ทีมโฆษกพลังแม้ว ดอดเยี่ยมเอาใจนักข่าวทำเนียบ กล่อมโยกข้าราชการถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรม อ้างยึดพ่อมะกันเป็นแบบอย่าง ตำหนิสื่ออย่าก้าวล่วงศาลถูกแทรกแซง
วันนี้ (5 มี.ค.) พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ และ นางสาววีร์รินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเยี่ยมชมรังใหม่ ซึ่งเป็นห้องทำงานของสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ตนและคณะเพิ่งไปประชุมร่วมกับข้าราชการสำนักโฆษก เมื่อประชุมเสร็จแล้วจึงมาเยี่ยมสื่อมวลชน เพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานยังไม่ได้มาเยี่ยมห้องทำงานของสื่อมวลชนเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้รัฐบาลย้ายข้าราชการหลายคน เมื่อรวมกับข้าราชการเตรียมที่จะเสนอจัดตั้งสหภาพข้าราชการ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยเฉพาะกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ของส่วนราชการอื่นๆ นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยศึกษา แต่ทราบว่าข้าราชการก็มีสมาคมข้าราชการพลเรือนอยู่แล้ว แต่มีข้อเสีย คือ ไม่มีอำนาจต่อรอง เพราะตอนนี้ข้าราชการชั้นผู้น้อยเงินเดือนต่ำกว่าค่าครองชีพ แต่ส่วนของตำรวจในต่างประเทศนั้นเรียกว่าPolice Union ที่ดูแลจริยธรรมและค่าตอบแทนของตำรวจ ฉะนั้น หากตำรวจไทยมี Police Union ก็น่าจะช่วยได้ เพราะหากตำรวจเงินเดือนน้อยก็อาจเกิดการทุจริตได้
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานใดก๊อบปี้ Police Union มาใช้ ถือว่าดี เพราะมันมีกรอบไว้แล้วและต้องมีกฎหมายรองรับ อีกทั้งจะทำสิ่งใดๆ ที่เหนือกฎหมายไม่ได้ เมื่อถามว่า การตั้งสหภาพข้าราชการในคราวนี้เพราะมีการโยกย้ายไม่เป็นธรรม และไม่มีการอ้างเหตุผลเงินเดือนน้อยด้วย พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า จริงๆ แล้วการโยกย้ายข้าราชการนั้นเป็นธรรมทุกตำแหน่ง และเป็นเรื่องปกติ ตนถูกสั่งสอนมาว่า ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย ตำรวจต้องอยู่ได้ อีกทั้งตำรวจเป็นหน่วยงานที่โดนโยกย้ายมากที่สุด ผู้ที่เป็นตำรวจตั้งแต่ ร.ต.ต.-พล.ต.อ.ต้องโดนย้ายไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา เหตุการณ์โยกย้ายหลายครั้งมาจากเรื่องการเมือง พล.ต.ท.วิเชียรโชติกล่าวว่า “สหรัฐอเมริกาเมื่อเปลี่ยนประธานาธิบดี 1 ครั้ง ก็ย้ายเจ้าหน้าที่ 7,000 กว่าตำแหน่ง แต่รัฐบาลนี้ย้าย 4 ตำแหน่ง ก็โวยกันจริงๆ และ 1 ปี 6 เดือนที่มีการปฏิวัติ ย้ายไป 400ตำแหน่ง ประเทศดีขึ้นไหม แสดงว่าไม่ดีขึ้น เพราะประชาชนยังเรียกร้องประชาธิปไตย ข้าราชการส่วนใหญ่เข้าเกียร์ว่าง เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็ต้อง Put the right man on the right job เพราะฉะนั้นต้องย้ายต่อไป ไม่จบแค่นี้ ทุกอย่างยังไม่เข้าที่”
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า เมื่อมีการโยกย้าย แล้วทำไมต้องเดือดร้อน เพราะเงินเดือนเท่ากัน ย้ายไปไหนก็อัตราซี 10 แสดงว่า มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือไม่ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องดูบุคคลที่เหมาะสมจะมารับนโยบาย และยังพยายามพูดกันว่าล้างบาง แต่มันจะมีการล้างแน่คือล้างสิ่งไม่ถูกต้อง หรือล้างสิ่งสกปรกที่นั่งทับกันไว้ให้ออกไป เมื่อคนใหม่เข้ามาทำงานการตรวจสอบก็ง่ายขึ้น แต่การโกยย้ายครั้งที่แล้ว 400 ตำแหน่งนั้น ผลงานเป็นอย่างไร และมีการตรวจสอบหรือไม่ ฉะนั้นจะโวยไปทำไม
“เป็นข้าราชการต้องพร้อมโดนย้าย ผมเชื่อว่าจะไม่แตกแยก เมื่อย้ายเสร็จเข้าที่ 4 ปีก็อยู่ยาวเลย ประชาชนก็ได้ประโยชน์ รู้ไหมพรรคใดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พรรคข้าราชการใหญ่ที่สุด ไม่ใช่พรรคการเมือง ฟังก์ชั่นที่รันได้ทุกวันนี้เพราะข้าราชการ ฉะนั้นมันต้องสร้างระบบราชการให้เข้มแข็ง คือ Put the right man” พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวและว่า กรมดีเอสไอนั้นตนตั้งขึ้นมากับมือ แต่เมื่อ คมช.เกิดขึ้นก็โยกตำรวจที่มาเป็นพนักงานสอบสวนที่เก่งมาก เช่นรองอธิบดีบางคนย้ายไปอยู่ปปส. ทำให้กรมนี้เละหมดเลย ฉะนั้น ตรงนี้ต้องจัดใหม่ คือ นำคนสอบสวนมาทำหน้าที่สอบสวน นอกจากนี้ หลังการปฏิวัติเพียง 4 วัน ก็มีการโยกย้ายคนเก่ง มีความรู้ อย่าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งสหประชาชาติขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญ และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย แล้วโดนออกไป อย่างนี้มันถูกไหม ฉะนั้น ทุกกระทรวงมันไม่ Put the right man ต้องเอาพวกเขากลับมา และให้ความเป็นธรรมด้วย ขอถามว่าบรรดาคนที่โวยวายทุกวันนี้ ทำไมตอนที่ คมช.ย้าย ไม่โวยวายบ้าง เงียบกันหมดเลย
เมื่อถามว่า คนที่กล่าวถึงนั้น มีโอกาสกลับไปทำงานที่เก่าหรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่าไม่ทราบ แล้วแต่รัฐมนตรีพิจารณา แต่ต้องดูว่าเมื่อย้ายแล้ว พวกเขาทำงานได้หรือไม่ เมื่อถามว่าคนที่ คมช.ย้ายส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เป็นเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ การแต่งตั้งทุกตำแหน่งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้แต่งตั้ง ฉะนั้น มันไม่มีอำนาจใหม่ อำนาจเก่าหรอก ผบ.ทุกเหล่าทัพ นายพลทุกคน อธิบดีทุกกรม แต่งตั้งในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนั้น และควรกลับไปดูประวัติศาสตร์สักนิด อย่าไปกังวล หากแต่งตั้งแล้วทำงานไม่ดีค่อยมาว่ากัน ที่มีการปรับเปลี่ยน เพราะมันผิดฝาผิดตัว และที่ตนมีความสุขในตอนนี้ คือ ทหารทุกกรมกองถอยกลับเข้ากองทัพหมดแล้ว ฉะนั้น นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ รมว.กลาโหม จึงไม่คิดทำอะไรกับทหาร แต่ในส่วนข้าราชการพลเรือนยังไม่กลับเข้าที่ก็เลยต้องจัดเพื่อให้ทำงานได้และขอเวลาให้รัฐบาล 6 เดือนหลังการโยกย้ายแล้วมาดูว่าประชาชนได้อะไรบ้าง เก็บภาษีได้เพิ่มไหม ควบคุมราคาสินค้าได้ไหม ยาเสพติดลดลงหรือไม่ การสอบสวนคดีต่างๆ ทำได้ดีหรือไม่ ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลกับกรมดีเอสไอ เพราะคดีของอดีตนายกฯหลุดออกจากกรมนี้ไปหมดแล้ว
“ผมกังวล 1 เรื่อง คือ สื่อมวลชนชอบพูดว่าเป็นห่วงว่าจะไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้มันมี 3 ส่วน คือ พนักงานสอบสวน อัยการ และศาล ทุกคดีของอดีตนายกฯไปอยู่ที่ชั้นศาลหมดแล้ว ระวังสักนิด ใช้คำว่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หมายความว่า จะแทรกแซงศาลใช่ไหม ระวังจะหมิ่นอำนาจศาลนะ การพูดเช่นนั้นถือว่าดูถูกศาล ถือเป็นการเตือนคนที่พยายามไปออกข่าวป่าวๆ ว่า จะมีรัฐบาลแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ใครจะกล้าแทรกแซงศาล” พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าว