xs
xsm
sm
md
lg

รก.อธิบดีกร๊วกแจงสารพัดดีหมด ยันข่าวล้มกษัตริย์เนปาลปกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจักรภพ เพ็ญแข
รักษาการอธิบดีกรมกร๊วก ชี้แจงสารพัดคำถามสมบูรณ์น่าชื่นชมสมอุรา สรุปก็คือทุกอย่างดีหมด ไม่มีเรื่องฮั้วดึงบริษัทเอกชนมางุบงิบหาผลประโยชน์ในเอ็นบีที ระบุบุคลากรที่นำเข้ามาเชี่ยวชาญเก่งเจ๋ง ยันเสนอข่าวเลือกตั้งเนปาลล้มสถาบันกษัตริย์ตามปกติไม่มีนัยการเมือง อ้างเสนอรอบด้าน แถมไม่อึดอัดการเมืองแทรกเสียอีก ส่วนรายการ “สนทนาประสาหมัก” เรตติ้งก็เยี่ยม

วันนี้ (29 เมษายน) นายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงการนำเสนอข่าวและรายงานการเลือกตั้งในประเทศเนปาล ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตว่าการนำเสนอดังกล่าวเป็นการกระทำที่พยายามที่จะก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า แล้วแต่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการ เพราะกรมประชาสัมพันธ์ไม่มีการแทรกแซงใดๆ ซึ่งเราทำงานภายใต้กรอบภายใต้ระเบียบของข้าราชการ และต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลที่ได้รับมอบหมายมาที่จะให้กรมประชาสัมพันธ์ช่วยเผยแพร่ผลงานของรัฐบาลไปสู่ประชาชน และทำความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละกลุ่มให้มีความรักความสามัคคี

ถามว่า ฝ่ายค้านได้ตั้งข้อเกตุว่าหน่วยงานที่เข้ามาช่วยงานในกรมประชาสัมพันธ์และได้มีการเสนอค่าตอบแทนให้ถึง 40 ล้านแต่ไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายเผชิญ กล่าวว่า ต้องมีการเซ็นสัญญาอยู่แล้ว เมื่อถามว่า บริษัท ดิจิตอลมีเดีย จำกัด และบริษัท KLPM จำกัด จะเข้ามารับงานหรือไม่ นายเผชิญ กล่าวว่า ทางบริษัทได้เสนอรายละเอียดเข้ามาและทางกรมประชาสัมพันธ์ก็ต้องการที่จะหาผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการเสนอข่าวสาร ซึ่งคนในวงการสื่อมวลชนรู้ดีอยู่แล้วว่าใครมีความสามารถพอที่จะมารับหน้าที่ดังกล่าว เพื่อเสนอข่าวสารในทางที่ดีขึ้น

เมื่อถามว่า ใครเป็นผู้เสนอหรือแนะนำให้ทั้งสองบริษัทเข้ามารับงานในกรมประชาสัมพันธ์ นายเผชิญ กล่าวว่า เป็นการเสนอตามปกติไม่มีใครแนะนำมา ซึ่งคนในวงการสื่อมวลชนก็รู้จักทั้งหมดทุกช่อง และจะรู้ดีว่าบุคคลใดมีความชำนาญ ศักยภาพ เพื่อมารับหน้าที่เสนอข่าวสาร

ถามว่ารู้สึกอย่างไรที่สถานีโทรทัศน์ NBT ถูกโยงกับการเมือง นายเผชิญ กล่าวว่า ไม่รู้สึกอย่างไร เพราะเราเป็นกลาง เป็นข้าราชการ และ NBT ก็คือข้าราชการ ดังนั้น ข้าราชการต้องทำตัวเป็นกลางกับการเมืองไม่เอนเอียง ไม่มีความรู้สึก เพราะถือว่าเราทำตามหน้าที่ทุกคนก็มีความสำนึกในการเป็นข้าราชการ สำนึกในความรักชาติ ไม่แพ้กับสถานีอื่นๆ

นายเผชิญ กล่าวว่า เรื่องข่าวเป็นวิชาชีพไม่มีใครสั่งได้ เพราะเรื่องแบบนี้อะไรที่เป็นของจริงก็ต้องเสนอตามความเป็นจริง ถามว่า อึดอัดหรือไม่ที่ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงการเมือง นายเผชิญ กล่าวว่า ไม่อึดอัด ไม่อึดอัดเลย ก็เป็นอย่างนี้มาตลอดเราเป็นข้าราชการก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นการทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด

นายเผชิญย้ำว่า มีการเสนอข่าวรอบด้านไม่ใช่เฉพาะของรัฐอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น NBT หรือ อสมท เป็นเหมือนกัน เราเสนอข่าวรอบด้านทั้งของฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และประชาชน โดยเฉพาะในวันนี้เราจะเสนอข่าวของประชาชนให้มากที่สุด เพราะต้องการให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงที่จะสะท้อนความคิดเห็นและไม่ได้เอนเอียงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ส่วนการจัดทำโพลถามความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการนำเสนอรายการสนทนาประสาสมัครนั้น นายเผชิญ กล่าวว่า ความจริงโพลมีหลายหน่วยงานจัดทำอยู่แล้ว ซึ่งทางกรมประชาสัมพันธ์ก็มีศูนย์สารนิเทศสำรวจอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ประชาชนชื่นชอบหรือไม่ นายเผชิญ กล่าวว่า ประชาชนก็ตอบรับในทางที่ดีว่าชื่นชอบรายการนี้ แต่อาจจะมีโพลที่ออกหลายสำนักบางครั้งประชาชนก็อาจจะคล้อยตามโพล บางครั้งอาจจะไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่า ประชาชนมองว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ใช้รายการสนทนาประสาสมัครเป็นเครื่องมือในการกล่าวพาดพิงผู้อื่น ทางกรมประชาสัมพันธ์มองอย่างไร นายเผชิญ กล่าวว่า ท่านมีสิทธิ์ที่จะพูดในรายการ โดยส่วนตัวไม่ได้คิดอย่างไร

ส่วนฝ่ายค้านจะออกรายการทางสถานีโทรทัศน์ NBT ได้หรือไม่ รักษาการอธิบดีกรมประชาฯ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยออกรายการเจาะประเด็น ก็สามารถออกได้ บางครั้งตนยังมองว่าฝ่ายค้านออกอากาศค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเทพไท เสนพงศ์ ไม่ได้หมายความว่าจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือแม้แต่รายการอื่นเราก็เชิญรอบด้านไม่ได้กีดกันว่าคนนั้นห้ามออก ไม่มี

เมื่อถามว่าสามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าประชาชนตอบรับเท่าไหร่เกี่ยวกับรายการสนทนาประสาสมัคร นายเผชิญ กล่าวว่า โพลก็คือความเห็นอย่างหนึ่งไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งหมด เช่น คนกรุงเทพมหานครก็ส่วนหนึ่ง แต่เราก็ฟังความคิดเห็นของทั้งสองด้านและอีกส่วนก็สุ่มเอาจากบางกลุ่มมาไม่ว่าจะสุ่มช่วงอายุ การศึกษา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ยังดำเนินการอยู่และมีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นเนื่องจากต้องมีการประเมินจากหลายด้าน ซึ่งในวันที่ 21 ก.ค.นี้จะมีการปรับปรุงรายการเพื่อให้ตรงตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

/0110
กำลังโหลดความคิดเห็น