“เป็ดเหลิม” เมินผลโพลตำหนิผลงานโหล่ ไม่มีผลงาน ยกก้นตัวเองผลงานเพียบ เปรียบไม่เชื่อโพลหมอดู เพราะไม่ขี้โม้ ขาสั่นอ้าง ปชช.ไม่เอาด้วยพันธมิตรฯ ปั่นหัวม็อบท้าทายตามอำเภอใจ
วันนี้ (6 พ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ ให้คะแนนการทำงานของ รมว.มหาดไทย ต่ำสุดในรัฐบาลชุดนี้ ว่า ไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเห็นผลงาน เพราะในชีวิตไม่เชื่อโพล กับหมอดู แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธทั้งหมด แต่ทุกอย่างที่ทำไปนั้นรู้ตัว เพียงแต่ไม่ชอบประชาสัมพันธ์ “การปราบยาเสพติดและการจัดระเบียบสังคม บอกได้เลยไม่เคยมี รมว.มหาดไทย คนไหนทำได้ ไม่มีหรอก แต่วันนี้ผับเปิดไม่เกินตี 2 ความสงบเรียบร้อยสังคมเสร็จไปแล้ว 90% ตู้ม้าล่มสลายหมด โดยที่ผมนั้นไม่ต้องวิ่งไปตรวจผับ ไปตรวจปัสสาวะ” รมว.มหาดไทย กล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.มหาดไทย กล่าวว่า อาจจะลงไปตรวจเยี่ยมโรงพักตามเขตพื้นที่ที่มีสถานบันเทิงมาก แต่จะไม่เข้าผับเข้าบาร์ และขอท้าทายว่า ไม่มี รมว.มหาดไทย เคยทำได้เหมือนยุคนี้ เพราะขณะนี้สถานบริการทั่วประเทศเปิดไม่เกินตี 2 บ่อนการพนันไม่มี ยกเว้นกรุงเทพฯ เท่านั้น ที่มีเหลืออีก 2 แห่ง ที่ยังเล่นอยู่ คือ บ่อนลอยฟ้า กับ บ่อนเตาปูน “เมื่อวานนี้ สภ.กระทุ่มแบน ลองของ เปิดให้เล่นตู้ม้า ผมจึงสั่งให้ผู้ว่าฯ ไปจับ ได้ตู้ม้า 4 ตู้ พร้อมผู้ต้องหา 5 คน และ สน.สุทธิสาร ลองดี ปล่อยให้เปิดผับเกินเวลา ผมจึงบอกให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลไปจับ” รมว.มหาดไทย กล่าว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า นโยบายการปราบปรามยาเสพติดในช่วงที่ผ่านมาได้ผลดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการจับยาบ้า กัญชา เพียงแต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์เท่าที่ควร
ส่วนการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายไปถึง 3 คน รายล่าสุด คือ พ.ต.ท.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท แต่คนร้ายยังไม่ได้ปรากฏว่ามีใครเสียชีวิต ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สื่อมวลชนหลายสาขายังไม่เข้าใจ บางฉบับเขียนวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงไปถึงตำรวจ เขียนข่าวโดยขาดความเข้าใจ และไปเชื่อ นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งหาว่าเป็นกุมารทองคะนองฤทธิ์ ใช้อำนาจนอกขอบเขต แต่ในความเป็นจริงนั้น ทั้งอาจารย์ธีรยุทธ และสื่อที่เขียนวิพาษ์วิจารณ์นั้น ไม่เข้าใจ ว่า รมว.มหาดไทยนั้น ได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้อำนวยการปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ “ผมเป็นรัฐมนตรีมา 5 ครั้ง ผมเรียนสายกฎหมายมาโดยตลอด จะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่ามีขอบเขตและอำนาจแค่ไหน
ขอย้ำอีกครั้งว่า ผมต้องอาศัยตำรวจในการทำงาน ผู้ว่าฯ ก็คุมนโยบาย ส่วนนายอำเภอเป็นผู้ปฏิบัติการ ซึ่งตำรวจต้องเป็นฝ่ายโอเปอเรชัน ถ้าใช้ตำรวจไม่ได้แล้วจะไปใช้ใคร” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายธีรยุทธ มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อย่าวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และตนเองไม่รู้สึกถ้อถอย ส่วนเอ็นจีโอก็ไม่จำเป็นต้องออกมาประท้วง ว่า การปราบยาเสพติดรุนแรง เพราะจะไม่ใช้ความรุนแรงเด็ดขาด “ผมไม่ได้หวังว่าจะจับยาเสพติดได้มากน้อย ไม่หวังว่าผู้ต้องหาต้องตายหรือบาดเจ็บ แต่หวังอย่างเดียวว่า ให้ยาเสพติด หรือยาบ้าลดน้อยลง ผู้เสพน้อยลง ตอนนี้ผมได้รับหนังสือประท้วงจากเอ็นจีโอ เพราะความเข้าใจผิด” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวและว่า การที่ นายโคทม อารียา อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาระบุว่า ใครไม่อยากตายอย่ามาถนนสายนี้ รู้สึกรับได้ เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความลังเล พะว้าพะวงในการทำงาน ฉะนั้นอยากให้ นายโคทม เห็นใจตำรวจที่บาดเจ็บบ้าง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะออกมาเคลื่อนไหวนั้น ทางรัฐบาลไม่ว่าอะไร แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย โดยรัฐบาลมีแนวคิดว่าหากปล่อยให้ตบมือข้างเดียวก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไร เพราะประชาชนจะไม่เชื่อถือพันธมิตรฯ ว่า สิ่งที่นำเสนอนั้นเป็นการดึงเอาเหตุการณ์มาปลุกระดมประชาชน โดยไม่มีมูลความจริง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน (พปช.) แกนนำกลุ่มมหาประชาชนที่ออกมาคัดค้านกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนมีความรู้ทางการเมือง และเห็นว่าพันธมิตรฯ ทำไม่ถูกต้อง จึงอยากออกมาตอบโต้และเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่ก็ออกมาตอบโต้พันธมิตรฯ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ได้ให้ข้อแนะนำไปว่าควรเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ อย่าเอาประชาชนมาเผชิญหน้ากัน แต่ควรแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ การแสดงปาฐกถา หรือการบรรยาย ซึ่งนายประชาก็เห็นด้วย
ฉะนั้น จากนี้ไปหากใครอ้างว่า พปช.จะเอาประชาชนมาเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ ก็เป็นคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ “รัฐบาลจะไม่เอาประชาชนมาเผชิญหน้ากัน ซึ่งจะไม่เหมือนกับเมื่อครั้งรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และเชื่อว่า ทหารคงไม่ไปฟังพันธมิตรฯ หรอก ทางแม่ทัพนายกองก็ออกมาบอกชัดแล้ว และมั่นใจว่า สังคมตอนนี้ไม่ตอบรับกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าเราไม่ออกไปเคลื่อนไหว ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ก็คงต้องหาที่เก็บกระเป๋า แต่หากว่าเราไปเคลื่อนไหวก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้บุคลที่จะคอยฉกฉวยโอกาสไปกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง” รมว.มหาดไทย กล่าว
รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า พปช.จะไม่นำประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านพันธมิตรฯ แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะแสดงออกในที่ต่างๆ กัน ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เผชิญหน้าหรือทะเลาะกัน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน “กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาพูดถึงการปฏิวัติเช้าสายบ่ายเย็น แม่ทัพนายกองก็ออกมาพูดแล้วว่า เมื่อรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยก็ให้บริหารบ้านเมืองไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็น น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ออกมาตะโกนว่าทหารอยู่ฝ่ายพันธมิตรฯ นั้น เป็นการพูดจาพร่ำเพรื่อ ทั้งที่บ้านเมืองกำลังสงบ” รมว.มหาดไทย กล่าว