“อานันท์” ถามแก้ รธน.เพื่อใครกันแน่ ยอมรับแก้ได้แต่ต้องคำนึงถึงประเทศชาติ ขณะที่ปมแก้รัฐธรรมนูญพ่นพิษใส่พรรคร่วมรัฐบาล “ชาติไทย” ค้านแก้มาตรา 309 เพราะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องคดีทุจริตด้วย ทำให้วิปรัฐบาลต้องเห็นตามไม่ตัดทิ้ง
วานนี้ (3 เม.ย.) นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญทุกฉบับ จะมีการบัญญัติ บทเฉพาะกาล ให้สามารถแก้ไขเนื้อหาได้ ซึ่งไม่ต่างจากรัฐธรรมนูญของต่างประเทศ แต่ประเด็นใหญ่ และสำคัญคือ หลังการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญปี 2550 ประชาชน สังคม และประเทศชาติจะได้รับประโยชน์หรือไม่ รัฐบาลต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่วนตัว หรือเพื่อประเทศชาติ
“ทุกประเทศที่มีรัฐธรรมนูญไม่ค่อยอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือโค่นรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพียงแต่จะมีครรลองอย่างไร ไม่ให้เป็นเรื่องขาวหรือดำ” นายอานันท์ กล่าว
ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะวิปรัฐบาล ออกมาระบุว่า พรรคชาติไทยมีความเป็นห่วงในการแก้ไข มาตรา 309 ว่า ความเห็นส่วนตัวมองว่า มีความน่าเป็นห่วง และหลายคนในพรรคก็เห็นตรงกันว่า ไม่เห็นด้วยในการแก้ไขมาตรานี้ แต่เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในฐานะวิปรัฐบาล จึงไม่สามารถลงรายละเอียดได้มาก และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า หากแก้มาตรานี้แล้วจะมีผลอย่างไรบ้าง แต่ยืนยันว่าเรื่อง มาตรา 309 นี้จะต้องมีการหารือกันภายในพรรคชาติไทยในเร็วๆนี้ เพื่อแสดงจุดยืนของพรรคชาติไทย ที่ชัดเจน
ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่า การยืนยันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 5 มาตรา โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากอาจารย์นิติศาสตร์หลายสถาบันนั้น อาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาล อยู่ในสถานะลำบากไปด้วยกัน น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ถือว่าน่ากังวล แต่ต้องขึ้นอยู่กับการหารือภายในพรรคด้วยว่าเห็นควรเช่นไร
“ต้องขึ้นอยู่กับทางคุณพ่อ จะคุยกันอย่างไรภายในพรรค แต่ยืนยันว่า การล้มเลิก คตส.นั้นไม่เห็นด้วยแน่นอน และยังเป็นห่วงเรื่องสัตยาบัน 5 ข้อ ของพรรคชาติไทย กับพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ ส่วนเรื่องการแก้ มาตรา 237 นั้นไม่ว่าคณาจารย์ หรือใครจะว่าอย่างไร แต่ยืนยันในความเห็นส่วนตัวว่า มาตรา 237 ที่ระบุโทษหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคในกรณีที่เห็นว่า เป็นการปล่อยปละละเลยเรื่องใบแดงนั้น เป็นโทษรุนแรงเกินไป มันไม่ยุติธรรมกับพรรคการเมืองเลย” น.ส.กัญจนา กล่าว
