“วิปรัฐบาล” โอ่ยกร่างพิมพ์เขียวแก้ไข รธน.เสร็จแล้ว เตรียมยื่นร่างต่อ “รองประธานสภา” ก่อนสิ้น เม.ย.นี้ เผยยกกระบิใช้กฎหมายเดิม 80 เปอร์เซ็นต์ ฟุ้งแค่ ส.ว.20 เสียงก็เพียงพอแล้ว
วานนี้ (9 เม.ย.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะอนุกรรมการย่างร่างแก้ไขของพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกว่า 5 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมได้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 โดยนำเอารัฐธรรมนูญ 2540 ที่เป็นฉบับประชาธิปไตยเป็นตัวตั้ง แล้วคงหมวด 1-3 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ไว้ โดยแก้ไขเพียงมาตราที่กำหนดให้การประชุมสภานัดแรกต้องใช้องค์ประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ส่วนที่เหลือจะใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ทั้งหมด
เมื่อถามว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมีจำนวนกี่มาตรา นายวรวัจน์ กล่าวว่า ต้องนำไปพิมพ์ให้แล้วเสร็จก่อน โดยจำนวนมาตราจะใกล้เคียงกับรัฐธรรมนูญ 2540 ยกเว้นบทเฉพาะกาลที่จะมีการกำหนดให้ ส.ส. และ ส.ว.ให้คงอยู่จนครบวาระ ส่วนจะมีการกำหนดการนิรโทษกรรมต่างๆ ไว้ในบทเฉพาะกาลอย่างไรนั้น นายวรวัจน์ กล่าวว่า ต้องว่ากันในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีสัดส่วนจากฝ่ายค้าน รัฐบาล และวุฒิสภาก่อน ขณะนี้จะกำหนดไม่ได้ โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการประชุมวิปรัฐบาล และได้ถามวิปพรรคต่างๆ ซึ่งก็เห็นด้วยในหลักการที่ให้นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้
ด้าน นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ส.ส.สัดส่วน รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไขของพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเริ่มตั้งแต่หมวดแนวนโยบายแห่งรัฐให้กลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญ2540 เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2550 ในหมวดนี้ ได้กำหนดเนื้อหาผูกมัดรัฐบาลมากเกินไป ไม่สามารถทำอะไรได้คล่องตัว ซึ่งหมวดรัฐสภากำหนดให้ ส.ส.มี 500 คน มาจากระบบเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว 400 คน และจากระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน
“ส่วน ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง 200 คน และหมวดรัฐมนตรียังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าเมื่อ ส.ส.ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี จะต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ รวมทั้งหมวดองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ให้คงไว้ตามรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ตัดสัดส่วนคณะกรรมการสรรหาในสัดส่วนของพรรคการเมืองออกไป” นายสุขุมพงษ์ กล่าว
นายสุขุมพงษ์ กล่าวอีกว่า โดยสรุปร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่ม จะใช้รัฐธรรมนูญ 2540 เกือบทั้งหมด 80 เปอร์เซ็นต์ ใช้รัฐธรรมนูญ 2550 เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ และปรับปรุงแก้ไขใหม่อีก 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้จะรีบยกร่างเพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรองประธานรัฐสภา หรือประธานวุฒิสภา ก่อนสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุน ฉะนั้นขอเสียง ส.ว.เพียง 20 เสียง ก็เพียงพอสำหรับการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว
