xs
xsm
sm
md
lg

“ชิดชอบ” ขึ้นหม้อ น้อง “เนวิน” คั่ว ปธ.คณะทำงาน รมช.มหาดไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ตั้ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” 1 ใน 111 ซาก ทรท.น้องชาย “เนวิน” เป็นประธานคณะทำงาน รมช.มหาดไทย “สุพล ฟองงาม” ไม่สนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี โดนวิจารณ์เละไม่เหมาะสม

มีรายงานว่า นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งที่ 51 /2551 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ตั้งให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นประธานคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ซึ่งนายศักดิ์สยามเป็นน้องชายของนายเนวิน ชิดชอบ เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง

ในคำสั่งอ้างเหตุผลว่า เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และบังเกิดประโยชน์แก่งานราชการ จึงแต่งตั้งคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย โดยมี นายศักดิ์สยาม เป็นประธานมีกรรมการทั้งหมดอีก 11 คน โคยส่วนใหญ่เป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทย เช่น กรมโยธาและผังเมือง นายสุชาติ นพวรรณ กรมการปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น การประปาส่วนภูมิภาค กรมพัฒนาชุมชน

ให้มีอำนาจหน้าที่ในการประสานงาน กำกับดูแล ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของกรมพัฒนาชุมชน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการประปาส่วนภูมิภาคให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและให้คณะทำงาน สามารถขอข้อมูล เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่และหรือเชิญกรมพัฒนาชุมชน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการประปาส่วนภูมิภาค มาชี้แจงหรือจัดส่งเอกสารและข้อมูลได้ตามความจำเป็น

นอกจากนี้ มีการแต่งตั้งอนุทำงานเพื่อช่วยปฏิบัติการดำเนินงานของคระทำงานตามเห็นสมควร และให้มีสำนักงานคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมาหดไทย โดยให้เลขานุการคณะทำงานทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงาน ซึ่งให้คณะทำงานรายงานผลการทำงานให้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยทราบ

นายสุพล กล่าวถึงคำสั่งดังกล่าวว่า ขอไปตรวจสอบก่อนว่ามีจริงหรือไม่ แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยคิดแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา แต่มีปัญหาตั้งไม่ได้เนื่องจากมีปัญหาทางกฎหมายและอยากให้เป็นที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ

ทั้งนี้ แม้จะไม่มีข้อห้ามเกี่ยวกับการตั้งประธานคณะทำงานรัฐมนตรีดังกล่าว แต่การที่นายศักดิ์สยามอยู่ในช่วงที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี พร้อมกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยคนอื่นๆ จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น