นายชัย ชิดชอบ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า ภารกิจของวิปรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต้องยุติไปชั่วคราว เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมการของพรรคพลังประชาชน ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นประธานคณะกรรมการยกร่าง ได้ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จก่อนจึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลนำไปศึกษาก่อนมีมติร่วมกัน เพื่อร่วมลงชื่อเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในนามของสมาชิกรัฐสภา ต่อประธานรัฐสภาต่อไป
ด้านนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้ไขทั้งฉบับ และคาดว่าจะสามารถบรรจุเป็นวาระประชุมร่วมรัฐสภา และพิจารณาวาระแรกได้สมัยประชุมนี้ และให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในช่วงปิดสมัยประชุม ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม พิจารณาขั้นแปรญัตติ ซึ่งหากพิจารณาแล้วเสร็จทันในช่วงเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ทันช่วงปลายเดือนมิถุนายน แต่หากต้องรอฟังความเห็นของประชาชน ก็จะเสนอเข้าสู่วาระ 2 และ 3 ในช่วงเดือนสิงหาคม หรือทันทีที่เปิดประชุมรัฐสภาสมัยนิติบัญญัติ
ขณะที่นายเอกพจน์ ปานแย้ม วิปรัฐบาลในส่วนของพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ว่าเป็นการแสดงความเห็นก่อนการประชุมพรรค ซึ่งเมื่อมีการหารือในที่ประชุมพรรคแล้วก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ให้คงมาตรา 309 ไว้เท่านั้น
ด้านนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้ไขทั้งฉบับ และคาดว่าจะสามารถบรรจุเป็นวาระประชุมร่วมรัฐสภา และพิจารณาวาระแรกได้สมัยประชุมนี้ และให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในช่วงปิดสมัยประชุม ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม พิจารณาขั้นแปรญัตติ ซึ่งหากพิจารณาแล้วเสร็จทันในช่วงเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ทันช่วงปลายเดือนมิถุนายน แต่หากต้องรอฟังความเห็นของประชาชน ก็จะเสนอเข้าสู่วาระ 2 และ 3 ในช่วงเดือนสิงหาคม หรือทันทีที่เปิดประชุมรัฐสภาสมัยนิติบัญญัติ
ขณะที่นายเอกพจน์ ปานแย้ม วิปรัฐบาลในส่วนของพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ว่าเป็นการแสดงความเห็นก่อนการประชุมพรรค ซึ่งเมื่อมีการหารือในที่ประชุมพรรคแล้วก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ให้คงมาตรา 309 ไว้เท่านั้น