xs
xsm
sm
md
lg

“ยามฯ” โต้ “เหลิม” พูดไม่รับผิดชอบ - “สนธิ” ผิดหวัง “พัชรวาท” ยอมสยบนักการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” โต้ “ดร.เหลิม” ยันพันธมิตรฯ ยังไม่เคยประกาศชุมนุมหรือท้าดีเบต จวกพูดไม่รับผิดชอบ กล่าวหาพันธมิตรฯ คิดร้ายกันเอง เย้ย “นพดล” ความจำเพี้ยน ชี้ม็อบ นปก.ต่างหากก่อความรุนแรง ด้าน “สนธิ” ผิดหวัง “พัชรวาท” ไร้ภาวะผู้นำ ปล่อยรองผู้การฯ บุรีรัมย์โดนย้าย

รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 10 มีนาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ และนางจิดารัตน์ เจริญชัยชนะ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรก ได้กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย แสดงท่าทีฉุนเฉียวที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปฏิเสธการพูดคุยด้วย และได้ปรามพันธมิตรฯ ว่าขอให้ตรวจสอบรัฐบาลด้วยข้อมูลที่เป็นจริง และขอให้ระวังตัวเพราะพันธมิตรแตกแยกกันเอง รวมทั้งยังบอกว่าจะไม่โต้วาทีกับพันธมิตรฯ

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าใจผิดอะไรหรือไม่ เพราะพันธมิตรฯ ยังไม่ประกาศว่าจะชุมนุมเลย อีกทั้งยังไม่เคยท้าดีเบตกับ ร.ต.อ.เฉลิม นอกจากการประกาศว่าจะให้ข้อมูลแก่สาธารณะมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ก็ยังเป็นไปอย่างมีเหตุผล ไม่ได้เคลื่อนไหวตามอำเภอใจ

พันธมิตรฯ พึ่งจะแสดงความคิดเห็นก็เมื่อมีการโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามมาด้วยการโยกย้ายข้าราชการจำนวนมาก โดยเล็งเห็นว่า หากให้มีการแทรกแซงจะทำให้กระบวนการที่ต่อสู้มาทั้งหมดกลับมาสู่จุดเดิม

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหาว่า นายสนธิ ไม่คุยด้วย เพราะหัวเสียจากการมีคดีหมิ่นประมาทถึง 3 คดีที่รอลงอาญา นั้น ความจริงนายสนธิไม่เจรจากับฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ มานานแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีคดี เหตุผลของ รมว.มหาดไทย จึงเป็นเหตุผลทางการเมือง เพราะช่วงหลังๆ มักจะหยิบยกคดีความของนายสนธิ ไปพูด เหมือนกับที่นายจักรพภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำไปพูดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วๆ

หลังๆ เรามักจับต้นชนปลายไม่ถูก ลืมกระบวนการที่เกิดขึ้นง่ายไป เหมือนกับว่า พันธมิตรฯ คือ ตัวป่วน ก่อความวุ่นวาย เป็นตัวปัญหาของบ้านเมือง ทั้งๆที่แค่แกนนำ 5 คน คิดที่จะรื้อฟื้นโครงสร้างในการบริหารจัดการกลับขึ้นมาใหม่เท่านั้น ไม่ได้ประกาศว่าจะชุมนุม แต่ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลอย่างเสียๆหายๆ

โดยเฉพาะท่าทีของ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ที่เปิดกระทรวงแถลงถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ว่า การดำเนินการใดๆ ไม่ควรให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ควรพูดคุยกัน ไม่พอใจก็เคลื่อนไหวใช้ถ้อยคำที่รุนแรง การชุมนุมมีได้ แต่การชุมนุมต้องไม่ส่งสัญญาณให้รัฐบาลรู้สึกหวาดกลัว ข่มขู่ ต่อรอง ถือว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่า นายนพดล พูดถึงใคร และพูดในฐานะอะไร

พันธมิตรฯ ไม่เคยออกมาชุมนุมแล้วเกิดความวุ่นวาย ไม่รู้ไปนึกถึงภาพการชุมนุมของม็อบ นปก.หรือไม่ ภาพเก่าๆ มันฟ้องชัดเจน นายนพดล อาจจะมีความทรงจำผิด มองการเคลื่อนไหวของ นปก.เป็นการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ขณะเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้นในการชุมนุมของ นปก. ก็มีการชุมนุมโดยใช้ความรุนแรง ทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ดังนั้นจะนำมาเปรียบเทียบกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ ไม่ได้

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องตามากฎหมาย สงบอหิงสา ปราศจากอาวุธ ไม่แสดงอาการป่าเถื่อนอย่างที่ม็อบ นปก.เคยทำมาแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ ทำไมไม่ออกมาช่วงที่คนที่อยู่เฉยๆ ถูกคุกคามจากม็อบ นปก.ไม่เคยเห็นตะโกนร้องถามห้ามปราม

ซ้ำยังกล่าวหาว่าแกนนำพันธมิตรฯ แตกแยก คิดร้ายต่อกัน อะไรเกิดขึ้นต่อไปรัฐบาลไม่เกี่ยว พูดอย่างนี้ราวกับไม่ได้เป็น รมว.มหาดไทย

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า เรื่องนี้ นายสนธิได้ให้สัมภาษณ์ว่า การพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ให้พูดไป เพราะเกิดมาพูดอย่างเดียว ซึ่งการพูดเช่นนี้จะพูดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็คงไม่ได้ รัฐบาลจะไม่เกี่ยวไม่ได้ เพราะเป็นถึง รมว.มหาดไทย มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ไม่ให้เกิดความเดือดร้อน ถ้าอย่างนี้วันหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกสังหาร แล้วบอกประชาชนไม่เกี่ยว เกิดขึ้นจากใครไม่รู้ที่ขัดแย้งในพรรคพลังประชาชน แล้วใครจะไปยอมรับได้ การพูดต้องคำนึงว่า กำลังเป็น รมว.มหาดไทย ต้องทำเพื่อประเทศชาติ มากกว่าจะทำเพื่อครอบครัวใครครอบครัวหนึ่ง

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการยังกล่าวถึงการโยกย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และ กกต.บุรีรัมย์ ว่า พ.ต.อ.สังวรณ์ ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอน ทั้งที่ต้องอยู่ในพื้นที่ของผู้มีอิทธิพลทางการเมืองสูงพื้นที่หนึ่งก็ตาม แต่ท่านก็ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

ทั้งนี้ เมื่อฟังคำพูดของ พ.ต.ท.อ.สังวรณ์ ที่ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาเหลียวแล ก็อยากฝากถึงผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะผู้ใหญ่ในระดับนักการเมืองหรือใคร ให้มาดูแล เมื่อมีข้าราชการที่กล้าทำ กล้าว่าทุกอย่างไปตามขั้นตอน แล้วจะปล่อยให้การโยกย้ายที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้นหรืออย่างไร

**ติง “พัชรวาท” ขาดภาวะผู้นำ

ต่อมา นายสนธิ ได้โทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็นในรายการ กรณีการย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ ว่า รู้สึกเสียใจกับท่าทีของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่คอยดูแลปกป้องลูกน้อง เพราะ สิ่งที่ พ.ต.อ.สังวรณ์ได้ทำไปนั้นควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีของการทำหน้าที่ตำรวจ

นายสนธิ กล่าวต่อว่า การที่ พล.ต.อ.พัชรวาท รู้เห็นเป็นใจ ร่วมมือกับการโยกย้าย แสดงว่าเป็นคนที่ขาดภาวะผู้นำ เมื่อเปรียบเทียบกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกฯ แล้ว ใครจะว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ตนถือว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นคนกล้าตัดสิตใจ ไม่ยอมสยบให้กับการเมือง อาจจะมียอมบ้างเป็นบางคราว แต่ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชาทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตแล้ว ตนไม่เคยเห็นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยอมให้กับอำนาจการเมือง

“นี่คือปัญหาเรื้อรังของตำรวจมาตลอด ซึ่งคุณทักษิณได้สร้างความเรื้อรังของตำรวจนี้ให้มันเรื้อรังมากกว่าเก่า แล้ววันนี้คุณพัชรวาทก็ถูกสะท้อนตัวตนออกมา เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างที่สุด ผมคิดว่าศักดิ์ศรีของความเป็นพล.ต.อ.นั้น ทุกอย่างเป็นเรื่องอนิจจัง มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ วันนี้เป็นรักษาการ ผบ.ตร. อาจจะดีใจที่ได้มาเป็น แต่อีกไม่กี่วันตำแหน่งนี้ก็หมดไป มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา คุณพัชรวาทก็จะตกลงไปในประวัติศาสตร์ อย่างที่ไม่สวยงาม ผมก็ไม่รู้ว่าคนรุ่นหลังจะมองคุณพัชรวาทแบบไหน ผมเสียดายมาก”

** เผยตัวตน “ไชยา สะสมทรัพย์”

ต่อมา ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ทางมติชนรายวัน หน้า 11 ซึ่งอ้างว่าตนไม่ได้ใช้สายสัมพันธ์ที่มีกับนายเนวิน ชินชอบ ขึ้นมาเป็น รมว.สาธารณสุข เพราะถ้าใช้สายสัมพันธ์นั้นต้องได้เป็น รมว.มหาดไทย และเชื่อว่าถ้าโหวตกันในพรรคพลังประชาชนตนต้องได้เป็นแน่นอน เพียงแต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นพี่ต้องการได้ตำแหน่งนี้ ตนจึงไม่ไปแข่ง

นายไชยายังให้สัมภาษณ์ถึงวิธีการเลี้ยงลูกน้องด้วยการส่งเสียให้เรียนและเอามาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ทำให้ ส.จ.ในจังหวัดนครปฐมทั้ง 30 คน เป็นคนของตนเองทั้งหมด ขณะที่ อบต.100 กว่าแห่งเป็นคนของนายไชยา 90 กว่าแห่ง นายก อบจ.คนปัจจุบันก็เป็นคนขับรถของนายไชยามาก่อน รวมทั้งยังให้สัมภาษณ์ว่าสามารถคุมมือปืนในจังหวัดนครปฐมได้ หากมีมือปืนจากจังหวัดอื่นเข้ามาก็ต้องมาถามตนก่อน ถ้าตนบอกไม่ให้ฆ่าเรื่องก็จบ

นอกจากนี้ นายไชยายังให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าท่าน (พ.ต.ท.ทักษิณ) ไม่รัก ก็คงไม่ให้มาเป็น รมว.สาธารณสุข เพราะกรรมการบริหารพรรคจะทำอะไรก็ต้องให้เกียรติ ถามว่าใครจะนั่งตรงไหน และอ้างว่าไม่เคยขอใคร ไม่เปิดโอกาสให้ใครมามีบุญคุณ เพราะถ้าใครมีบุญคุณด้วยแล้ว ต้องรอแผ่นดินกลบกน้าถึงจะหมดบุญคุณ

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ทำให้รู้จักตัวตนของนายไชยาว่าเป็นคนอย่างไร เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังจะยื่นรายชื่อถอดถอนก็จะได้รู้ว่าควรจะทำต่อหรือไม่ หลังจากได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้




กำลังโหลดความคิดเห็น