ส.ส.พปช.ยันเดินหน้าแก้ รธน.ต่อ เมินพันธมิตรฯ ยื่นถอดถอน อ้างทำเพื่อประโยชน์ชาติ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ใครจะถอดถอนได้ ด้าน “เสรี สุวรรณภานนท์” อดีต ส.ส.ร.50 ปราม แก้ รธน.เพื่อตัวเองบ้านเมืองจะวุ่นวาย หนุนพันธมิตรฯ ใช้มาตรา 122 ยื่นถอดถอน
ต่อกระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลยืนยันเดินหน้าจะแก้ไข ขณะเดียวกันทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยืนยันที่จะเดินหน้าคัดค้าน และล่าสุดได้มีการเตรียมล่ารายชื่อ 20,00รายชื่อ เพื่อถอดถอน ส.ส.ที่จะแก้รัฐธรรมนูญแล้ว โดยใช้สิทธิในตามรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ที่มีเนื้อหาว่า ส.ส.และ ส.ว.ต้องทำหน้าที่อย่างสุจริตโดยปราศจากความขัดแย้งในเรื่องของผลประโยชน์ ซึ่งตีความได้ว่าหากตอนนี้ ส.ส. จะเข้าชื่อกันแก้รัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองของตนถูกยุบ ก็เรียกว่าผลประโยชน์ขัดกัน ซึ่งประชาชนก็สามารถรวบรวมรายชื่อ 20,000 รายชื่อถอดถอนนักการเมืองได้
วานนี้ (2 เม.ย.51)นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการ ตอบโจทย์ ทางทีวีไทย ทีวีสาธารณะ (ทีพีบีเอส) ดำเนินรายการโดยนายภัทร จึงกานต์กุล ว่าทางพรรคพลังประชาชน ยังคงเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญต่อไป และคงไม่รอเวลาแล้ว เนื่องจากทางพรรคหาเสียงมาแต่แรกแล้วว่าจะแก้ ถึงแม้จะมีผู้ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้านก็ตาม เพราะถือว่ารัฐธรรมนูญให้สิทธิแก่ ส.ส. ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว เราก็จะใช้สิทธินี้ในการแก้ไข
ส่วนที่ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาเคลื่อนไหวว่าจะรวบรวมรายชื่อ 20,000 ชื่อยื่นถอดถอนนั้น ตนเห็นว่าหากจะยื่นถอดถอนตนเองด้วยนั้น ตนก็ไม่กลัว เนื่องจากตนมั่นใจว่า ตนไม่มีความผิดที่จะมาถอดถอนตนได้ “ผมแก้กฎหมายเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองถูกยุบง่ายๆ หากพันธมิตรฯ จะล่ารายชื่อก็ล่าไป มันเป็นสิทธิ์ของท่าน ท่านบอกว่าผมแก้แล้วมันขัดกันแห่งผลประโยชน์ ผมก็ดูรัฐธรรมนูญแล้วมันขัดกันในเรื่องผลประโยชน์ตรงไหน ผมทำเพื่อทุกพรรคไม่ได้ทำเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง”
ต่อคำถามที่ว่า หากยืนยันจะแก้ต่อไป กลัวหรือไม่ว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย นายพีระพันธ์ ตอบว่าไม่กลัว เพราะประชาธิปไตยมีความขัดแย้งกันได้ แต่หากจะเกิดความรุนแรง ก็เป็นหน้าทีของรัฐบาลที่จะต้องป้องกัน
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 ในฐานะสมาชิกชมรม ส.ส.ร. 2550 กล่าวว่า ทางชมรม ส.ส.ร. 50 มีจุดยืนว่าเราไม่ได้คัดค้านในการแก้รัฐธรรมนูญ เพียงแต่เราคิดว่า คนที่จะแก้กฎหมายไม่ควรแก้เพื่อตัวเอง เพราะจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคม ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะให้สิทธิ์ว่า ส.ส.สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ แต่การแก้ก็จะต้องอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งหากทาง ส.ส. แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ประชาชนก็สามารถเข้าชื่อถอดถอน ส.ส.ได้
ส่วนกรณีที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นถอดถอน ส.ส. โดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 นั้นก็สามารถทำได้ ซึ่งกรรมวิธีที่จะดำเนินต่อไปหลังจากมีการรวบรวมรายชื่อได้ 20,000 รายชื่อ ขั้นต่อไปก็คือส่งให้ ป.ป.ช. จะมาชี้มูล หากไม่มีมูลก็จบไป แต่หากชี้มูลออกมาว่าผิดจริง ก็จะส่งรายชื่อให้ถอดถอนต่อไป