xs
xsm
sm
md
lg

“ยามฯ” แฉเกม “แม้ว” แก้ รธน.หวังช่วยตัวเองพ้นศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ชี้เหตุพันธมิตรฯ คลอดแถลงการณ์ฉบับ 2 หลังพบขบวนการช่วย “แม้ว” หนีศาล ทั้งสร้างเงื่อนไขรัฐประหารตัวเอง เดินเกมส่งคนยื่นเองรับเองให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลบล้างคำสั่ง คมช.ทั้งกระบิ เชื่อ “ทักษิณ” ไม่ยอมหยุดแน่ หลังพาดพิง “คนที่อยู่บนยอด”

รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 5 มีนาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรก ได้กล่าวถึงแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 2/2551 เรื่อง “กลียุคมาถึงแล้ว” ว่า สาเหตุที่พันธมิตรฯ ต้องมีแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ออกมา เนื่องจากการโยกย้ายข้าราชการที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องปกติ เสมือนรู้อยู่แก่ใจว่า หากทำอย่างนี้จะเกิดแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ประชาชนเกิดความรู้สึกอึดอัด และมีความรู้สึกว่ารัฐบาลกำลังทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวหรือไม่ แต่รัฐบาลนี้ก็ยังทำ เหมือนกับว่ากำลังยั่วยุเพื่อให้เกิดเงื่อนไขให้ประชาชนออกมาประท้วงจำนวนมาก เพื่อสร้างเหตุในการรัฐประหารตัวเองหรือไม่

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ในขณะนี้ใกล้เคียงกับก่อนที่พันธมิตรฯ จะมีการชุมนุมวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 มาก ทั้งนี้ หากมีการทำการรัฐประหารตัวเองก็จะใช้อำนาจล้มล้าง คำสั่ง คปค.และ คมช.ที่มีผลในการตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด เป็นการตัดตอนไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลคิดทำการรัฐประหารตัวเอง ความชอบธรรมของระบอบทักษิณจะหมดสิ้นลงทันที เพราะเขาชอบกล่าวอ้างว่ามาโดยระบบ มาจากการเลือกตั้ง จะไม่มีความหมายอะไร หากรัฐบาลคิดทำการรัฐประหารตัวเอง เป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง ถ่มน้ำลายรดฟ้า และเอาอำนาจนั้นมาล้างมลทินให้ตัวเอง นี่อาจเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้

ดังนั้น จึงมีอีกช่องทางหนึ่งที่จะไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นั่นคือ ความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในบทเฉพาะกาลที่รับรองการกระทำของ คมช.เอาไว้ หากแก้ไขจุดนี้ก็สามารถล้มล้างคำสั่ง คปค.และ คมช.ได้ทั้งหมด ซึ่งจะดีกว่าการไปออกเป็น พ.ร.บ.ยกเลิกทีละฉบับ ที่เสียเวลาและดูเป็นการเจาะจงเกินไป

ผู้ดำเนินรายการ จั้งข้อสังเกตอีกว่า ในการเข้ายื่นหนังสือเพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การเข้ายื่นหนังสือของ นพ.เหวง โตจิราการ ต่อ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันก่อน และล่าสุด วันที่ 5 มี.ค. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประธานกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยก็ยื่นหนังสือ ต่อ พ.อ.อภิวันท์ เพื่อให้ยกเลิกผลิตผลของ คมช. รวมทั้งรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเท่ากับว่า คนที่ยื่นทั้ง 2 ครั้ง ก็คืออดีตแกนนำ นปก. ขณะที่คนรับหนังสือก็เป็นอดีต แกนนำ นปก.เช่นกัน เป็นการยื่นกันเองรับกันเอง เป็นการจัดกระบวนการและผู้คนให้มีความชอบธรรมในการเริ่มต้นสะสางรัฐธรรมนูญ และคำสั่ง คมช.

ที้งนี้ หากมีการออก พ.ร.บ.มาแก้ไขประกาศ คมช.แต่ละฉบับโดยตรง จะชัดเจนเกินไป ก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์เกิดแรงต้านจากภาคสังคม ดังนั้นจึงพยายามชี้ให้ประชาชนเห็นภาพลบของรัฐธรรมนูญ อ้างความชอบธรรมที่จะต้องแก้ไข ผนวกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังออกมากดดันผ่านสื่อต่างประเทศบอกว่า “ถ้าพวก ส.ส.เข้าสู่สภา ไม่ทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เท่ากับเป็นการหลอกลวงประชาชน” ดังนั้นการยื่นเองรับเองของอดีตแกนนำ นปก.มันสะท้อนให้เห็นว่าทุกอย่างต้องเริ่มต้นให้เร็ว

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวอีกว่า ดูเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมจริงหรือไม่ ทั้งการโยกย้ายอธิบดี การแก้ไขกฎหมายองค์กรหรือผลพวงจาก คมช. หากคิดแบบนี้กระบวนการต้องเร็ว หากปล่อยให้ช้า คดีความก็จะเดินไปเรื่อยๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าสู่กระบวนการอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้ออ้างที่ว่าการรัฐประหารที่หมดความชอบธรรม หรือกระบวนการยุติธรรมที่มีความพยายามจะไม่เข้าสู่ขั้นตอน ล้วนแต่เป็นเหตุผล ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเผชิญ กับกระบวนการตรวจสอบที่เกิดขึ้น ซึ่งหากมีการยกเลิกคำสั่งอื่นใด จะทำได้หรือเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา เป็นสิ่งที่น่าห่วง

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว แกนนำพันธมิตรฯ จึงได้กำหนดและขอให้กระบวนการยุติธรรมใช้ความกล้าหาญ รวดเร็ว ในการดำเนินคดีความเพื่อป้องกันไม่เหตุการณ์วิกฤติฟื้นคืนกลับมาอีก นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเห็นแก่ลาภสักการะ ไปรับใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงโยกย้ายข้าราชการเพื่อลบล้างความผิดในคดีความของคนในระบอบทักษิณ ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ดำเนินคดีไว้ทั้งหมด เป็นสองข้อที่เรียกร้องในกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น

ที่น่าสนใจพันธมิตรฯ มีการเพิ่มบทบาทฟื้นฟูต้านระบอบทักษิณ โดยเพิ่มรูปแบบที่กว้างขวางและทรงพลังมากกว่าเดิม แม้กระทั้งอาจมีการเคลื่อนไหวในทุกลักษณะ เปิดกว้างในการต่อสู้ ขณะเดียวกันได้รวบรวมนักวิชาการ กลุ่มเอ็นจีโอ จำนวนมาก ที่ไม่พอใจการกระทำของรัฐบาล เพื่อร่วมติดตามตรวจสอบอำนาจรัฐในรูปแบบคณะกรรมการ ราวกับเป็นกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวอีกว่า วิธีการคิดต่อไปนี้จะมีความแยบยลและละเอียดในเชิงวงกว้าง เป็นการต่อสู้ที่พร้อมจะต่อสู้กันในระยะยาว สอดคล้องกับกระแสของสังคมที่เริ่มเห็นความพยายามปลดล็อกให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แทรกแซงการนำเสนอของเอเอสทีวี อีกทั้งยังมีความพยายามสร้างเครือข่ายสื่อสารมวลชนขึ้นมาเพื่อต่อต้านพันธมิตร ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นชนวนทำให้ประชาชนออกมาประท้วงในที่สุดได้เหมือนกัน

**ท้า “แม้ว” เอาอย่าง “สนธิ”

ในช่วงที่ 2 ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงคำแถลงของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ต่อเนื่องจากแถลงการณ์พันธมิตรฯ โดยได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยไม่มีการบิดเบือนและแทรกแซง อยากให้มีความกล้าหาญเหมือนที่ตนโดนบ้าง ว่า ที่ผ่านมามีบางคนชอบพูดว่านายสนธิหนีไปแล้วบ้าง เกี้ยเซี้ยกับ พ.ต.ท.?กษิณบ้าง หรือบอกว่าถูกอุ้มไปก็มี เป็นอัมพาตก็มี แต่ในข้อเท็จจริงก็คือนายสนธิไม่เคยหนี แม้แต่ตอนบวชมีคนกล่าวหาว่าบวชเพื่อหนีคดี แต่ตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า นายสนธิพร้อมที่จะสู้คดีและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกเมื่อ โดยที่ไม่มีอำนาจอยู่ในมือที่จะไปสั่งใครได้ ขณะที่รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยทั้งสิ้น แต่นายสนธิก็พร้อมสู้และพร้อมที่จะน้อมรับคำพิพากษาที่ออกมา

ตรงกันข้ามกับคนที่อยู่นอกประเทศ พูดมาตลอดว่าศาลถูกแทรกแซง ไม่ยอมกลับมาสู้คดี ขณะที่ตัวเขาเองกลับถูกครหาว่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเสียเอง ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาก็มีการโยกย้ายข้าราชการ มีใบสั่งให้เอาคนที่รู้จักและชื่นชอบตัวเองมาแทน โดยที่ตัวเองไม่ต้องออกหน้า ใช่หรือไม่ ไปจนถึงกระบวนการที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าประชาชนขยับ ตนไม่เกี่ยว ทั้งที่เป้ฯคนกลุ่มเดียวกัน ใช่หรือไม่

ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ นายสนธิ และ พ.ต.ท.ทักษิณจึงมีความแตกต่าง นายสนธิมีความเชื่อมั่น พร้อมสู้คดีโดยที่ตัวเองไม่มีอำนาจไปแทรกแซง ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณชอบอ้างว่ากระบวนการยุติธรรมหลังจากการรัฐประหารถูกแทรกแซง แต่ตัวเขาเองต่างหากที่ถูกครหาว่าแทรกแซงอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีความมั่นใจ ก็ขอให้เดินหน้า ไม่ต้องกลัว แต่ถ้ารู้ดีว่าตัวเองมีความผิด ก็คงอดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปแทรกแซง

** “ทักษิณ” ยังไม่หยุด พาดพิง “คนที่อยู่บนยอด”

ต่อมา ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แก่ นิตยสารไฟแนนเชียลไทม์ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวถึงคนบางกลุ่มที่อยู่บนยอดของสังคม (those on the top) ได้ประโยชน์จากการมีรัฐบาลที่อ่อนแอ เมื่อเขาได้รับเลือกตั้งมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้พยายามสร้างประเทศขึ้นมาจากฐานราก และอยากจะอยู่ให้นาน แต่คนพวกนี้รอไม่ได้ นอกจากนั้นยังพูดถึงการรัฐประหารของทหารว่า ไม่ใช่เรื่องของกองทัพทั้งหมดแต่เป็นเรื่องของคนที่อยู่บนยอด (the top people)

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า คำว่าพวกที่อยู่บนยอดนั้น พ.ต.ท.ทักษิณหมายถึงใคร คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนกำลังคิดท้าทายอำนาจบางอย่าง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าอยู่เหนือกว่ารัฐบาล สะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่หยุดแน่

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1

( 56 k ) | ( 256 K )



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2

( 56 k ) | ( 256 K )



กำลังโหลดความคิดเห็น