xs
xsm
sm
md
lg

อดีตม็อบไข่แม้วมั่วนิ่ม!..อ้างฉบับปี 50 ไม่ถือเป็น รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ” สมาชิก “พลังแม้ว” อดีตแกนนำ นปก.ท่องคาถา “รธน.50 มาจากเผด็จการ” อ้างไม่ถือเป็นรัฐธรรมนูญ เสนอยกร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ ด้านนักวิชาการเตือนแก้มาตรา 237, 309 เป็นเรื่องใหญ่ ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่อย่างนั้นก็ถูกรัฐประหารเหมือนเดิม

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการคมชัดลึก

นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ สมาชิกพรรคพลังประชาชน และอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) และอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์ เนชั่นแชนนัล เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ แปลว่า กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ เป็นการจัดระเบียบของ ปวงชนชาวไทย ใครเขียนก็เป็นกฎของคนนั้น อย่าง รธน.ปี 40 ประชาชนเป็นคนเขียน ก็เป็น รธน.เป็นของปวงชนชาวไทย เป็นของจริง แต่ รธน.ปี 50 เป็นกฎของกลุ่มรัฐประหาร ไม่ได้มาจากปวงชนชาวไทย ตนจึงไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยคณะรัฐประหารไม่ถือว่าเป็น รธน.ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่า รธน.ฉบับไหนเป็น รธน.ฉบับจริงก็ต้องดูจากที่มา

นายมานิตย์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ควรจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้หมดไปเลย จะดีกว่าแล้วก็เอาทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไข ทั้งนักวิชาการ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) รวมไปถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้วยมาตั้งเป็นคณะทำงาน โดยอาจจะเข้ามาเป็นกรรมการวิสามัญ ร่วมกันพิจารณาด้วย ซึ่งตนคิดว่าถ้ายกร่างใหม่อย่างที่ตนเสนอ ก็จะไม่เกิดปัญหาที่จะต้องเถียงกันว่าแก้ รธน.หรือไม่ และทางที่ดีทีสุด ตอนนี้ควรทำประชามติเสียก่อนว่าประชาชนต้องการให้แก้แบบไหน

ด้าน นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ในเรื่องของการแก้ รธน.นั้น ตนคิดว่าทุกฝ่ายควรจะพูดคุยกัน ร่วมกันพิจารณาว่าควรจะแก้หรือไม่อย่างไร โดยการรับฟังคนในหลายๆ ส่วน ทั้งในและนอกสภา เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ โดยอาจจะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่วมแก้ และการที่ ส.ส.เชื่อว่า ถ้ามี ส.ส.ร.จะทำให้ความชอบธรรมของตนลดลง จะมองว่า ส.ส.จะไม่สง่างาม ที่ไม่สามารถแก้ รธน.ได้ แต่จริง ๆ ควรจะมองว่าหากมี ส.ส.ร.เข้ามาร่วมแก้ไข ความสง่างามจะมีมากขึ้นกับ ส.ส. เพราะเป็นผู้ที่ได้รับเลือกมาจากประชาชน และทำเพื่อประชาชนจริงๆ

ส่วนในเรื่องของมาตรา 237 และ 309 ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายมองว่าไม่สมและอาจเป็นการแก้เพื่อตัวเองนั้น นายพิชญ์ กล่าวว่า “ผมคิดว่าถ้าแก้มาตราที่ใหญ่ขนาดนั้น เป็นมาตราที่กระทบถึง รธน.ทั้งฉบับ จึงต้องแก้ในระดับกระบวนการ เช่น การตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาร่วมพิจารณา เพราะมันกระทบสังคม และความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ผมห้ามไม่ได้ แต่ผมแค่อยากจะเตือนว่า ถ้าทำอย่างนั้นเพราะมันไม่สง่างาม คุณมีสิทธิ์ทำได้ตามกฎหมาย แต่ถ้าคุณทำอย่างนี้ ในอนาคตคุณก็ถูกรัฐประหารอยู่ดี”

นายไพโรจน์ พลเพชร เลขาธิการคณะกรรมการสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) กล่าวว่า อยากจะฝากทางพรรคพลังประชาชน ว่า การแก้ รธน.นั้นมันไม่ได้ส่งผลถึงแค่พรรคพลังประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่ส่งผลถึงคนทั้งประเทศ จึงอยากให้ทางพรรคพลังประชาชนรับฟังความคิดเห็นของคนทั่วไปให้มาก คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกับตนก็ต้องรับฟังเขาด้วย นับเป็นโอกาสที่ดีของพรรคพลังประชาชนที่จะทำให้ประชาชนเห็นได้ว่าตนบริหารบ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยซึ่งต่างจากสมัยรัฐประหารมากเพียงใด

ดร.โคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 40 กล่าวว่า หากจะมีการแก้ไข รธน.น่าจะมีกระบวนการที่เป็นกลางให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขขึ้น คือ การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาร่วมพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติร่วมกันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด




กำลังโหลดความคิดเห็น