xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยบ” เล็งสานต่อประชานิยม จ่อล้มแนวคิดขิงแก่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เลขา พปช.” เดินสายต่อยอดนโยบายประชานิยม คาดสัปดาห์นี้ชัด ยึดรูปแบบธนาคารคนจนต่อยอดกองทุนหมู่บ้าน จ้องล้มโครงการรัฐบาลขิงแก่

วันนี้ (24 ก.พ.) นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้จะเดินทางไปให้นโยบายหน่วยงานที่กำกับดูแลในฐานะรองนายรัฐมนตรี ทั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กองทุนเอสเอ็มแอล และสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.)

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า รูปแบบของกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาลชุดนี้ จะเป็นการต่อยอดโดยการเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนที่จะสามารถให้โอกาส และการเข้าถึงแหล่งทุน และสร้างรายได้ โดยเน้นหมูบ้านและชุมชนที่มีบทบาทโดยเพิ่มแหล่งทุนเข้าไป

“พบว่า กองทุนหมูบ้านบางแห่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท รัฐบาลก็จะเข้าไปสนับสนุนต่อยอดให้ ดังนั้น เรื่องเงินจึงไม่ใช้ปัจจัยสำคัญ รัฐบาลจะเร่งผลักดันองค์ความรู้ กระบวนการจัดการที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ หรือหากหมู่บ้านใดมีการจัดการหรือองค์ความรู้ที่ดีแล้ว และต้องการเงินทุนเพิ่มเติมรัฐบาลก็พร้อมจะสนับสนุนโดยจะต้องเข้ามาคุยรายละเอียด” รองนายกฯกล่าว

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า ดังนั้น นโยบายกองทุนหมูบ้านจึงจะไม่ใช่เพียงใส่เงินลงไปเป็นหลักเท่านั้น ซึ่งผู้รับผิดชอบในเรื่องแหล่งเงินขณะนี้ ยอมรับว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสินก็มีความพร้อม รวมไปถึงธนาคารกรุงไทย ก็มีศักยภาพที่จะช่วยเหลือในเรื่องเครือข่ายองค์ความรู้ให้กับกองทุนหมู่บ้านได้

ขณะเดียวกัน ตนได้หารือกับ ธ.ก.ส.ในเบื้องต้นว่า อยากให้ศึกษารูปแบบตัวอย่างของธนาคารคนจนแกรมมิน ของประเทศบังกลาเทศ ซึ่งสามารถสร้างโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาส และยากไร้ประเทศบังกลาเทศได้มาก โดยนำมาเป็นกรณีศึกษาในระดับโลก เพราะแนวคิดธนาคารคนจนแกรมมิน เป็นแนวคิดของผู้ที่ได้รับการยอมรับ และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลในเรื่องของการพัฒนาด้วย

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่กองทุนเอสเอ็มแอล ยอมรับว่า จะต้องมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นเพียงการให้เงินเปล่าเท่านั้น เพื่อให้ชุมชนเข้าถึงสาธารณูปโภค หรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งนโยบายนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ เพราะว่าที่ผ่านมาเป็นการเน้นกระบวนการมากกว่า ขณะที่เนื้องบประมาณจะต้องนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นกระบวนการพัฒนาชุมชน ขณะเดียวกันก็จะต้องมาศึกษานโยบายกองทุนพัฒนาหมู่บ้าน-ชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของรัฐบาลที่แล้วที่เน้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงด้วย โดยเฉพาะงบประมาณที่รัฐบาลที่แล้ว เห็นชอบให้อัดฉีดเงินให้ชุมชน 5,000 ล้านบาท ใน 2 ปี เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อครหาของการใช้เงินตรงนี้จะต้องมาสำรวจทฤษฎีนี้อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ยังไม่ได้ดูไปถึงขั้นว่า จะเปลี่ยนชื่อนโยบายของรัฐบาลที่แล้วจากยุทธศาสตร์กินดีอยู่ดี หรือ นโยบายอยู่ดีมีสุขไปเป็นชื่ออะไร

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า รัฐบาลสมัคร 1 ยังเตรียมศึกษาคำสั่งให้ยุติโครงการเอสเอ็มแอลของรัฐบาลสุรยุทธ์ โดยอาจจะมีการทบทวนมติ ครม.นี้ หลังจากที่รัฐบาลที่แล้วมีคำสั่งยุติโครงการ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบการใช้เงิน เพราะที่ผ่านมางบเอสเอ็มแอลได้กระจายลงในหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ รวมแล้วกว่า 8 หมื่นหมู่บ้าน มีเอกสารที่เกี่ยวกับโครงการกว่า 1 ล้านแผ่น และเอกสารบางส่วนสูญหายไป ไม่สามารถติดตามกลับคืนได้ จึงทำให้ตรวจสอบไม่ได้ และทำให้ พล.อ.สุรยุทธ์ สั่งยุติโครงการเอสเอ็มแอลไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์นี้จะหารือร่วมกับผู้บริหารสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) เกี่ยวกับสถาบันการเรียนรู้และสร้างสรรค์ (สรส.) ที่เกิดจากการควบรวมศูนย์สร้างสรรค์ งานออกแบบ หรือ ทีซีดีซี กับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือ เอ็นดีเอ็มไอ เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานให้ชัดเจนโดยหลักการแล้วต้องแยกการทำงานของทีซีดีซี ออกจากเอ็นดีเอ็มไอ ให้ชัดเจนเพราะมีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะทีซีดีซี เป็นเรื่องของการพัฒนาความคิดในเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่สามารถนำการทำงานไปรวมกับสถาบันพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งเป็นเรื่องของการจัดเก็บดูแลรักษาไม่ได้คิดค้นหรือพัฒนาความคิดใหม่ๆ

ทั้งนี้ เห็นว่า ปัจจุบันประเทศต้องการแนวความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อนำมาพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยยังต้องพึ่งพาการส่งออกมาถึง 73% จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่จะคิดค้น หรือพัฒนาแนวความคิด เพื่อให้สินค้าราคาถูก หรือแรงงานราคาถูก นั้นหมดไป เพราะการจะแยกออกมาเหมือนเดิมก่อนหน้าจะมีการควบรวมกันหรือไม่ ต้องหารือกับ สรส.ให้ชัดเจนก่อน รวมทั้งต้องกำหนดนโยบายในการเดินหน้าทีซีดีซีและสถาบันพิพิธภัณฑ์ฯ ให้ชัดเจนต่อไป ส่วนกรณีปัญหาเรื่องเงินเดือนของอดีตผู้อำนวยการทีซีดีซี ซึ่งในปัจจุบันได้เข้ามาเป็นเลขานุการของตนเองในตำแหน่งรองนายกฯ นั้นจะเข้าไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ได้สั่งการให้ยุบรวมทีซีดีซีกับสถาบันพิพิธภัณฑ์ฯ เป็น สรส.และจะย้ายที่ทำการจากเดิมที่เช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ไปยังจามจุรี สแควร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงปลายปีนี้ ก่อนที่ทีซีดีซีจะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ในเดือนพฤษภาคม 2551

ด้าน พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพน ผู้อำนวยการ สรส.ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2551 เคยระบุว่า ต้องรอฟังนโยบายทั้งหมดจากระดับนโยบายให้ชัดเจนก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับการย้ายพื้นที่ของทีซีดีซี ว่า จะให้คงไว้ที่เดิมหรือไม่ โดยตนเองพร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงผลการศึกษาความคุ้มค่าในแต่ละสถานที่ เพื่อให้การตัดสินใจครั้งสุดท้ายรอบคอบมากที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น