“สุริยะใส” ตั้งฉายา รธน.ฉบับฟอกมาร แนะพรรคร่วมฯ รีบถอนตัว

“สุริยะใส” จวกพิมพ์เขียว รธน.ฉบับพลังแม้ว ไม่ต่างอะไรกับรัฐประหารเงียบ เป็น “รธน.ฉบับฟอกมาร” เจตนาเพียงเพื่อประโยชน์ “ทักษิณ-พวก” เท่านั้น อนาถใจวิบากกรรมคนทั้งชาติ มีรัฐบาลที่เก่งแต่สร้างปัญหา เตือน อย่าดันทุรังความแตกแยกเกิดแน่ หากยิ่งด้านแผลยิ่งกว้าง ประชาชนยิ่งเห็นธาตุแท้ แนะพรรคร่วมฯใจกล้าถอดชนวน ก่อนจะกลายเป็นจำเลยร่วมในฐานะทรราชย์เสียงข้างมาก

วันนี้ (25 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชาชนว่า คิดว่าพิมพ์เขียวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชาชน มีเป้าหมาย 2 ระดับ โดยระดับแรกนั้นเป็นการฟอกผิดให้กับตนเองอย่างชัดแจ้งไม่ว่าจะเป็นการรื้อล้าง มาตรา 237 และมาตรา 309 หวังตัดตอนคดีความผิดไม่ให้ถึงศาล ส่วนระดับที่สองเป็นการปูทางฟื้นคืนชีพระบอบทักษิณให้กลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเขี่ยทิ้งองค์กรอิสระที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้ง กกต. ป.ป.ช. คตง. หรือแม้แต่การกลับไปใช้รูปแบบการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามตัวแบบของรัฐธรรมนูญ 2540 ที่เปิดช่องให้ผู้แทนพรรคการเมืองเข้ามาบล็อกโหวตได้จนเป็นที่มาของการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลาที่ผ่านมา

“ฉะนั้น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพรรคและระบอบทักษิณเท่านั้นไม่ใช่เพื่อคนส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่าไม่มีมาตราใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยตรง ซ้ำร้ายการตัดข้อความมาตรา 190 ยังเป็นการตัดโอกาสของประชาชนที่จะได้รับการคุ้มครองชดเชยจากรัฐเสียอีก ผมอยากจะตั้งฉายาพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญฉบับพรรคพลังประชาชนว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับฟอกมาร เพราะนอกจากเนื้อหาเพื่อเป็นการฟอกผิดตนเองแล้ว กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน หวังใช้เสียงข้างมากรวบรัดตัดตอน ไม่ต่างจากการรัฐประหารเงียบ ซึ่งเลวร้ายกว่ากระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่คณะปฏิวัติรัฐประหารออกแบบไว้เสียอีก” นายสุริยะใส ระบุ

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ถือเป็นวิบากกรรมคนไทยทั้งชาติที่เราได้รัฐบาลที่แก้ปัญหาไม่เป็น เก่งแต่สร้างปัญหา ไม่คุ้มเลยที่รัฐบาลจะดันทุรังเอาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภาฯ ในขณะนี้ เพราะความแตกแยกจะเกิดขึ้นทันที ถึงตอนนั้นจะโทษใครไม่ได้ พันธมิตรฯ ได้แต่หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะกล้าพอที่จะถอดชนวนวิกฤติชาติครั้งนี้ หากไม่แล้วก็ต้องตกเป็นจำเลยในฐานะทรราชย์เสียงข้างมากอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ความดื้อดึงของพรรคพลังประชาชนครั้งนี้ทำให้พันธมิตรฯ เคลื่อนไหวง่ายขึ้น โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่คาดว่าคนจะเยอะกว่าที่ผ่านๆมา เพราะธาตุแท้และวาระซ่อนเร้นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกเปิดโปงอย่างชัดแจ้ง การอธิบายต่อมวลชนก็ยิ่งทำได้ง่ายขึ้น