xs
xsm
sm
md
lg

“สุขุมพงศ์” อ้าง แก้ รธน.เป็นคนละเรื่องกับ แก้ปัญหาปากท้อง อย่าเอามาเกี่ยวกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุขุมพงศ์” โต้คำวิจารณ์ “พลังแม้ว” เร่งรีบแก้ รธน.เมินปัญหาปากท้องชาวบ้าน อ้างเป็นคนละเรื่องกัน เพราะแก้ รธน.เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ส่วนการแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านเป็นหน้าที่รัฐบาล

วันนี้ (22 เม.ย.) นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ให้สัมภาษณ์ในรายการ เวทีความคิด ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า หลังจากที่คณะทำงานยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้เสนอร่างการแก้ไขออกมาแล้ว แต่ปรากฏว่า ร่างดังกล่าวนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทางวิปรัฐบาลจึงหาทางออกโดยการ เสนอให้ใช้ รธน.ปี 40 ทั้งฉบับ โดยยกเว้น หมวดที่ 1 และ 2 ที่จะคงไว้ตาม รธน.ปี 50 ไว้ และเพิ่มเติมเฉพาะบทเฉพาะกาล ทั้งนี้ เป็นเพราะทางวิปรัฐบาลเห็นว่า รธน.ปี 40 เป็น รธน.ที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดจึงเลือกใช้วิธีดังกล่าว ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) วิปรัฐบาลจะร่วมพิจารณาร่างที่สมบูรณ์ ว่า ร่างดังกล่าวทำสมบูรณ์ถูกต้องแล้วหรือไม่ เมื่อสมาชิก และพรรคต่างๆ เห็นชอบด้วยก็จะลงชื่อเพื่อเตรียมเสนอเข้าสภาต่อไป

นายสุขุมพงศ์ กล่าวยืนยันว่า การแก้ รธน.ในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของคดียุบพรรคเลยแม้แต่น้อย เพราะการแก้ไข รธน.ครั้งนี้เป็นการทำเพื่อชาติ ทำเพื่อประชาชน และพรรคพลังประชาชนได้เสนอจะแก้ รธน.เอาไว้ตั้งแต่ก่อนหาเสียงเลือกตั้งด้วยซ้ำว่าจะแก้ รธน.ดังนั้นหากไม่แก้ตอนนี้ก็เหมือนกับทำผิดสัญญากับประชาชน

ในส่วนของมาตรา 327 และ 309 ที่จะแก้จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ว่า ทางพรรคพลังประชาชน มุ่งหวังจะแก้มาตราดังกล่าวเพื่อตนเอง โดยแก้มาตรา 327 เพื่อหนีคดียุบพรรค และมาตรา 309 ที่จะยกเลิกองค์กรอิสระเพื่อช่วยอดีตนายกฯ ทักษิณ ให้พ้นจากคดีความนั้น ตกลงว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่ อย่างไร นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า ในการแก้ไขมาตราดังกล่าวนั้น ต้องอยู่ที่คณะกรรมการธิการวิสามัญแก้ไขร่าง รธน.ที่จะตั้งขึ้นมาว่าจะแก้ไขมาตราดังกล่าวอย่างไร จะแก้หรือไม่ก็คงแล้วแต่คณะกรรมาธิการฯ

ในส่วนที่มีความกังวลกันว่า เมื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา อย่างไรเสียเสียงส่วนใหญ่ของในคณะกรรมธิการก็ยังเป็นของทางพรรคพลังประชาชนอยู่ดีนั้น นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่าในส่วนของกรรมธิการวิสามัญ ที่จะพิจารณาในขั้นต่อไป ซึ่งข้อบังคับกำหนดไว้ว่าต้องมีไม่เกิน 45 คน ซึ่งมาจากเป็นสัดส่วนของ ส.ว.1 ใน 3 และสัดส่วนของ ส.ส.2 ใน 3 ซึ่งหากมองในข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนคนของทางพรรคพลังประชาชนเองก็มีเสียงของ ส.ส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็เป็น ส.ว.และพรรคอื่นๆ อยู่ดี ดังนั้น พรรคพลังประชาชนก็เป็นเสียงข้างน้อยของคณะกรรมการธิการอยู่ดี แต่เราเชื่อว่า เราสามารถอธิบายให้พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.เห็นคล้อยตามได้ในประเด็นที่มีความจำเป็นต่อบ้านเมือง

ส่วนกรณีที่มีคนมองว่า เหตุใดรัฐบาลจึงรีบร้อนแก้ รธน.ทำไม่จึงไม่รีบแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก่อน นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า “เราต้องแยกกันว่า การบริหารราชการแผ่นดินนั้นเป็นฝ่ายบริหาร ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องของความเดือดร้อนของประชาชน ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะทำไป ส่วน ส.ส.และ ส.ว.ก็มีหน้าที่ในการแก้รัฐธรรมนูญ ก็แก้ไขไป ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนไปไม่เกี่ยวข้องกัน และถึงแม้จะเคยกล่าวเอาไว้ว่า 3 เดือนก่อนหมดวาระ รัฐบาลจึงจะแก้ไข แต่ตอนนี้เราก็เห็นแล้ว ว่า รธน.ส่งผลต่อการบริหารประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องต้องแก้ไขตอนนี้” นายสุขุมพงศ์ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น