“จักรภพ” กล่อมสหภาพ ขรก.อยู่หมัด นายกสมาคมพลิกลิ้น อ้างสื่อสารผิด ไม่ข้องแวะการเมือง เจ๊เพ็ญ ได้ทีอวดศักดา เย้ยสื่อมวลชนทำหน้าที่ซ้ำซ้อน ยกประเด็นโยก ขรก.จ้องล้มรัฐบาล เปรียบแค่นอมินีพันธมิตรฯ
วันนี้ (6 มี.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามอบนโยบายกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี (สปน.) ท่ามกลางกระแสการจัดตั้ง “สหภาพข้าราชการ” ของนายกสมาคมข้าราชการพลเรือน ซึ่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของ สปน.ออกมาให้การต้อนรับ นายจักรภพ โดยมี นายจาดุร อภิชาตบุตร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนายกสมาคม เป็นผู้ต้อนรับอย่างใกล้ชิด ทั้งขามาและขากลับ ทั้งนี้ ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมานายจาดุร ได้ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ และวิทยุเกือบทุกสถานี เพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าวด้วยตัวเอง
นายจักรภพ กล่าวภายหลังเข้าให้นโยบาย ถึงเรื่องการก่อตั้งสหภาพข้าราชการพลเรือนตามแนวคิดของสมาคมข้าราชการพลเรือน ว่า ประเด็นนี้เป็นความตั้งใจของสมาคมข้าราชการพลเรือน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการพัฒนาไปสู่จุดที่มีประโยชน์ ข้าราชการจะจัดกระบวนอย่างไร ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายก็จะไม่มีอะไรที่จะต้องขัดแย้งกันหรือจะเห็นไม่ตรงกันทั้งสิ้น เพระฉะนั้น บอกได้เลยว่า หมดปัญหาที่จะมีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ คนที่เป็นข้าราชการ คนที่มาจากการเลือกตั้งเลิกคิดได้เลย เพราะเรามีวิธีการแบบอารยะที่จะทำความเข้าใจระหว่างกัน และให้รัฐบาลที่ได้รับอำนาจชั่วคราวจากประชาชนทำงานได้อย่างเต็มที่
ขอยืนยันว่า การโยกย้ายขาร้าชการไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่ความอยากทำของรัฐบาล แต่เป็นความจำเป็นในเชิงการบริหารอย่างหนึ่ง เราจะไปตัดสินตรงนั้นไม่ได้ ขอยืนยันว่า เราจะไม่อาศัยเหตุผลทางการเมืองโยกย้ายข้าราชการ หรืออาศัยอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น
นายจักรภพ กล่าวว่า กรณีการย้ายข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เกี่ยวข้องกับคดีเอสซีแอสเซสนั้น เชื่อว่า ไม่ใช่เป็นการย้ายเพื่อลงโทษ และไม่ใช่เป็นการย้ายเจ้าหน้าที่ไปด้วย เรื่องรายละเอียดในการทำงานยังอยู่กับต้นสังกัดนั้น บุคคลกับงานเป็นคนละส่วนกัน ไม่ได้แปลว่า มีการเปลี่ยนแปลงบุคคลไปแล้วงานจะสูญหายไปด้วย งานยังอยู่อะไรที่เป็นคดีความอะไรเป็นข้อกล่าวหาก็ยังอยู่ต่อไป
“เรื่องนี้ไม่ใช่การลงโทษ เพราะท่ามกลางการโยกย้ายที่มีประชาชนก็จับตามมองถึงประสิทธิภาพในการทำงานเป็นอย่างไรต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ผมเชื่อว่า การโยกย้ายการทำงานระหว่างข้าราขการการเมือง กับข้าราชกาประจำ จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คิดว่าจะทำให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายจักรภพ กล่าวและว่า
นายจักรภพ กล่าวอีกว่า กรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะหยิบยกเรื่องนี้มากดดันรัฐบาลนั้น หากสื่อมวลชนทำงานกันอย่างเต็มที่ คงไม่จำเป็นที่จะต้องมีสื่อมวลชนกับพันธมิตรฯซ้อนกัน ซึ่งตนเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาไม่ได้ทันใจให้กับประชาชน และห่วงว่าเรื่องที่หาเสียงกับประชาชนจะถูกรบกวน
ด้าน นายจาดุร กล่าวว่า วันนี้ไม่มีการหารือในเรื่องการตั้งสหภาพข้าราชการ ในระหว่างการให้นโยบาย ดังนั้น ต่อไปนี้คงจะไม่ใช้คำว่า สหภาพฯแล้ว เพราะตามข่าวที่ออกมาเชื่อว่า เป็นการผิดพลาดทางการสื่อสาร คงจะต้องไปหาคำใหม่ ตรงนี้เราไม่ได้ถูกกดันจากฝ่ายการเมืองแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน การแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการ เป็นหลักปฏิบัติของผู้ที่มีอำนาจในการแต่งตั้งที่จะกำหนดเฉพาะตำแหน่ง กระทรวงต่างๆ ก็มีช่องทางการยื่นอุทธรณ์ หรือ ก.พ.ก็มีอนุกรรมการ ก.พ.ที่จะพัฒนหน่วยงานขึ้นใหม่ เพราะหากมีปัญหาในเรื่องส่วนตัวสมาคมคงจะเข้าไปแตะต้องไม่ได้
“เราไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย แต่เรา (สมาคม) จะหารือกันทุกเดือน และมีการประชุมใหญ่ทุกปี แต่หลักการทำให้ข้าราชการเข้มแข็งคงจะเชิญประชุมข้าราชการเพื่อหาสมาชิกเพิ่มเติม โดยประสานกับสมาคมข้าราชการอาวุโส เช่น ทำเรื่องศักดิ์ศรีข้าราชการ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้ระบบราชการมีคุณภาพและมีภูมิคุ้มกัน” นายจาดุร กล่าว
นายกสมาคมข้าราชการพลเรือน กล่าวอีกว่า สมาคมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่มีการต่อรองกับการเมือง เพราะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ควรจะเป็นกลางทางการเมือง และต้องพึงกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะต้องเป็นที่พึ่งของข้าราชการทุกระดับ เพราะหากชั้นผู้น้อยถูกย้ายไม่เป็นธรรม ก็สามารถร้องที่ อ.ก.พ.ได้ ดังนั้น ข้าราชการประจำจึงไม่ควรจะทำตัวเป็นฝ่ายการเมืองเสียงเอง เพราะจะเกิดความสับสน