xs
xsm
sm
md
lg

“เพ็ญ” จ้องรื้อ กม.กิจการกระจายเสียงฯ ดึงวิทยุชุมชน-ทีวีดาวเทียมเข้าพวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จักรภพ เพ็ญแข
“จักรภพ” เตรียมแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ ทั้งที่เพิ่งผ่าน สนช.เมื่อ 5 มี.ค.51 อ้างเป็น กม.ที่ออกโดยเผด็จการ รับไม่ได้ล้าหลังไม่ทันสมัย จ่อใช้วิทยุชุมชน โทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิลท้องถิ่น รับใช้เป็นกระบอกเสียงให้ รบ.แต่ทำเนียน ย้ำเอามารับใช้ประเทศในเชิงเครือข่าย

วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งของการสัมมนา “สื่อ...ความหวังของเด็ก เยาวชน และครอบครัว” ว่า ที่จัดให้มีการสัมมนาในวันนี้ เพราะมองปัญหาของสื่อที่มีอิทธิพลต่อสังคม โดยเฉพาะมีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ทั้งปัญหาด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความไม่เท่าทันสื่อของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นปัญหาที่กระแสสังคมตื่นตัวมากขึ้น ด้วยตระหนักถึงผลพวงที่นำไปสู่พฤติกรรมของเด็กและเยาวชนในวัยต่างๆ ในทางที่ไม่เหมาะสมและน่าห่วงใยเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ สื่อในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งวิทยาการในการส่งมีความก้าวหน้ามากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แต่ปัญหาก็คือ รัฐวิ่งตามเทคโนโลยีและวิ่งตามไม่ทัน ผลจากการวิ่งตามและตามไม่ทันผลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็คือ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กทช.) พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายจักรภพ กล่าวต่อว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ออก แต่ออกโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว และออกโดย สนช.ซึ่งเชื่อว่า อาจจะไม่ครบองค์ประชุมคงต้องว่ากันทีหลัง เพียงแต่ประเด็นคือว่าวันนี้ยังเป็นกฎใหม่ที่ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา รัฐบาลไม่มีหน้าที่ออกนอกกฎใหม่ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามกฎใหม่ทั้งๆ ที่ไม่เห็นด้วย กฎหมายฉบับนี้ไม่ยอมรับการมีอยู่ของสื่อใหม่ทั้งหมด ไม่ยอมรับว่าโลกนี้มีวิทยุชุมชน, มีวิทยุดาวเทียม, มีเคเบิลท้องถิ่น

ฉะนั้น ในทัศนะส่วนตัวของตนคิดว่าคนที่คิดกฎหมายกับคนคิดกรอบของรัฐธรรมนูญในตอนแรกกับคนที่คิดกฎหมายนี้ในตอนหลังเป็นคนที่มองกันคนละโลกโดยสิ้นเชิง มีความแตกต่างกันจนแทบปฏิบัติไม่ได้ เพราะฉะนั้นในฐานะที่ตนดูแลงานนี้จะเสนอแก้ไขกฎหมาย แต่ถ้ายกเลิกกฎหมายนี้จะง่ายกว่า แต่ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็จะแก้ไขกฎหมายนี้ โดยที่ทุกท่านต้องมาช่วยกันคิดว่าของใหม่เราต้องการอะไร

“ผมยอมรับว่า แนวความคิดในการแก้ไขพรบ.กทช.มีอยู่จริง เพราะผมเห็นว่ากฎหมายนี้ยังไม่ยอมรับความมีจริงของสื่อหลายประเภท เช่น วิทยุชุมชน โทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิลท้องถิ่น ทั้งที่สื่อเหล่านี้มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศถ้ารัฐบาลรู้จักใช้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่มารับใช้รัฐบาลในทางการเมือง แต่มารับใช้ประเทศในเชิงเครือข่าย

นายจักรภพ กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้นเมื่อกฎหมายฉบับนี้ยังล้าหลังไม่ทันโลกเราต้องปรับให้ทันสมัย เรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยอยู่แล้วเพราะเป็นกฎหมายที่ออกโดย สนช.เป็นสภาเผด็จการที่ผมไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ฉะนั้น กฎหมายที่ออกมาเมื่อมีความบกพร่องในตัวเองก็ยิ่งจะต้องนำเอาสองเหตุมาผสมกันเพื่อการแก้ไข อันดับแรกจะดูว่ากฎหมายนี้มีปัญหากับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับแรกหรือไม่ นั่นคือไม่ครบองค์ประชุม สนช.ถ้ามีปัญหานั้นก็แก้ง่ายด้วยการมานั่งร่างกฎหมายใหม่ แต่ถ้าบังคับใช้สมบูรณ์ก็จะมาพูดในเรื่องของการแก้กฎหมาย” นายจักรภพ กล่าว

เมื่อถามว่า มีการวางรูปแบบในการปรับแก้กฎหมายนี้อย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า ยังไม่ได้วางรูปแบบ เพราะการจะปรับแก้กฎหมายระดับนี้ต้องระดมสมองระดับชาติ เพียงความคิดของตนคนเดียวหรือกลุ่มเล็กๆ เพียงกลุ่มเดียวไม่ได้ เพียงแต่ตั้งประเด็นไว้ว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่ครบสมบูรณ์ แต่เราจะต้องปรึกษาคนอื่นว่ามีอะไรที่ต้องใส่ให้ครบสมบูรณ์ ซึ่งตนรู้เพียงบางส่วนเท่านั้น อย่างไรก็ตามการแก้ไขก็ต้องดูการแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จเสียก่อน เพราะหากรัฐธรรมนูญแก้เรียบร้อยและมีความสมบูรณ์ก็ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายเล็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น