“เหลิมดาวเทียมไทยคม” ทุ่มแทงเต็งเต็มที่ ออกหน้าไปรับ “แม้ว” ถึงสนามบินพร้อมกำชับ สตช.เคลียร์ความปลอดภัยให้ “นายคนใหม่” เต็มที่ อ้างกลัวถูกลอบฆ่าซ้ำรอยเหมือนผู้นำฝ่ายค้านปากีสถาน ส่วนกับ “ยุทธ” ถ้าลามถึงคดียุบพรรคจะอาสาเป็นทนายแก้ต่างให้อีก
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับในวันที่ 28 ก.พ.ว่า การไปรับ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านเป็นเรื่องที่ได้เคยพูดไว้ตั้งแต่ก่อนเป็น รมว.มหาดไทย แล้วว่าหากได้เป็น รมว.มหาดไทยจะไปรับ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน อีกทั้งได้บอกกับชาวบ้านไว้แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของพรรคพลังประชาชนโดยจะไปรับที่ใกล้ที่สุด เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดการเดินทางกับมาหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องนี้บอกไม่ได้ต้องเก็บไว้เป็นความลับแม้จะรู้ว่าปลอดภัยก็บอกไม่ได้
ถามว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยใครจะเป็นผู้ดูแล ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้ดูแล และได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นบุคคลที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแล้วก็ตาม แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่าก็มีการลอบสังหารผู้นำทางการเมืองมาแล้ว ดูอย่างปากีสถานที่อดีตผู้นำฝ่ายค้านถูกลอบยิง ฉะนั้นเราต้องเอาบทเรียนทั้งหมดมาปรับปรุงแก้ไข และให้เกียรติกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงสายตาของชาวต่างชาติด้วยว่าเขาจะคิดอย่างไร ดังนั้น เราต้องให้การต้อนรับบ้างแต่ไม่เอิกเกริก ไม่เช่นนั้นจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่จะไม่ไปเลยก็ยังมีคนรักกันชอบกันก็ต้องไป
เมื่อถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาจะถูกปองร้าย รมว.มหาดไทย กล่าวว่า คนที่เคยทำงานในหน่วยข่าวแม้จะปลอดภัยอย่างไรต้องตั้งสมมติฐานว่าหากเกิดอะไรขึ้นจะต้องแก้ไขอย่างไร และระมัดระวังอย่างไรบ้าง ตนมั่นใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่บนพื้นฐานความมั่นใจต้องมีการเตรียมการระมัดระวัง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าที่อ้างกรณีของอดีตผู้นำปากีสถานแสดงว่าได้รับรายงานว่าจะเกิดกรณีเช่นนั้นใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี แต่ถ้าเกิดปัญหาแล้วไม่ใช่รถยนต์มันเปลี่ยนอะไหล่ไม่ได้ เป็นลักษณะของการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่ากลุ่มที่คัดค้านการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าไปสร้างความวุ่นวายหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า คงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะเขาก็บอกแล้วว่าจะไม่คัดค้านในการเดินทางกลับ ซึ่งการเดินทางกลับมาครั้งนี้เพื่อมอบตัวสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าใครออกไปขัดขวางหมายความว่ากลุ่มคนดังกล่าวนั้นกำลังขัดขวางกระบวนการยุติธรรมซึ่งไม่ชอบด้วยเหตุและผล
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่าข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยเป็นบิ๊กขี้หลีว่า ตนพูดเล่นกับนักข่าวเท่านั้น หากว่าการพูดของตนจะทำให้องค์กรสตรีโกรธเคืองตนต้องขอโทษ ไม่มีเจตนา พร้อมจะสอบให้หากมีการระบุชื่อ เรื่องนี้ทำให้ตนถูกด่า และคนที่ด่าตนก็คือภรรยาที่บอกว่าอย่าไปยุ่ง ฉะนั้นสื่ออย่าถามเรื่องบิ๊กขี้หลีอีก
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางพรรคพลังประชาชนจะโดดเดี่ยวนายยงยุทธ ยะติไพรัช ประธานสภาฯ ที่ถูก กกต.ให้ใบแดงว่า ได้ดูโทรทัศน์รายการหนึ่งที่มีนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ถ้าคนฟังไม่ได้ติดตามการเมืองและไม่เข้าใจกฎหมายและเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชนอาจจะเป็นโรคเหงาหงอยและเป็นโรคเศร้าสร้อย คือนักวิชาการพูดไปไกล ตั้งข้อสันนิษฐานเอาหมดว่าจะต้องไปถึงขั้นยุบพรรค แต่ขอชี้แจงว่ากระบวนการพิจารณายังไม่สิ้นสุด กกต.ต้องส่งไปยังศาลฎีกาเพื่อให้พิจารณาว่าจะรับคดีหรือไม่ ถ้ารับต้องมีการพิจารณาและต่อสู้คดีเปิดโอกาสให้ผู้กล่าวหาไปชี้แจง แต่ถ้าศาลยกฟ้องเรื่องก็จบ แต่ถ้ายืนตาม กกต.ก็ให้ใบแดง แต่เวลานี้เรื่องยังไมถึงแล้วไปวิพากษ์วิจารณ์ว่ายุบพรรคมันเร็วไปอย่าไปตัดสินใจแทนศาล
“ผมอยากให้ยุติเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมด ฝนไม่ตกแดดไม่ออกยังจะไปกางร่มได้อย่างไร ยังไม่ทันนอนหลับก็คุยว่าฝันเรื่องนั้นเรื่องนี้ ต้องให้นอนหลับสบายๆ ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยบอกว่าฝันเรื่องอะไร” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในคดีของนายยงยุทธ พรรคพลังประชาชนจะช่วยเหลือทุกวิถีทางใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้ากรณีมีคดียุบพรรคตนจะขอเป็นทนายให้ ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.3 คนถูกข่มขู่หลังให้ใบแดงนายยงยุทธ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมืองเก่าสมัย 30 ปีที่แล้วว่าจะทำอย่างไรให้คนเกลียดรัฐบาล ก็ใช้โทรศัพท์สาธารณะไปข่มขู่ แต่ถ้าจะข่มขู่ก็ต้องก่อนที่จะมีความเห็น หลังมีความเห็นแล้วจะข่มขู่ไปทำไม และพรรคพลังประชาชนไม่ใช่อันธพาล เป็นพรรคของพรรคปราชญ์ราชบัณฑิต ไม่มีการข่มขู่แน่ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค หัวหน้าพรรคแมวยังรักเลย จะไปข่มขู่ กกต.ทำไม ไร้สาระ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นกระบวนการสร้างข่าวทำให้เกิดการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า แน่นอน แต่ประชาชนต้องรู้ทัน พวกนี้ไม่จบไม่จำ ซึ่งเป็นเวลาปีกว่าที่พรรคได้ตั้ง 233 คะแนน ชอบทำให้คนเขาสงสาร ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของใคร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครไม่รู้ที่ไม่ชอบพลังประชาชนและรัฐบาล ไอ้นี่แต้มตื้นๆ การเมืองระดับประถม
รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนเข้าพบว่า ไม่มี คุณหญิงไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่ามีข่าวว่าคุณหญิงพจมานเรียกไปคุยเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี เพิ่งเป็นไม่กี่วันเป็น จีวรพระเหงื่อไคลยังไม่ทันติดเลย ถ้าจะปรับ ครม.ต้องนายกรัฐมนตรีปรับ ถ้าสื่อไปถามอย่างนี้ก็ไม่เป็นอันต้องทำอะไร นั่งเก้าอี้เบาะยังไม่ทันทรุดเลย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การโยกย้ายข้าราชการเป็นเรื่องของการเมืองใช่หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้บริหาร แต่บังเอิญว่าผู้บริหารมาจากนักการเมือง “ทีตอนที่มีรัฐประหารก็มีการย้ายข้าราชการไปทั่ว พอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งย้ายกลับมาบ้างจะบอกว่าเป็นเผด็จการได้อย่างไร ส่วนจะโยกย้ายอย่างไรต่อไปเป็นเรื่องของผมและข้าราชการ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
/0110