“เทพชัย” บอกรัฐเริ่มปล่อยสัญญาณไม่ดีกรณียึดสัมปทาน 5 คลื่น ลั่นควรหาคำตอบให้ชัดเจนว่าคลื่นดังกล่าวสร้างความหายให้รัฐอย่างไร บอกอยากให้ “จักรภพ” ทำตามสัญญาว่าให้เสรีเสนอข่าวสารเต็มที่ เผยไม่สนเด็กเก่าทีไอทีวีซบ NBT ฟุ้งต่างเดินคนละทาง
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “นายจักรภพ เพ็ญแข” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดงานงานแถลงข่าวเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ NBT หรือช่อง 11 เดิม ซึ่งจุดมุ่งหมายคืออยากให้เป็นสถานีที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและข่าวสาร โดยเพิ่มพื้นที่ข่าวสารจาก 7 ชั่วโมง เป็น 9 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน และจะมีความเป็นกลาง เป็นธรรม โปร่งใส ฉับไวทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังขอให้กรมประชาสัมพันธ์ยึดคลื่นวิทยุทั้ง 5 คลื่น ได้แก่ FM105 MHz, FM 88 MHz, FM 93.5 MHz, FM 95.5 MHz และ FM 97 MHZ เหตุเพราะคลื่นเหล่านี้โจมตีรัฐบาลมากนั่นเอง งานนี้พอเจอตัว “เทพชัย หย่อง” ผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ในงาน “108 ดนตรี” ได้แสดงความคิดเห็นต่อท่าทีการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ในการยึดคลื่นสัมปทานคืนว่า.....
“ผมว่าเป็นสัญญาณไม่ค่อยดีถ้าจะรื้อคลื่นทั้งหลายควรจะมีคำตอบ มีข้อมูลที่ชัดเจน ที่บอกว่ารายงานความเสียหายของรัฐบาลต้องถามด้วยว่าในมุมมองของใครด้วยที่เสียหาย คนอื่นอาจจะมีมุมมองไม่เหมือนกัน คนที่เป็นแฟนรายการคลื่นเหล่านี้อาจมีความรู้สึกว่ารายการเหล่านี้ให้สาระให้ความรู้ที่ดีก็ได้ ขึ้นอยู่ที่มุมมองของใครมากกว่า”
“ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีถ้าหากว่าทางรัฐบาลชุดนี้จะทำให้ช่อง 11 ปลอดจากการถูกแทรกแซงการเมือง สามารถเป็นสื่อที่มีเสรีภาพในการทำข่าวเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่จะมาแข่งกับ Thai PBS ผมไม่อยากจะมองในลักษณะอย่างนั้น”
“ถ้า คุณจักรภพ หรือรัฐบาลทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ว่า จะไม่แทรกแซงให้ช่อง 11 มีเสรีภาพเต็มที่ ผมว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีก็ต้องดูกันต่อไป ของเราไม่มีการแทรกแซงครับทำงานได้อิสระ ทำงานได้เต็มที่”
สำหรับผังรายการใหม่ของ NBT นอกจากจะประกอบด้วย ข่าวภาคเช้า ข่าวภาคเที่ยง ข่าวภาคค่ำ และภาคดึก แล้วยังมีรายการ “ร่วมมือร่วมใจ” ของ “อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” รายการ “ถามจริง ตอบตรง” ที่มี “นายจอม เพชรประดับ” เป็นพิธีกรและรายการ NBT Hot News โดยผู้ดำเนินรายการส่วนใหญ่เป็นทีมงานเดิมของทีไอทีวีที่แยกตัวออกมา อาทิ สร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์, ตวงพร อัศววิไล, รัชนีวรรณ ดวงแก้ว และ ปิยฉัตร กรุณานนท์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้บริหาร Thai PBS ยอมรับว่าพนักงานเก่าบางคนจุดยืนต่างกัน
“ก็บางส่วนไปก็คงไม่ว่าอะไรกันก็คงเป็นแนวทางตามเดิมตามวิชาชีพของแต่ละคนว่าจะเลือกเอา ทางเลือกมันชัดเจนแล้วแต่ใครจะเลือกในลักษณะไหน ผมก็คิดว่าทาง Thai PBS ก็มีทางเดินชัดเจนอยู่แล้วคือเราเป็นข่าวสารสาระ ข่าวเราก็มีแต่ข่าวเราก็มีแต่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของรายการทั้งหมด อาจจะมีความสำคัญแต่ว่าไม่ได้เป็นโปรแกรมเดียวถือว่าเป็นจุดขายจุดหนึ่งของเรา”