ผู้จัดการออนไลน์ - มติชนตีแผ่ตัวตน “ไชยา สะสมทรัพย์” ปฏิเสธเป็นเจ้าพ่อนครปฐม แต่ยอมรับ นายก อบจ.เคยเป็นคนขับรถให้ อบต.เป็นของตัวเอง 90% มือปืนต่างถิ่นต้องมาสอบถามก่อนยิง เผยคนใน พปช.อยากให้ตัวเองนั่งเก้าอี้ มท.1 แต่จำต้องหลีกทางให้ “เหลิม” สารภาพได้นั่งตำแหน่ง รมว.สธ.ก็เพราะทักษิณกรุณา
วันนี้ (10 มี.ค.) หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้าที่ 11 ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์พิเศษนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยพาดหัวของบทสัมภาษณ์ระบุ “บุคลิกดิบ-บารมีถึง ไชยา สะสมทรัพย์ สายล่อฟ้า รุ่น 2” โดยประเด็นหลักของการสัมภาษณ์นั้นคือประวัติชีวิตและทัศนะทางการเมืองของนายไชยา
สำหรับเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในสังคมก็คือ การที่ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสาธารณสุข และผู้บริโภคออกมาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนให้ครบ 20,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายไชยาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหลังนายไชยาทำการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงอย่างไม่เป็นธรรมหลายราย นอกจากนี้ ตั้งแต่เริ่มทำงานยังประกาศนโยบายว่าจะยกเลิกการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) ยามะเร็งจนทำให้มีผู้ต่อต้านจำนวนมาก จนปัจจุบันสื่อมวลชนได้ยกให้นายไชยานั้นเป็นสายล่อฟ้ารุ่นที่ 2 ต่อจากนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจของการสัมภาษณ์ อย่างเช่น เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการได้รับการสนับสนุนจากนายเนวินให้เป็น รมว.สาธารณสุข นั้น นายไชยาตอบว่า
“ไม่ใช่ คือถ้าสายสัมพันธ์อันนั้น ผมต้องไปนั่ง มท.1 แล้ว ผมถูกวางตัวเป็น มท.1 เพราะด้วยคาแร็กเตอร์ (บุคลิก) แล้ว ผมจะต้องเป็น มท.1 แต่พอท่านเฉลิม (อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย) มา ผมถึงว่าเป็นนักการเมืองรุ่นพี่ และท่านยื่นความจำนงอยากจะนั่ง มท.1 ผมก็ไม่ได้ไปแข่ง ไปแคนดิเดตอะไร แล้วแต่คณะกรรมการบริหารจะจับวางผมอย่างไร”
เมื่อนักข่าวถามต่อว่า ถือว่าจงใจหลีกทางให้ ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่? นายไชยาตอบว่า “ไม่ ... ไม่เลย เราไม่ได้ไปแข่งอะไร ผมเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งภาคกลาง ผมเป็นหัวหน้าโซน 7 แต่ผมไม่ได้ยึดติด อะไรก็ได้ เพราะไม่ได้ไปหวังอะไร วันนี้ผม 4 คนพี่น้องเล่นการเมืองได้เป็นรัฐมนตรีหมด เครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็ชั้นสูงสุดแล้ว บ้านช่องก็มีอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนจนต้องไปหาเศษหาเลย ขอบอกว่าผมไม่ได้ยึดกับตรงนี้ ถ้าคุณไม่พอใจ คุณว่าผมทำผิด คุณก็ว่าไปตามกระบวนการ”
นอกจากนี้ นายไชยายังได้ชี้แจงด้วยว่า สาเหตุที่ตัวเองไม่ได้เป็น รมว.มหาดไทย ไม่ใช่เพราะว่ามีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นโรงฝังกลบขยะของตระกูลสะสมทรัพย์เมื่อปี 2544 เนื่องจากนายปุระชัย (เปี่ยมบูรณ์) รมว.มหาดไทยในขณะนั้นหูเบาไปฟังคนใกล้ชิด ซึ่งเมื่อตรวจค้นแล้วก็ไม่เจออะไร อย่างไรก็ตาม ในการสัมภาษณ์ท่อนต่อมานายไชยาได้แสดงท่าทีว่าจริงๆ แล้วคนในพรรคพลังประชาชนอยากให้ตนเองได้นั่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย มากกว่า ร.ต.อ.เฉลิม เสียอีก โดยกล่าวว่า
“ผมไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ผมเป็นคนตรงๆ ถ้ามีเล่ห์เหลี่ยม ผมต้องเฮี้ยวเอามหาดไทยแล้ว ลองผมเพียงแต่พูดในพรรคเท่านั้นว่าเรามาโหวตกันว่าจะเอาใคร ผมเชื่อว่า 233 คนเนี่ย ถ้าโหวตกันจริงๆ อย่างน้อยๆ ผมมี 170-180 คนที่เอาผมเป็น มท.1 แต่ผมก็ไม่ทำ ไม่เลือกวิธีนั้น จะทำไปเพื่ออะไร ...”
ปฏิเสธเป็น ‘เจ้าพ่อ’ แต่ อบจ.เคยเป็นคนขับรถ มือปืนต้องเข้าหา
เมื่อผู้สื่อข่าวมติชนถามว่า เห็นว่านายไชยาเป็นผู้มากบารมีใน จ.นครปฐม มีลูกน้องเยอะ นายไชยาเลี้ยงลูกน้องด้วยอะไรจึงให้ใจมากขนาดนี้ นายไชยา ตอบว่า
“โธ่! ก็แต่ละคนมาแบบไม่มีการศึกษา ผมส่งเสียให้เรียน ไม่มีงานทำ เมื่อถึงเวลาสุกงอม ไอ้คนนี้น่าจะเป็นคนที่ทำงานให้สังคมได้ มาเป็นนายก อบจ. (องค์การบริหารส่วนจังหวัด) เป็นสมาชิก อบจ. สมาชิก อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) สมาชิกเทศบาลกันหมด เรียกว่า ส.จ.ในนครปฐม 30 คนอยู่กับผมหมด เรียกว่า อบต.100 กว่า อบต.เป็นของเรา 90 กว่า อบต. ดังนั้น ถ้าผมเลว ใช้อิทธิพลไปข่มขู่ มันไม่ได้เยอะขนาดนี้หรอก แต่ผมคิดว่าอะไรจะดีเท่าความดี มันไม่มีแล้ว ผมไม่ยอมก้มหัวให้ความไม่ถูกต้องเมื่อเป็นอย่างนี้ทุกคนก็เลยบอกโอ้ย! นี่เจ้าพ่อ ผมบอกเลยว่าผมไม่ใช่นักเลง แต่ผมเป็นคนไม่กลัวคน ชีวิตเกิดมาครั้งเดียวก็ตายครั้งเดียว ไม่เคยคิดว่าคนจะต้องตาย 2 ครั้ง ...”
“ผมเป็นคนสร้างคน ไม่ใช่คนทำลายคน นายก อบจ.ทุกวันนี้บริหารงบฯ 400-500 ล้านบาท ในอดีตเป็นเด็กขับรถผม อยู่กับผมมา 10-20 ปีก็ขึ้นมาเป็นได้ ส่งลงเลือกตั้ง 2 ครั้ง ได้ทั้ง 2 ครั้งเลย ผมว่าอันนี้คือเครื่องวัดว่าเราอยู่ในหัวใจประชาชน ไอ้คนอื่นใช้เงินกันโครมๆ แต่ผมไม่ต้อง เลือกตั้งแต่ละครั้ง ผมใช้เงินไม่เกินล้าน ทำป้ายเล็กๆ ไปติดหน่อยเดียวว่านายไชยาเบอร์นี้ จบแล้ว”
ในอีกตอนหนึ่งของการสัมภาษณ์นายไชยาได้เปิดเผยถึงความเป็นผู้กว้างขวางในแวดวงมือปืน ซึ่งทำให้เขาได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อกล่าวเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่ากำลังจะถูกลอบสังหาร
“คือในอดีตเราเที่ยวไปทั่ว เพราะกลุ่มก๊วนพวกมือปืนอาชีพเขาก็มีสัจจะวาจา สมมติจากเพชรบุรีมา จะมาฆ่าใครสักคนต้องมาถามเรา เดี๋ยวมาถูกพวกเรา พวกเมืองชลมาก็ต้องมาถาม ไม่ว่าจังหวัดไหนเข้ามา จะซี้ซั้วทำอะไรไม่ได้ เขาจะเรียกผมว่าหัวหน้า ไม่ได้เดี๋ยวไปถูกพวกหัวหน้า พอเราเป็นอย่างนี้ปุ๊บ ใครมันมาเอาเรื่องอะไร พวกผมมันถึงก็ไม่ตายกันไง คนจ้างมาฆ่า นาย ก. นาย ข. นาย ค. พอมาหาผม ผมบอกว่า กลับไปเหอะ อย่าไปทำเขาคนดี มันก็จบ”
สารภาพได้เป็น รมว.เพราะทักษิณให้
เมื่อมติชนถามว่า “นักการเมืองหลายคนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ค่อยฟังใคร แต่ท่านมีโอกาสได้เสนอความคิดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงว่าไม่ธรรมดา” นายไชยาตอบว่า
“คือ ... วันนี้ผมว่า ... ตำแหน่ง รมว.สธ. ถ้าท่านไม่รักผม หรือไม่เข้าใจผม ผมก็คงไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ คือ ส่วนหนึ่งอย่างน้อยๆ กรรมการบริหารจะทำอะไรก็ต้องให้เกียรติแก ถามว่าใครจะนั่งอะไรตรงไหน และผมเป็นคนไม่ขอใคร นิสัยผมคือไม่เปิดโอกาสให้ใครมามีบุญคุณกับผม เพราะโดยนิสัยผม คือใครมีบุญคุณกับผม แผ่นดินกลบหน้าเมื่อไรถึงจะหมดบุญคุณ”
