“จักรภพ” ดื้อด้าน ลั่นถ้าไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้กลับสู่ระบอบประชาธิปไตยถือว่าเสียชาติเกิด เมินนักวิชาการด้านกฎหมายรวมพลังต้าน อ้างหากจะวัดกันในเชิงปริมาณก็สามารถชนะได้ไม่ยาก
วานนี้ (3 เม.ย.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ยังมีความเห็นแตกแยกกันว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น และเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ และความรู้สึกด้วย แต่ยืนยันว่า เรื่องนี้อยู่ในนโยบายการหาเสียงของพรรคพลังประชาชนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่มีคนบอกว่า มาเร่งรีบแก้ไขตอนนี้ เพราะหนีการยุบพรรคนั้น ขอบอกว่า มีทั้งส่วนจริงและไม่จริง ซึ่งการที่นายกฯ เคยบอกว่า จะแก้ไขก่อนหมดวาระของรัฐบาล 3 เดือนนั้น ก็เพราะคิดว่าฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะยอมรับวิถีทางประชาธิปไตยบ้าง ไม่ใช่ว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย แต่ยังใช้ระบบพรรคพวกไม่ยอมให้เขาบริหารประเทศ วางยาจะให้ประสบความล้มเหลวในการบริหารประเทศ และพอรัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มาห้ามแก้อีก
“กรณีนี้เหมือนกับเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ ที่ว่าเอ็งไม่เคยทำข้า พ่อเอ็งก็ทำ ซึ่งแบบนี้ในประเทศไม่มีใครเขายอมรับกัน ยืนยันว่า เราต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป เปลี่ยนแปลงจากระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย มาสู่ระบอบประชาธิปไตย ถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เสียชาติเกิด” นายจักรภพ กล่าว
เมื่อถามว่า มีนักวิชาการด้านกฎหมายที่ออกมารวมตัวกันคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญจำนวนมาก นายจักรภพ กล่าวว่า ความจริงแนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีมาก เพียงแต่ว่าอยู่ในกลุ่มของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้น เรื่องนี้ต้องยอมรับความจริงว่า หากจะรวมความคิดเห็นในเชิงปริมาณกันจริงๆ ก็สามารถที่จะเอาชนะกันได้ไม่ยาก แต่นั่นเป็นสิ่งที่เราควรทำหรือเปล่า เราควรที่จะให้กระบวนการนิติบัญญัติของเราจุดชนวนว่า เราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการตั้งเป็นคณะทำงานกัน และจากนั้นเราก็ผลักดันให้เกิดการแก้ไขในกรอบ ซึ่งกระบวนการเช่นนี้ ถือว่าลงตัว และมีความพร้อมอยู่แล้ว
นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่ ส่วนคนที่คัดค้านก็ต้องพูดให้ชัด ไม่เห็นด้วยกับมาตราไหน การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประชามติของทุกพรรคในรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นฉันทามติที่รัฐบาลทุกพรรคได้รับมาจากประชาชน ฉะนั้น ต้องเดินหน้ากันต่อไป