้าใน กรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. ทำหน้าที่ประชธานคณะอนุกรรมการไต่สวน ได้รายงานว่า จะสามารถสรุปผลสำนวนทั้งหมดได้ และพร้อมที่จะเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 25 มิ.ย. เช่นเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้ากรณีการปล่อยเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับเครือกฤษดามหานคร กรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 และกรณีการไต่สวนกรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำความผิดทางกฎหมาย เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ที่ทาง คตส.ได้ส่งสรุปสำนวนให้สำนักงานอัยการสูงสุดไปแล้วนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่าคืบหน้าไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ในส่วนของการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมและเรื่องอื่นๆ และคดีการซุกหุ้นจะถูกดำเนินคดีอะไรบ้าง นายสัก กล่าวว่าจะถูกดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 100 ,152 ,157 ในประมวลกฏหมายอาญา ส่วนจะมีบุคคลใดถูกดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ยังเปิดเผยไมได้
เมื่อถามว่า การดำเนิรนงานของ คตส. ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ นายสัก กล่าวว่า ถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะสำนวนคดีส่วนใหญ่เสร็จไป 80-90 เปอร์เซ็นต์ บางส่วนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่ ศาลและสำนักงานอัยการสูงสุด ขณะที่บางส่วนอยู่ในระหว่างการร่างคำฟ้อง ที่เหลือจะส่งมอบต่อให้กับ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป ซึ่งมีไม่มากนั้น ส่วนตัวพอใจในความสำเร็จ แต่สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับคำวินนิจฉัยของศาล ที่จะเป็นผู้ประเมินผลงานของ คตส.ว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่
**เชิญนายกฯ-ครม.อบรมก่อนอำลา
นายสัก ยังกล่าวถึงการจัดงาน "ปัจฉิมบท พันธกิจการตรวจสอบแทนประชาชน" ซึ่ง คตส.จะจัดในเวลา 12.00 น.- 16.30 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ว่า ทางสตง.รับหน้าที่จะเป็นผู้เชิญ อดีตนายกฯ คณะรัฐมนตรี ส.ส. และส.ว. ตลอดจนกรรมการองค์กรอิสระ และหัวหน้าส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ และขอเชิญประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเพื่อรับกระบวนการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ในการใช้อำนาจรัฐบริหารประเทศเพื่อร่ายงานผลการทำงานของ คตส.ต่อสาธารณชน โดยในงานจะเริ่มการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง เงินแผ่นดินนั้น คิอเงินของประชาชนทั้งชาติ โดย ศ.อมร จันทรสมบูรณ์ และจะมีการอภิปรายเปิดเผยข้อเท็จจริงกระบวนกระทำที่ทำให้รัฐเสียหาย โดยกรรมการ คตส.ทั้งคณะ จากนั้นจะมีการส่งมอบงานของ คตส.ให้กับทาง ป.ป.ช. ต่อไป
ส่วนคดีกรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพวก กระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (แอร์พอร์ต ลิ้งค์) และโครงการจัดสร้างบ้านเอื้ออาทร ที่ประชุมใหญ่ คตส.จะพิจารณาในวันที่ 25 มิ.ย เช่นเดียวกัน
สำหรับความคืบหน้าใน กรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. ทำหน้าที่ประชธานคณะอนุกรรมการไต่สวน ได้รายงานว่า จะสามารถสรุปผลสำนวนทั้งหมดได้ และพร้อมที่จะเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 25 มิ.ย. เช่นเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้ากรณีการปล่อยเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับเครือกฤษดามหานคร กรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 และกรณีการไต่สวนกรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำความผิดทางกฎหมาย เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ที่ทาง คตส.ได้ส่งสรุปสำนวนให้สำนักงานอัยการสูงสุดไปแล้วนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่าคืบหน้าไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ในส่วนของการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมและเรื่องอื่นๆ และคดีการซุกหุ้นจะถูกดำเนินคดีอะไรบ้าง นายสัก กล่าวว่าจะถูกดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 100 ,152 ,157 ในประมวลกฏหมายอาญา ส่วนจะมีบุคคลใดถูกดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ยังเปิดเผยไมได้
เมื่อถามว่า การดำเนิรนงานของ คตส. ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ นายสัก กล่าวว่า ถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะสำนวนคดีส่วนใหญ่เสร็จไป 80-90 เปอร์เซ็นต์ บางส่วนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่ ศาลและสำนักงานอัยการสูงสุด ขณะที่บางส่วนอยู่ในระหว่างการร่างคำฟ้อง ที่เหลือจะส่งมอบต่อให้กับ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป ซึ่งมีไม่มากนั้น ส่วนตัวพอใจในความสำเร็จ แต่สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับคำวินนิจฉัยของศาล ที่จะเป็นผู้ประเมินผลงานของ คตส.ว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่
**เชิญนายกฯ-ครม.อบรมก่อนอำลา
นายสัก ยังกล่าวถึงการจัดงาน "ปัจฉิมบท พันธกิจการตรวจสอบแทนประชาชน" ซึ่ง คตส.จะจัดในเวลา 12.00 น.- 16.30 น. ของวันที่ 30 มิ.ย. ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ว่า ทางสตง.รับหน้าที่จะเป็นผู้เชิญ อดีตนายกฯ คณะรัฐมนตรี ส.ส. และส.ว. ตลอดจนกรรมการองค์กรอิสระ และหัวหน้าส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ และขอเชิญประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเพื่อรับกระบวนการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ในการใช้อำนาจรัฐบริหารประเทศเพื่อร่ายงานผลการทำงานของ คตส.ต่อสาธารณชน โดยในงานจะเริ่มการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง เงินแผ่นดินนั้น คิอเงินของประชาชนทั้งชาติ โดย ศ.อมร จันทรสมบูรณ์ และจะมีการอภิปรายเปิดเผยข้อเท็จจริงกระบวนกระทำที่ทำให้รัฐเสียหาย โดยกรรมการ คตส.ทั้งคณะ จากนั้นจะมีการส่งมอบงานของ คตส.ให้กับทาง ป.ป.ช. ต่อไป