นักรัฐศาสตร์อาวุโส ชี้ถึงเวลาต่อสู้ขั้นแตกหัก หาก รบ.ยังดันทุรังแก้ รธน. ย้ำ ปชช.ต้องยืนกราน ยืนหยัด พร้อมแตกหัก เพื่อรักษาระบอบ ปชต.อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ระบุเห็นควรแก้ รธน.แต่ต้องไม่ใช่ รบ.ชุดนี้ เหตุมีเรื่องกระทำผิดต่อเนื่องก่อนการเลือกตั้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายปราโมทย์ นาครทรรพ สัมมนาเรื่อง "ทางออกประเทศไทย วิกฤติหรือโอกาส"
นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักรัฐศาสตร์อาวุโส อภิปรายในการสัมมนาประชาชน - ติดอาวุธทางปัญญา “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” ครั้งที่ 2 ในหัวข้อทางออกประเทศไทย วิกฤตหรือโอกาสว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ได้ร้องและคำท้าทาย 3 คือ 1.ยืนกราน 2.แตกหัก 3.ยืนหยัด ประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย.ที่เป็นพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น ซึ่งเราต้องยึดมั่น
แต่ขณะนี้มีหลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะเกิดการนองเลือด ซึ่งขณะนี้ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องต่อสู้ให้แตกหัก เราต้องยืนกราน เพราะพวกเราต้องการให้พวกเราประสบความสำเร็จไม่ให้รัฐบาลใช้อำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อพวกพ้อง ซึ่งคงไม่
ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เราต้องไม่ท้อถอย
ซึ่งตนอยากฝากข้อคิดของบุคคล 3 คน ที่เราอาจใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ให้แตกหัก คือ 1.ท่านมีคำวินิฉัยอันประเสริฐ คือ นายประเสริฐ นาสกุล ประธานศาลรัฐธรรมนูญรธน.ผู้วินิฉัยฉัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดในคดีซุกหุ้น 2.ท่านที่ อ้างหลักกม.อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งท่านเสนอกฎหมายเป็นข้อคิดเพื่อชาติ คือ นายคณิต ณ นคร รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่รู้ว่าพรรคไทย ทรท.จะเดินหน้าทำกฎหมายให้ผิดซึ่งเป็นการทำลายกม. ท่านรับไม่ได้จึงลาออกมา เพราะถ้าไม่ถือว่ากฎหมายบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านเมืองก็วิกฤติอยู่ไม่ได้ และบุคคลที่3 นพ.วิจารณ์ แพทย์ ม.หิดล ท่านผู้นี้จะให้ผู้ความเห็นโดยสุจริตในหลายเรื่อง เช่นการตัดสินของศาล หรือการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สังคมต้องเคลื่อนไหว โดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงขอย้ำให้ท่านทั้งหลายนำไปคิดให้หนัก สังคมไทยกำลังอับจน ท้อถอย เศร้า ตอนนี้ยังหาทางออกไม่เจอ ซึ่งอันตรายมาก มีสุภาษิตที่ว่า ในสังคมไทยที่มีการใช้อำนาจไม่รับผิดชอบสังคมจะตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าสังคมได้ใช้เสรีภาพโดยไม่มีความรู้สังคมจะตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่า แต่ถ้าการเคลื่อนไหว โดยไม่ความรู้ไร้ทิศทางสังคมจะยิ่งจะเจ็บปวดกว่า ดังนั้นเราต้องยืนกรานอย่างมีสติ
“ความจริงผมเห็นสมควรอย่างยิ่งที่ควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าจะแก้เมื่อใด ซึ่งคงไม่ใช่แก้ในรัฐบาลชุดนี้ ในรัฐสภานี้ เพราะเราเพิ่งจะผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ส.ค. เพิ่งออกเดิน ในขณะที่รัฐบาลนี้มีเรื่องการทำกระผิดกฎหมายหลายเรื่องเกี่ยวกับการการเลือกตั้ง การที่พรรคถูกยุบพรรค เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมา มีพฤติกรรมทำลายระบอบประชาธิปไตย จึงไว้ใจให้รัฐบาลชุดนี้แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะจะแก้เพื่อพรรคไม่ให้ถูกยุบ แก้เพื่อคนๆเดียว อย่างไรก้ตามผมไม่เชื่อว่าจะมีการนองเลือดง่ายๆแต่จะต่อสู้ยาวนานซึ่ง 3 พรรคจะถูกยุบ เขาต้องยอมให้ยุบพรรคซะดีๆ ไม่ใช่ถูกยุบเรื่องพรรคที่เป็นนอมินี เพราะถ้าถูกยุบเรื่องนี้การต่อสู้จะรุนแรงยิ่งขึ้น” นายปราโมทย์ กล่าว