xs
xsm
sm
md
lg

“เพ็ญ” กล้ำกลืนแจงฮุบช่อง 11 กรี๊ดเปล่าชี้นำปลด ผอ.อสมท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปชป.จี้กระทู้ถามรัฐบาลฮุบช่อง 11 กดดันปลด ผอ.อสมท เพราะแก้ไขสัญญาทรูวิชั่นส์ พร้อมปูดรายได้ขาดทุน ด้าน “เจ๊เพ็ญ” อ้างข้อมูลคลาดเคลื่อน ยันพวกพ้องไม่มีเอี่ยวอ้างเอามืออาชีพเข้ามาทำงาน ปากแข็งไม่ได้ชี้นำปลด “ผอ.อสมท”

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ในช่วงกระทู้ถามสด เรื่อง การปรับเปลี่ยนในองค์กรสื่อมวลชนของรัฐ โดย นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ถามนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ได้มีการพูดกันว่า นายจักรภพ พยายามที่จะเขาไปปฏิบัติการครอบครองสื่อของรัฐแบบเบ็ดเสร็จ โดยต้องการนำไปเป็นประบอกเสียงของรัฐบาล เพื่อสั่งการได้โดยตร งพร้อมทั้งเปิดประตูให้พวกพ้องของ ครม.เข้าไปหากินในสื่อของรัฐอย่างเอิกเกริก โดยในช่วงแรกบอกว่า จะมีการปรับโฉมใหม่ในเดือน เม.ย.นี้จากช่อง 11 เป็นช่องเอ็นบีที โดยให้บริษัท ดิจิตอล มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด เข้ามาผลิตรายการทั้งหมด โดยให้บุคคลภายนอกยึดช่วงเวลาตั้งแต่ 06.00-01.00 น.ซึ่งล้วนเป็นอดีตพนักงานทีไอทีวี ทั้งสิ้น

นายอภิชาต กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังรุกคืบให้กรมประชาสัมพันธ์ไปยึดคลื่นในระบบเอฟเอ็ม 5 คลื่น โดยเฉพาะคลื่น 105 วิสดอมเรดิโอ โดยบอกว่า จะให้กรมประชาสัมพันธ์เข้าไปดำเนินการเสนอข่าวในทางที่ดี และอย่างสมดุล แต่การดำเนินการของ นายจักรภพ ดูแล้วขัดกับหลักการ จึงขอถามว่า บริษัท ดิจิตอลฯ มีความสามารถมาจากไหน หรือรัฐมนตรีไปรู้จักมักคุ้นและการเข้ามาของบริษัทดังกล่าวมีการคัดเลือกอย่างไร กรมประชาสัมพันธ์จะได้ผลดีและเสียอย่างไร จริงหรือไม่ที่บอกว่า มี 1 ใน 5 ของคลื่นวิทยุที่ยึดมาถูกแบ่งปันไปให้กลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า นปก.จริงหรือไม่

นายอภิชาต ถามต่อว่า เรื่องที่จะมีการเปลี่ยนตัว ผู้จัดการใหญ่ อสมท นายจักรภพ ให้สัมภาษณ์กดดันเรื่องนี้หลายครั้ง จนทำให้วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา หุ้นของ อสมท ลดลงเรื่อยๆ อยากถามว่า การที่ นายจักรภพ ไม่พอใจ อสมท สืบเนื่องมาจากการที่ อสมท ไปแก้ไขสัญญาโฆษณากับบริษัท ทรูวิชั่นส์ ใช่หรือไม่ เพราะรัฐมนตรีบอกเองว่าไม่เห็นด้วย และบอกให้ยุติเรื่องดังกล่าว ซึ่งความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องของบอร์ด อสมท แล้วทำไมรัฐมนตรีจึงไปยุ่มย่าม ซึ่งการที่รัฐมนตรีเปิดเผยตัวเลขขาดทุนของ อสมท แล้วออกมากดดันว่าจะมีการเปลี่ยนตัว กรรมการบริหารใหญ่ทำให้มีผลกระทบต่อหุ้น ตรงนี้ท่านจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร

นายจักรภพ ชี้แจงว่า ข้อมูลของผู้ยื่นกระทู้คลาดเคลื่อนอย่างน่าเห็นใจ เพราะข้อเท็จจริงคือ ช่อง 11 มีเจตนารมณ์ตั้งขึ้นมาเป็นทีวีสาธารณะ แต่ขณะนั้นประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ จึงทำให้ช่อง 11 กลายเป็นระบบของราชการ การปรับปรุงครั้งนี้ ก็เพื่อให้กลับไปสู่เจตนารมณ์แรกเริ่ม ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีบริษัทหนึ่งบริษัทใดเข้าๆ ไปยึดสถานีนั้นไม่เป็นความจริง เพราะช่อง 11 จะดำเนินการแบบพลีพลาม หรือแบบโครมเดียวไม่ได้ ไม่เหมือนกับบางสถานีที่ไปยึดเขาแล้วก็ไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด โดยไม่แน่ใจว่าทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แล้วก็ดึงคนใกล้ชิดเข้าไปบริหาร ใช้เงินกับแบบไม่ยั้ง ใช้เงินซื้อสารคดีถึง 60 ล้านบาท ถ้าเป็นตนคงทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะคนช่อง 11 ไม่ได้ผิดที่ช่องเขาไม่มีคุณภาพ แต่เขาเป็นเหยื่อรับคำสั่งซ้ายทีขวาที เละเทะไปหมด แบบนี้จึงต้องเกิดการปรับปรุง ซึ่งการปรับปรุงในเดือน เม.ย.นี้ ก็เป็นเรื่องของโครงสร้างข่าวที่จะมีการเพิ่มจากเดิม 7 ชั่วโมง เป็น 9 ชั่งโมงครึ่งต่อวัน ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 2 ใน 3 ก็จะแบ่งเป็นรายการทั้งสั้นและระยะยาว โดยให้คนในช่อง 11 คิดเองและเปิดโอกาสให้หลายบริษัทเข้ามาดำเนินการ ส่วนในช่วงเฟส 2 เดือน เริ่มจากวันที่ 11 ก.ค.นี้ ก็จะมีการปรับปรุง เอ็นบีที เดือนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนช่วงที่ 3 เดือน ส.ค.นี้ จะเป็นการปรับโครงสร้างด้านเทคนิค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ

“การที่จะเอาคนที่รู้จักเป็นพักเป็นพวกเข้าไปนั้น มีแต่ตายอย่างเดียว เพราะงานโทรทัศน์เป็นงานศิลปะ ไม่ใช่จะสั่งซ้ายหันขวาหันได้ ระบบพรรคพวกใช้ไม่ได้ เพราะภาพมันฟ้องในโทรทัศน์ ดังนั้น จึงขอให้รอดูช่วงสุดท้ายของการปรับปรุง ไม่เกินเดือนสิงหาคม จะเห็นทีวีของรัฐมีความเป็นสาธารณะในทางที่ดีขึ้น และบริษัทนี้ก็ไม่ได้มาทำงานแทนคนช่อง 11 เราไม่มีการเอาข้าราชการเจ้าหน้าที่ และพนักงานออกจากงานแม้แต่คนเดียว แต่เอามืออาชีพเข้ามาทำงานร่วมกัน ส่วนที่ถามว่าบริษัทนี้เก่งอย่างไรนั้น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผู้มีประสบการณ์ในการบริหารโทรทัศน์มาแล้วทุกช่อง ซึ่งการหาผู้ที่มีประสลบการณ์แบบนี้หายาก ผมไม่ได้อยากได้มือสมัครเล่นเขาไปบริหารเหมือนบางสถานี ที่ทำเหมือนสามล้อถูกหวย” นายจักรภพ กล่าว

นายจักรภพ กล่าวว่า ส่วนเรื่องคลื่นวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ตนได้ให้นโยบายไปว่า ไม่ควรที่จะยึดความชำนาญของตัวเองในการให้สัมปทาน แต่ต้องยึดในความเป็นอาชีพการจัดรายการ จะต้องมีการฝึกตนเองไว้รองรับกับ กสช.ที่จะเกิดขึ้น ในเมื่อเรามีทรัพยากรแบบนี้ก็ต้องใช้ให้ได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ให้สัมปทานกับใคร และการบอกว่าไปยึดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะ 5 คลื่นดังกล่าว เป็นคลื่นที่หมดสัญญาไปเมื่อปีที่แล้ว และอยู่ระหว่างการต่อสัญญา และการที่บอกว่าจะเอา นปก.มาทำคลื่นวิทยุนั้น ก็ไม่จริงไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างจะต้องโปร่งใส

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่อง อสมท นั้น ตนในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแล ก็ต้องลงไปดูแล แม้ว่า อสมท จะเป็นบริษัทมหาชนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่รัฐบาลก็ถือหุ้นใหญ่ หากเกิดเหตุไม่ชอบมาพากล ตนในฐานะผู้ดูแล ก็ต้องบอกสาธารณชนให้รับทราบ จะมานั่งเฉยๆ แล้วพอเกิดผลเสียจะบอกว่าโชคดีแล้วกัน แบบนี้ไม่ใช่ผู้บริหารแล้ว การเป็นผู้บริหาร เมื่อเราเห็นปัญหาก็ต้องลงไปแก้ไข ต้องชี้ให้เห็น อย่างไรก็ตาม อำนาจของการบริหารก็อยู่ที่บอร์ดของ อสมท ที่ผ่านมา อสมท ก็ขาดทุนมากที่สุดในช่วง 7 ปี แม้จะออกมาแถลงข่าวแก้ว่าอยู่ในช่วงสถานการณ์พิเศษ แต่เหตุใดสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์พิเศษเขาถึงมีรายได้เพิ่มขึ้น ตรงนี้ต้องพูดให้กระจ่าง แต่คนที่รับไปดูแลคือคณะผู้บริหาร

นายจักรภพ กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ได้กดดันกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท แต่เป็นเพียงการบอกเวลาว่า ในเดือน เม.ย.-พ.ค.จะต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้นของ อสมท หากเรื่องที่ตนได้ให้ข้อมูลไปได้รับความสนใจก็อาจจะมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ไปชี้นำ ส่วนที่บอกว่าจะสร้างความเสียหายหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า รัฐบาลเป็นผู้ที่หุ้นใหญ่ของ อสมท และยังได้รับฉันทานุมัติมาจากประชาชน ขอถามว่า จะไม่มีสิทธิบ่นหรือชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยใช่หรือไม่

“หรือว่าท่านต้องการให้ อสมท เป็นเหมือนบริษัท เอนรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานอันดับ 7 ของโลกที่ต้องล้มละลายไป เพราะมีการซุกหนี้ปิดไว้ไม่ให้มีการตรวจสอบ ซึ่งผมจะไม่ยอมทำแบบนั้นแน่ และขอย้ำว่า สิ่งที่ผมชี้นำนั้นเป็นไปในฐานะของผู้ถือหุ้น แต่การดำเนินไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่อยู่ที่มติของผู้ถือหุ้นเท่านั้น” นายจักรภพ กล่าว

นายอภิชาต ได้ถามต่อว่า แม้ว่า นายจักรภพ จะอ้างว่า การออกมาพูดเรื่องการขาดทุนของ อสมท ในฐานะผู้ถือหุ้น แต่ควรจะเข้าใจว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร การเปิดเผยเรื่องนี้ควรเป็นเรื่องของบอร์ดมากกว่า เพราะการที่ นายจักรภพ พูดไปในฐานะรัฐมนตรี ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น ขอถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไร และรัฐบาลมีนโยบายด้านสื่อว่าจะสร้างความสมดุลการสื่อสาร จึงอยากทราบว่า ในเมื่อมีรายการ “สนทนาประสาสมัคร” แล้ว จะมีการให้เวลากับผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรบ้างหรือไม่

นายจักรภพ กล่าวชี้แจงว่า การปรับปรุงช่อง 11 เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ขออย่าเพิ่งวิจารณ์ตอนนี้ ส่วนเรื่องการให้ผู้นำฝ่ายค้านมาจัดรายการนั้น จะอยู่ในการวางผังรายการ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ กำลังพิจารณาอยู่ และจะพิจารณาให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะเป็นรายการ “อภิสิทธิ์วันละนิดจิตแจ่มใส” ก็ได้

ด้าน นายอภิสิทธิ์ ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงว่า ไม่ได้ต้องการสิทธิอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ขอความชัดเจนว่าเมื่อมีรายการของรัฐบาลแล้ว จะมีรายการของพรรคฝ่ายค้านได้หรือไม่ ตามนโยบายการสร้างสื่อให้มีความสมดุล ตนเห็นว่า รายการของนายกฯ รัฐมนตรีไม่ลังเลเลยว่า จะไม่มีรายการของนายสมัคร ตนก็อยากให้ นายจักรภพ ได้พิจารณาและอนุมัติรายการของตนเร็วๆ เหมือนของนายกฯบ้าง และทราบว่า รัฐมนตรีบอกว่ารายการของฝ่ายนิติบัญญัติมีคุณค่าในการส่งเสริมประชาธิปไตย แต่จะมีการลดเวลามองรัฐสภาจาก 1 ชม.เหลือ 25 นาที จึงอยากให้มีการพิจารณาอีกครั้งให้สมกับที่ท่านบอกว่าเป็นผู้เรียกร้องประชาธิปไตย

นายจักรภพ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องลดเวลารายการมองรัฐสภา เป็นเพียงการเข้าใจผิด และกำลังพิจารณาอยู่

กำลังโหลดความคิดเห็น