อดีต ปธ.ยกร่างฯ เตือนรัฐอย่าลุแก่อำนาจแก้ไข รธน.ขืนใจ ปชช. ชี้ปลุกเร้ากลุ่มต้านลุกฮือ ยันข้อดี รธน.ปี 50 อุดช่องโหว่นักการเมืองฉ้อฉล เปรียบหุ่นเชิดแค่ตัวเอกหนังตะลุง เย้ย “แม้ว” ลี้ภัยแน่หลังคดีศาลเริ่มไต่สวน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ให้สัมภาษณ์ ในรายการ News Hours
วันนี้ (10 เม.ย.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50 กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงโดยมีรัฐบาลเป็นตัวจุดชนวน ฝ่ายต่อต้านจะเคลื่อนไหวหลากหลายรูปแบบทันทีที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ชัดเจนว่า การพยามยามดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับถือเป็นมาตรการอำพราง ปกปิดข้อเท็จจริงประชาชน เพราะเบื้องหลังต้องการแก้มาตรา 237 และ 309 เพียงเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง ไม่ให้ถูกยุบพรรค รัฐบาลอย่าอ้างเสียงข้างมากสภาและพยายามทำการรวบรัดเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยพลการ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทำประชามติ
น.ต.ประสงค์ กล่าวยอมรับรัฐธรรมนูญปี 40 ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีแต่มีพวกนักการเมืองฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่ของกฎหมายส่งพรรคพวกเข้าไปควบคุมในหน่วยงานต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกพ้องมากชาติบ้านเมือง จึงได้เกิดรัฐธรรมนูญปี 50 เพื่ออุดช่องโหว่นักการเมืองฉ้อฉลเหล่านั้น
น.ต.ประสงค์ กล่าวเปรียบเทียบว่า รัฐบาลนี้บริหารชาติบ้านเมืองเสมือนเล่นหนังตะลุงระดับชาติ ที่มีตัวเอกอยู่เพียง 3 ตัว คือ ไอ้เท่ง ไอ้ทอง ไอ้สม้อ ที่ถือเป็นตัวตลกประจำคณะหนังตลุง พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่านับจากนี้ไป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีแนวคิดคิดลี้ภัยไปอยู่ในประเทศที่ 3 แน่ ซึ่งตรงกับคำปาฐกถาเมื่อวานนี้ที่ระบุว่าถูก ตม.อังกฤษล็อกตัว
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นคนกล้าหาญที่จะกลับมาต่อสู้คดี เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองทำผิดอะไรไว้บ้าง แต่มีความพยามยามวิ่งเต้นทุกวิถีทาง เพื่อทำให้ตัวเองให้พ้นผิด และเชื่อว่าเมื่อศาลฎีกาได้เริ่มไต่สวนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มตัว พอเห็นลู่ทางว่าแพ้คดีแน่ เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยและไม่กลับประเทศอีกเลย