“สพรั่ง” ยันไม่เปลี่ยนสีแต่กับ “บัง” ต่างคนต่างอยู่

“สพรั่ง” ยันไม่เปลี่ยนสี ยังเป็นตัวของตัวเอง ระบุ ไม่เคยพบหรือเคลียร์กับ “แม้ว” และไม่เสียใจกับการยึดอำนาจ ทุกอย่างปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่กับ “บัง” เวลานี้เปลี่ยนไป ต่างคนต่างอยู่เหมือนเพื่อนใหม่ที่เคยรู้จักกันครั้งแรกไม่ทักทายกัน

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (22 ก.พ.) พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม อดีตผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์กับนายเติมศักดิ์ จารุปราณ ผู้ดำเนินรายการชั่วโมงข่าวบ่าย 3 ที่ออกอากาศทางเอเอสทีวี กรณีบทสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยกล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้เปลี่ยนสี หรือมีความลับลมคมใน ยังเป็นตัวของตัวเอง และมีเหตุผล พร้อมกล่าวว่าที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้กันในเกม ไม่ใช่ผลประโยชน์ขัดกันเป็นส่วนตัว และตนเองยังเป็นสพรั่งคนเดิม

ถามว่า ไม่มีปัญหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นการส่วนตัวใช่หรือไม่? พล.อ.สพรั่ง ตอบเลี่ยงๆ ว่า ตนไม่ได้สรรเสริญเยินยอใคร เมื่อพรรคพลังประชาชนเข้ามาและไม่เอาความดีใส่ตัวเอาความชั่วใส่คนอื่น

เมื่อพิธีกรถามต่อว่า การที่ในอดีต พล.อ.สพรั่งเคยพูดถึง 'นักการเมืองบางคนเลว' นั้นหมายถึงใคร อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวตอบว่า ในตอนนั้นตนพูดในหลักการเท่านั้น ส่วนจะผิดหรือจะถูกก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ

ผู้ดำเนินรายการถามต่อถึงเรื่องคำให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจที่ระบุว่า คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหายหมายความว่าอย่างไร? พล.อ.สพรั่ง ก็กล่าวตอบว่า เป็นอีกบทเรียนที่ทำให้ผู้ในอดีตเสียไป ไม่ได้เจตนาสื่อไปถึงใครและว่าที่ผ่านมาในสถานการณ์ขณะนั้นเป็นความขัดแย้งกันมาก่อนทหารถึงได้เข้ามาและว่า

“ในเจตนาไม่มีเหตุผลส่วนตัวเป็นเรื่องส่วนรวม ไม่เกี่ยวกับจูบปากจูบคอ หรือเยินยอใคร” รองปลัดกระทรวงกลาโหม ยืนยันเมื่อถูกถามเรื่องการเปลี่ยนท่าที

พล.อ.สพรั่ง ยังย้ำถึงจุดยืนกับกลุ่ม นปก.ว่า ไม่เคยเปลี่ยน เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้หรืออาจเห็นว่าไม่มีตำแหน่งแล้วก็ได้ เนื่องจากปัจจุบันตนเองไม่ได้คุมกำลังแล้ว แต่มาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม

เมื่อพิธีกรถามย้ำอีกว่ายังยืนยันว่ายืนอยู่ตรงข้าม พ.ต.ท.ทักษิณอยู่หรือไม่ พล.อ.สพรั่งกลับตอบอย่างเลี่ยงๆ เพียงกล่าวว่า ตนจะไม่พูดถึงชื่อใครแต่จะพูดถึงความเลวเพราะความเลวไปอยู่ในตัวใครคนนั้นก็เลวและว่าตัวเองไม่ใช่ศาล จากนั้นจึงกล่าวว่า ถ้าตัวเองเปลี่ยนสี ก็ไร้ค่า และน่าขยะแขยง และย้ำว่า ที่ผ่านมาไม่เสียใจกับการปฏิวัติ ถ้านึกถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เมื่อถามว่า เหตุผลของการเข้าร่วมกับการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 เพราะนักการเมืองเลวใช่หรือไม่? พล.อ.สพรั่ง ตอบว่า ใช่! แต่กระบวนการในขณะนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการแล้ว(ศาล)

เมื่อพิธีกรถามต่อว่า ที่ผ่านมาพล.อ.สพรั่งได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ไม่ว่าโดยตรงหรือคุยผ่านผู้อื่น? พล.อ.สพรั่งกล่าวว่าตนเองไม่มีตำแหน่งสำคัญจึงไม่น่าจะมาคุยกับตนพร้อมกล่าวย้ำว่าตนไม่กลัวถูกเช็กบิลและไม่มีอะไรต้องกลัว

ในตอนท้ายนายเติมศักดิ์ได้ถามถึงท่าทีต่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. พล.อ.สพรั่ง กล่าวว่า ต่างคนต่างอยู่ เหมือนคนไม่เคยรู้จัก เหมือนเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันวันแรกเดินสวนกันไม่ทักทาย ความรู้สึกเป็นแบบนั้น

ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ พล.อ.สพรั่ง ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจาก พล.อ.สพรั่ง ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ในทำนองชื่นชมหรือให้เกียรติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ในช่วงที่ตนเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักการเมืองที่ดีที่สุดคนหนึ่ง

/0110


คลิก!ชม พล.อ.สพรั่ง ให้สัมภาษณ์ ASTV(56K) / (256K)