นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยได้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญ และเตรียมเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ว่า จะต้องรอดูว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะทางผู้เกี่ยวข้องเองยังบอกว่าจะต้องพิจารณาว่าจะให้มีผลย้อนหลังหรือไม่ และที่สำคัญยังยืนยันอยากให้ตั้งคณะกรรมาธิการของสภา หรือกรรมการขึ้นมาศึกษาก่อน โดยเฉพาะมาตรา 237 และ309 ควรนำประเด็นเหล่านี้มาพูดคุยกันจะได้ตกผลึก เพราะมุมมองที่แตกต่างกัน ก็เป็นเรื่องของความคิดที่เป็นหลักการ เป็นเหตุเป็นผล เมื่อแลกเปลี่ยนกันแล้วอาจจะมีข้อยุติที่ดีก็ได้ และที่สำคัญหากเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาเลยโดยไม่มีการศึกษา หรือพูดคุยกันก่อนจะเสียเวลามากตอนแปรญัตติ เพราะต่างคนต่างไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนกันมาก่อน แต่ถ้ามีกรรมการขึ้นมาศึกษาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง การแปรญัตติจะมีไม่มาก ดังนั้นจึงอยากย้ำว่า หากคิดว่าอยากจะให้เดินไปแล้วราบรื่น ใช้เวลาไม่นานเกินไปควรตั้งเป็นกรรมการ หรือคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาก่อนจะดีกว่า
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนของเอแบคโพลล์ระบุประชาชนร้อยละ 75 ห่วงว่าใน 6 เดือนข้างหน้าจะเกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในกลุ่มนักการเมืองเพื่อถอนทุนคืน ว่า ผลการสำรวจที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังมีความห่วงใยในเรื่องของปัญหาการทุจริต และยังไม่เชื่อมั่นในภาพการเมืองโดยรวม ดังนั้น ตรงนี้อยากเรียกร้องให้รัฐบาลพิสูจน์ว่าความกลัวของประชาชนจะไม่เป็นจริง เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของพรรคการเมือง
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนของเอแบคโพลล์ระบุประชาชนร้อยละ 75 ห่วงว่าใน 6 เดือนข้างหน้าจะเกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในกลุ่มนักการเมืองเพื่อถอนทุนคืน ว่า ผลการสำรวจที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังมีความห่วงใยในเรื่องของปัญหาการทุจริต และยังไม่เชื่อมั่นในภาพการเมืองโดยรวม ดังนั้น ตรงนี้อยากเรียกร้องให้รัฐบาลพิสูจน์ว่าความกลัวของประชาชนจะไม่เป็นจริง เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของพรรคการเมือง