“ยามเฝ้าแผ่นดิน” เตือน “ไชยา” ดันทุรังอยู่ต่อ เสี่ยงทำผิดซ้ำ เย้ยรัฐบาลเลือกตั้งมาตรฐานต่ำกว่ารัฐบาลปฏิวัติ มีปัญหาซุกหุ้นยังดันทุรังอยู่ต่อ ย้ำแถลงการณ์พันธมิตรฯ ต่อต้านการล้มล้าง รธน. เชิญชวนประชาชนเตรียมพร้อมยื่นถอดถอน ส.ส. ฉงน “เพ็ญทีวี” ถ่ายทอดสด “ทักษิณ” พูดนานนับชั่วโมงในฐานะอะไร
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 2
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 9 เมษายน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ และนางสาว สโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรกผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงกรณี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)มีมติให้ขาดคุณสมบัติจากการเป็นรัฐมนตรีเพราะชี้แจงการถือหุ้นของภรรยาช้ากว่ากำหนด โดยจะรอให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดก่อนว่า การที่รอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง จะเกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขควรจะยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อสอบถามคุณสมบัติสถานภาพการลงนามได้ของนายไชยา เพื่อป้องกันความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงเรื่องจริยธรรม วันนี้ นายไชยาพูดแล้วว่า ไม่มีจริยธรรม ในกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ ไม่จำเป็นต้องลาออก แต่โดยสปิริต หากไม่ลาออก อย่างน้อยที่สุด ควรหยุดการปฏิบัติหน้าที่ มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการทำการแทน ขืนนายไชยา ยังไปลงนามในคำสั่งต่างๆ ในกระทรวงอีกจะเกิดปัญหาตามมา ดังนั้น หากนายไชยาคิดที่จะป้องกันความเสี่ยง ก็ควรประกาศลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันนี้
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย อ้างว่ากฎหมายหยุมหยิม นายไชยา ไม่จำเป็นต้องลาออกเพื่อแสดงสปิริต เพราะได้โกงใครมา นั้น ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม มีส่วนพูดถูก แต่ต้องดูเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ไม่ต้องการให้รัฐมนตรีปกปิดทรัพย์สินของตัวเอง โดยเฉพาะกรณีของนายไชยา เป็นเรื่องของการกระทำผิดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จะหยุมหยิมหรือไม่ก็เป็นเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นเมื่อรู้อยู่ว่ากฎหมายหยุมหยิมทำไมไม่ทำเรื่องง่ายๆ ให้ถูกต้อง
กรณีที่รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีปัญหาลักษณะเดียวกันแล้วลาออกไป ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่าที่ลาออกเพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ แต่รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งนั้น ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ารัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติมีมาตรฐานสูงกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ผู้ดำเนินรายการ ยังไม่เห็นด้วยกับกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานวิปรัฐบาล บอกว่า หากนายไชยาลาออก ก็สามารถให้พี่ชายนายไชยา คือนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ มาเป็น รมว.สาธารณสุขแทนได้ เพราะทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มาตรฐานของนักการเมืองเป็นอย่างนี้หรือ การคัดเลือกคนมารับตำแหน่งจะเลือกเอาญาติพี่น้อง ไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถ หรือความเชี่ยวชาญ ความเสียหายจึงเกิดขึ้น
**ย้ำแถลงการณ์พันธมิตรฯ ต่อต้านการล้มล้าง รธน.
ต่อมาผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงแถลงการณ์ฉบับที่ 6/2551 ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ชัดเจนว่า พันธมิตรฯ พยายามป้องกันไม่ให้มีการไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 และมาตรา 309 เนื่องจากทั้งสองมาตราเป็นการเร่งกระบวนการฟื้นคืนระบอบทักษิณ รัฐบาลกำลังใช้เล่ห์อุบายประกาศเปลี่ยนท่าทีเดิมจากที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงบางมาตรา กลายเป็นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเพื่อแอบอ้างผลประโยชน์ของประชาชน โดยอำพรางเป้าหมายที่แท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 มุ่งหวังตัดตอนไม่ให้คดีทุจริตของระบอบทักษิณที่ คตส.กำลังสอบสวนเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนคดีอาญาของนักการเมือง และมาตรา 237 เพื่อตัดตอนและฟอกการทุจริตเลือกตั้งไม่ให้พรรคการเมืองถูกยุบ และผู้บริหารพรรคไม่ต้องรับผิด
นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ผ่านความเห็นชอบในการลงประชามติของเสียงส่วนใหญ่กว่า 14 ล้านเสียงมาแล้ว ดังนั้น หากจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ก็ควรจะต้องให้ประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ซึ่งรวมถึง การทำประชาพิจารณ์ ตลอดจนการทำประชามติขอความเห็นชอบจากประชาชนด้วย
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ ยืนยันว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 นั้น ได้ผ่านกระบวนการประชามติให้ความเห็นชอบโดยประชาชนส่วนใหญ่มากกว่า 14 ล้านเสียงของคนในประเทศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถือเป็นความก้าวหน้าของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง พันธมิตรฯ จึงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามอำเภอใจ และเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากจะมีการแก้ไขจะต้องมีความชอบธรรมด้วยการสอบถามจากประชาชนเจ้าของประเทศทั้งหมดโดยให้มีการลงประชามติก่อนว่า ประชาชนต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
นอกจากนี้ผู้ดำเนินรายการ ยังเสนอแนะให้ประชาชนร่วมกันมีส่วนร่วมในการสร้างปรากฏการณ์เพื่อสอนนักการเมือง โดยการส่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมลงลายเซ็น ระบุรับรองสำเนาถูกต้องเพื่อการถอดถอน ส.ส.ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2550 แล้วใส่ซองส่งมาที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หรือมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ทันที่หากมีการแก้ไขในสองมาตราที่รัฐบาลต้องการแก้ไข ไม่ต้องรอหากมีการแก้ไขก็ยื่นถอดถอนทันที
**ฉงน “เพ็ญทีวี” ถ่ายสด “แม้ว”ทอล์กโชว์
ในช่วงท้าย ผู้ดำเนินรายการ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ถ่ายทอดสดการกล่าวปาฐกถาพร้อมเปิดตัวหนังสือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ว่า มีคนตั้งคำถามกันมากว่าถ่ายทอดสดทำไม และในฐานะอะไร ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริต แต่มีการให้เวลาเป็นชั่วโมง หรือว่าถ่ายทอดสดในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีก็คงไม่ใช่
นอกจากนี้ ภายในงานดังกล่าว ยังมีคนของพรรคไทยรักไทยเดิมและพรรคพลังประชาชนไปร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เป็นบรรยากาศที่ดูคุ้นๆ เหมือนเมื่อก่อน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปไหนมาไหน พูดที่ไหน ก็จะมีการถ่ายทอดสดตลอดเวลา
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวอีกว่า เมื่อดูรายการสดของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีจะเห็นว่า มีแต่คนของรัฐบาลชุดนี้และอดีตรัฐบาลที่ได้ไปออกอากาศ ส่วนคนที่เป็นฝ่ายค้านนั้นหาโอกาสได้ยากมาก ในช่วงวันแรกๆ ของการเปิดตัวเอ็นบีทีนั้น มีการเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปออกรายการ “ถามจริง ตอบตรง” ดำเนินรายการโดยนายจอม เพชรประดับ แต่เมื่อถึงเวลา นายจอมก็ออกมาพูดสดๆ ในรายการว่า ขอยกเลิกการสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เพราะมีเหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น คือการเสียชีวิตของ “น้ำ เดอะสตาร์”ต้องเปลี่ยนไปทำเรื่องนี้แทน ส่วนนายอภิสิทธิ์ ก็ถูกบอกยกเลิกทั้งที่ออกเดินทางไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตกรณีนายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ เจ้าของบริษัทง่วนสูน จำกัด ที่เป็นผู้สนับสนุนรายการ “ชิมไป บ่นไป” ของนายสมัคร ได้เป็นบอร์ดการบินไทยด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )