“เพ็ญ” สับสน อ้างต้องด่า “สนธิ-ผู้จัดการ” กลางสภาเพื่อแจงเหตุปรับปรุงสื่อรัฐ

“เพ็ญ” สับสน อ้างเลี่ยงไม่ได้ ต้องด่า “สนธิ-ผู้จัดการ” ในสภา เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ต้องปรับปรุงสื่อ แต่กลับบอกสื่อเอกชนจะไม่เข้าไปยุ่ง ให้สิทธิเสรีภาพเต็มที่ แบะท่ารื้อใหญ่สื่อรัฐ อ้างช่วงเกิดความขัดแย้งถูกกระแสพาไปจนมีส่วนสร้างความร้าวฉานในสังคม

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง จักรภพ เพ็ญแข อภิปรายในสภาฯ

วันนี้ (21 ก.พ.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการพูดพาดพิงถึงสื่อ ระหว่างการชี้แจงนโยบายรัฐบาลในสภา เมื่อวานที่ผ่านมา จะเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ โดย นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่หรอก ตนได้ถือโอกาสที่ประธานรัฐสภา มอบให้ในการชี้แจงว่า เหตุใดที่เราจะต้องปรับปรุงวงการสื่อ ตนชี้แจงชัดเจนว่า สื่อนั้นไม่ได้หมายถึงเอกชน สื่อสิ่งพิมพ์ เพราะทั้ง 2 อย่างไม่ได้อยู่ในการกำกับของภาครัฐ และมีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ก้าวล่วงไม่ได้เลย แต่ที่ตนพูดวานนี้ เพราะว่า โทรทัศน์วิทยุของภาครัฐ ในขณะที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอาจจะกระแสพาไป หรือเผลอไปก็ได้กลายเป็นผู้ที่มีส่วนสร้างความร้าวฉานในสังคมอยู่พอสมควร ความร้าวฉานเกิดขึ้นเพราะว่า ทำให้ข้อมูลข่าวสารขาดความสมดุลไป

นายจักรภพ กล่าวอีกว่า ตรงนี้ตนบอกแล้วว่า ไม่ได้กล่าวโทษใครหรือไม่มีมาตรการจะเข้าไปอย่างรุนแรงก้าวร้าวใดๆ เพียงแต่จะเข้าไปประเมินผลดู เพราะพี่น้องประชานชนเรียกร้องผ่านเรามามาก ขอให้สื่อมวลชนภาครัฐตั้งตัวเป็นกลาง ให้ข้อมูลข่าวสารที่สามารถเลือกได้ระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่อยู่ในความขัดแย้ง หรือประเด็นเรื่องนั้นๆ ส่วนวิธีการจะทำอย่างไรนั้น คงไม่เกิน 2-3 อาทิตย์ คงจะทราบ

เมื่อถามว่า สื่อที่โดนพูดถึงจะต้องเซ็นเซอร์ตัวเองอย่างไรบ้าง นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่จำเป็น ตนเพียงแต่ชี้ว่า ประเด็นปัญหามันเริ่มต้นอยู่ตรงไหน จริงๆ แล้วการพูดในรัฐสภา เราพยายามจะไม่เอ่ยถึงบุคคลที่ 3 ตนก็น้อมรับด้วยความถ่อมตน แต่เหตุที่เอ่ยถึงเพราะมันเลี่ยงไม่ได้ถ้าหากไม่ได้เอ่ยถึงก็ไม่รู้ว่าพูดถึงใครและอาจจะตีความผิดพลาดกำกวม ตนจำเป็นต้องเอ่ยชื่อบุคคล และเครือข่ายสื่อมวลชนบางเครือข่าย ซึ่งมีความเห็นในขณะนั้นว่า มีส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิดมากพอสมควร แต่นั่นแหละสิทธิเสรีภาพเป็นของท่าน ไม่มีแผนจะเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ แต่จะชี้เป้าให้สังคมได้ทราบว่าจุดเริ่มต้นที่เราต้องมาแก้ไขปัญหามันอยู่ตรงไหน

ทั้งนี้ ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายนโยบายรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา นายจักรภพ ได้ลุกขึ้นชี้แจงนโยบายทางด้านสื่อ โดยได้กล่าวพาดพิงถึง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และสื่อในเครือผู้จัดการ ว่า เป็นสื่อที่สร้างความร้าวฉานในสังคม รวมทั้งได้นำเอาคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องหมิ่นประมาทนายสนธิ มาอ่านเพื่อตำหนินายสนธิ และอ้างว่า นี่เป็นเหตุผลที่ตนต้องเข้ามาจัดระบบสื่อ

การอภิปรายของ นายจักรภพ ทำให้มีสมาชิกหลายคนลุกขึ้นประท้วง เพราะนายจักรภพทำผิดข้อบังคับ เนื่องจากกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีโอกาสเข้าไปชี้แจงในสภา และมีการนำเอาเอกสารมาอ่านโดยไม่ได้ขออนุญาตประธาน อย่างไรก็ตาม นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น ไม่ได้กล่าวตักเตือนนายจักรภพ แต่อย่างใด และปล่อยให้ นายจักรภพ พูดจนจบ