"มิ่งขวัญ"กลับลำ เคยบอกให้ชาวนาตุนข้าวอีก 3 เดือน รอให้ราขึ้น 2-3 เท่า ล่าสุดบอกไม่ต้องรอแล้ว ให้ขายได้เลย หวั่นถึงหน้าทำนา ข้าวออกมามาก ราคาอาจตก ส่วนผู้บริโภค จะนำข้าวในสต็อกรัฐบาลมาทำข้าวถุงขายราคาถูก พร้อมยันข้าว อคส.หายแค่ 1.3 หมื่นตัน
คลิกทีนี่ เพื่อฟังมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ในรายการกรองสถานการณ์
หลังจากที่นายมิ่งขวัญ แสดงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ แนะนำให้ชาวนาเก็บข้าวไว้อีก 3 เดือน เพื่อให้ราคาขึ้นอีก 2-3 เท่า ถึงตันละ 3 หมื่นบาทจึงขาย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าว และทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนนั้น
วันนี้ (31 มี.ค.51) นายมิ่งขวัญ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรองสถานการณ์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ดำเนินรายการโดย นายอดิศักดิ์ ศรีสม เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกมาพูดถึงแนวโน้มราคาข้าวนั้นไม่ได้เป็นการแทรกแซงราคาข้าวแต่อย่างใด แต่ที่ต้องพูดก็เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายได้รับข้อมูลอย่างเท่าเทียม ให้เกิดความยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และควรจะทำที่สุดของกระทรวงพาณิชย์ คือให้ข้อมูลทุกคนให้รู้เท่าเทียมกัน
"ตอนนี้ผมก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อต่าง ๆ ไปแล้ว ตอนนี้ให้ส่งออกข้าวให้หมด เนื่องจากเป็นโอกาสทางการตลาดของชาวนาและประเทศไทย เพราะประเทศผู้ผลิตข้าวอื่น ๆ กำลังประสบปัญหา เราจึงมีอำนาจต่อรองทางการตลาดได้"
กรณีที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าควรเก็บข้าวไว้ก่อนจริงหรือ จะยังย้ำหรือไม่ว่าชาวนาควรที่จะเก็บข้าวเอาไว้ก่อน นายมิ่งขวัญตอบว่า ตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว แต่หากจะเก็บไว้อีกหนึ่งเดือนเพื่อให้ได้ราคาดีกว่านี้ก็พอเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะเก็บนานแล้วตอนนี้ ขายให้หมด เพราะหากฤดูกาลหน้าทุกคนทำนาได้ข้าวมามาก ราคาอาจจะไม่สูงเท่าตอนนี้ “วันนี้ ผมออกมาบอกแล้วว่าขายเถอะ วันนี้มาบอกให้ได้ยินทั่วกัน ว่าให้ออกมาขายได้แล้ว”
ส่วนการแก้ปัญหาราคาข้าวในประเทศนั้น จะนำข้าวในสต๊อกของรัฐ ที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน จะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกบรรจุเป็นถุงขายในราคาต้นทุน ซึ่งตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะขายในราคาเท่าไหร่ แต่ราคาถูกกว่าท้องตลาดแน่นอน
การกระจายข้าวออกสู่ประชาชน จะไม่เอาออกมาให้บริษัทใดประมูลไปขายต่อ แต่จะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.)ทำเอง โดยขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ให้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานในต่างจังหวัด เช่น พาณิชย์จังหวัด ส.ส. และ ข้าราชการในส่วนต่างๆ เพื่อเป็นการทานอำนาจซึ่งกันและกันได้ และข้าวส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ในสต๊อก แล้วเราจะดูแนวโน้มว่าราคาข้าวจะเป็นอย่างไร ถ้าหากข้าวออกมามาก ราคาข้าวจะตก เราก็จะต้องรับจำนำข้าวต่อไป
นายมิ่งขวัญยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าข้าวในสต็อกของ อคส. หายไป 2-3 แสนตันนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่ หายไปแค่ หนึ่งหมื่นสามพันกว่าตันเท่านั้น ซึ่งข่าวที่ออกไปนั้นมีบุคคลนิรนามได้ส่ง SMS ไปยังผู้สื่อข่าวว่าข้าวหายไปเป็นจำนวนมากถึง 2-3 แสนตัน ก่อนที่ทางกระทรวงจะแถลงข่าวตัวเลขที่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนได้สั่งการไปแล้วว่าต้องหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ หรือหากหาคนผิดไม่ได้ ผู้ที่ดูแลก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
