นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวานนี้(19พ.ย.)ว่า เวลา 13.30 น. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเร่งรัดให้สั่งฟ้องคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ๊กซ์ 9000 และและจะยื่นต่อ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ประธานคณะกรรมธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมภิบาลวุฒิสภา ประกอบการพิจารณา
ทั้งนี้ เนื่องจากป.ป.ช. และอัยการสูงสุดได้ออกมาระบุว่า สำนวนการไต่สวน ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ไม่สมบูรณ์ จึงไม่สามารถสั่งฟ้อง เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากที่ผ่านมาตนในฐานะที่เคยติดตามและตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 และได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวการการทุจริตในการจัดซื้อมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีหลักฐานเอกสารสำคัญที่เอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นหนา รวมถึงการยอมรับของ บริษัทอินวิชชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเหมาการจัดซื้อว่าได้มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในขณะนั้นและบุคคลในพรรคการเมืองของไทย ในการขายอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิด เพื่อจูงใจให้เจ้าหน้าที่ใช้อิทธิพลต่อรัฐบาลไทย หรือจูงใจให้รัฐบาลไทยตัดสินใจซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์9000
นายถาวร กล่าวอีกว่า จากการไต่สวนและรวบรวมหลักฐานเอกสารของ คตส.ในคดีนี้ได้ดำเนินการไต่สวนอย่างชัดเจนแล้ว ทั้งต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง แต่ปรากฏว่า คดีดังกล่าวเมื่อมาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของป.ป.ช. กลับมีความล่าช้า และล่าสุดทางอัยการสูงสุดและป.ป.ช. ระบุว่าสำนวนการไต่สวนไม่สมบูรณ์ ตนจึงเกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุใด ทั้งที่มีหลักฐานแน่นหนาชัดเจนแล้ว อีกทั้งในชั้นไต่สวนศาลจะเป็นผู้พิจารณาให้ไต่สวนเพิ่มเติมได้ หากขาดตกบกพร่องในส่วนใด จึงไม่เข้าใจว่าเป็นการจงใจ หรือเจตนายื้อคดีไว้ให้ล่าช้าเพื่ออะไร
"หากคดีนี้ยืดเยื้อออกไปมากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อคนโกงชาติ เพราะขณะนี้ทุกคนพยายามหาช่องทางล้มคดีผ่านกลไกต่างๆ และจะทำให้กระบวนการใช้กฎหมายปราบปรามการทุจริตไม่มีผลบังคับใช้ และท้ายที่สุดก็อาจจะไม่สามารถเอาผิดผู้ที่ทำความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง และไม่สามารถทวงคืนค่าเสียหายที่รัฐเสียไปกว่า 1.8 แสนล้านบาทได้"
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าเหตุใดคดีดังกล่าวจึงมีความล้าช้า นายถาวร กล่าวว่า หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเป็นอัยการสูงสุดรวมอยู่ด้วย
**"สมชาย"บอก28รมต.ไม่ต้องกังวล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบรรยากาศการประชุมครม.เมื่อวานนี้(19พ.ย.)ว่า นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ถามที่ประชุมครม.ถึงกรณีที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้แจ้งข้อกล่าวหา 28 รัฐมนตรีในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ว่า ตกลงจะเอาอย่างไรกับกรณีดังกล่าว ซึ่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้บอกว่ารัฐบาลชุดนี้คนละชุดกันกับรัฐบาลที่แล้ว ดังนั้นจึงจะขอหารือนอกรอบกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่ยังอยู่ในรัฐบาลชุดนี้อีกครั้ง ส่วนจะเป็นที่ไหนเมื่อไร ค่อยกำหนดกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ เนื่องจากป.ป.ช. และอัยการสูงสุดได้ออกมาระบุว่า สำนวนการไต่สวน ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ไม่สมบูรณ์ จึงไม่สามารถสั่งฟ้อง เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากที่ผ่านมาตนในฐานะที่เคยติดตามและตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 และได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวการการทุจริตในการจัดซื้อมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีหลักฐานเอกสารสำคัญที่เอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแน่นหนา รวมถึงการยอมรับของ บริษัทอินวิชชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเหมาการจัดซื้อว่าได้มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในขณะนั้นและบุคคลในพรรคการเมืองของไทย ในการขายอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิด เพื่อจูงใจให้เจ้าหน้าที่ใช้อิทธิพลต่อรัฐบาลไทย หรือจูงใจให้รัฐบาลไทยตัดสินใจซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์9000
นายถาวร กล่าวอีกว่า จากการไต่สวนและรวบรวมหลักฐานเอกสารของ คตส.ในคดีนี้ได้ดำเนินการไต่สวนอย่างชัดเจนแล้ว ทั้งต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง แต่ปรากฏว่า คดีดังกล่าวเมื่อมาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของป.ป.ช. กลับมีความล่าช้า และล่าสุดทางอัยการสูงสุดและป.ป.ช. ระบุว่าสำนวนการไต่สวนไม่สมบูรณ์ ตนจึงเกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุใด ทั้งที่มีหลักฐานแน่นหนาชัดเจนแล้ว อีกทั้งในชั้นไต่สวนศาลจะเป็นผู้พิจารณาให้ไต่สวนเพิ่มเติมได้ หากขาดตกบกพร่องในส่วนใด จึงไม่เข้าใจว่าเป็นการจงใจ หรือเจตนายื้อคดีไว้ให้ล่าช้าเพื่ออะไร
"หากคดีนี้ยืดเยื้อออกไปมากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อคนโกงชาติ เพราะขณะนี้ทุกคนพยายามหาช่องทางล้มคดีผ่านกลไกต่างๆ และจะทำให้กระบวนการใช้กฎหมายปราบปรามการทุจริตไม่มีผลบังคับใช้ และท้ายที่สุดก็อาจจะไม่สามารถเอาผิดผู้ที่ทำความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง และไม่สามารถทวงคืนค่าเสียหายที่รัฐเสียไปกว่า 1.8 แสนล้านบาทได้"
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าเหตุใดคดีดังกล่าวจึงมีความล้าช้า นายถาวร กล่าวว่า หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเป็นอัยการสูงสุดรวมอยู่ด้วย
**"สมชาย"บอก28รมต.ไม่ต้องกังวล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบรรยากาศการประชุมครม.เมื่อวานนี้(19พ.ย.)ว่า นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ถามที่ประชุมครม.ถึงกรณีที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้แจ้งข้อกล่าวหา 28 รัฐมนตรีในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ว่า ตกลงจะเอาอย่างไรกับกรณีดังกล่าว ซึ่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้บอกว่ารัฐบาลชุดนี้คนละชุดกันกับรัฐบาลที่แล้ว ดังนั้นจึงจะขอหารือนอกรอบกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่ยังอยู่ในรัฐบาลชุดนี้อีกครั้ง ส่วนจะเป็นที่ไหนเมื่อไร ค่อยกำหนดกันอีกครั้ง
