“อร่าม ศิริพันธุ์” รองคณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แจงเหตุลาออก ปฏิเสธบีบ “จรัส สุวรรณมาลา” พ้นตำแหน่งคณบดีสิงห์ดำ อ้างคณบดีต้องดูแลโครงการศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทยของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ต้องอาศัยความเป็นกลางทางการเมือง ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เป็นการเลือกข้าง เกรงภาพลักษณ์องค์กรเสีย ยันไม่เปลี่ยนใจ แม้ “จรัส” เรียกเคลียร์
ผศ.อร่าม ศิริพันธุ์ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งใน 5 คนที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เปิดเผยถึงกระแสข่าวยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เพราะไม่พอใจที่ ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีการมองว่าเป็นการบีบ นายจรัส ให้ลาออกจากตำแหน่งคณบดีรัฐศาสตร์ ว่า เหตุผลการลาออกทั้งหมดอยู่ในหนังสือลาออก ซึ่งตนไม่อยากเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องการบริหารภายในคณะ ประเด็นที่พอจะพูดได้ คือตำแหน่งคณบดีเป็นตำแหน่งที่ต้องดูแลรับผิดชอบโครงการ Thailand Democracy Watch หรือโครงการศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทยของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ต้องอาศัยความเป็นกลางทางการเมือง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร แต่การขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ของ ศ.ดร.จรัส ทำให้เกิดภาพลักษณ์ว่าผู้รับผิดชอบศูนย์ เลือกข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งจะทำให้คนภายนอกไม่เชื่อมั่นในความเป็นกลางของศูนย์นี้ได้ จะทำให้การบริหารงบที่มาจากภาษีราษฎรไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล แม้จะอ้างว่าเป็นการขึ้นเวทีนอกเวลาราชการ และไปในฐานะนักวิชาการ แต่ประชาชนก็รับรู้ว่า นายจรัส เป็นคณบดี และหมวกใบนี้ก็ติดตัว นายจรัส ตลอดเวลาจนกว่าจะหมดวาระ หากอยากจะขึ้นเวทีเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ก็สามารถเลือกเวทีของสถาบันการศึกษาหรือจัดสัมมนาขึ้นในมหาวิทยาลัยเองก็ได้
ผศ.อร่าม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ การลาออกของตนมีสาเหตุอีกประการ คือ เรื่องการบริหารจัดการภายในที่ทำให้ตนรู้สึกเหนื่อยจึงอยากจะหยุดพัก ด้วยเหตุผลดังกล่าวตน และรองคณบดีอีก 1 คน ผู้ช่วยคณบดี 2 คน และประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์การสถาปนาคณะรัฐศาสตร์ครบรอบ 60 ปี รวมทั้งหมดจำนวน 5 คน มีความเห็นตรงกัน จึงร่วมลงชื่อในหนังสือลาออกฉบับเดียวกันเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ แต่ไม่คิดว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการกดดันหรือบีบให้ นายจรัส ลาออก
“ยืนยันว่า ที่ลงชื่อในหนังสือฉบับเดียวกัน ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะบีบให้ ศ.ดร.จรัส ลาออกจากตำแหน่ง และไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงขอร้องทุกฝ่ายว่าอย่ามากล่าวจาบจ้วงทำลายกันโดยไม่มีข้อมูล จะเป็นการสร้างความร้าวฉานในวงการวิชาการโดยมีอาจารย์นักวิชาการเป็นเหยื่อ หาก ศ.ดร.จรัส อนุมัติให้ลาออกตั้งแต่ต้นก็จบไปแล้ว และยืนยันว่า แม้ ศ.ดร.จรัส จะเรียกไปพูดคุยเรื่องนี้อย่างไร พวกเราทั้ง 5 คนจะไม่เปลี่ยนใจ เพราะขณะนี้ภาพลักษณ์พวกเราเสียหายไปมากเนื่องจากถูกเผยแพร่ออกไปสู่คนภายนอกโดยหยิบยกตัดตอนหนังสือเพียงบางส่วนเอาไปพูด หากเห็นหนังสือลาออกทั้งฉบับจะเข้าใจเหตุผลดีว่า ไม่ได้มีเหตุผลเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองใดๆ เลย และที่ไม่อาจเปลี่ยนใจกลับเข้าสู่ตำแหน่งได้ เนื่องจากจะถูกเข้าใจผิดได้ว่า ที่ยื่นหนังสือลาออกไปก็เพื่อการต่อรองหรือเพื่อการเมือง ซึ่งไม่เป็นความจริง ฉะนั้น จึงยืนยันจะลาออกจากตำแหน่งแน่นอน” ผศ.อร่าม กล่าว
ผศ.อร่าม ศิริพันธุ์ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งใน 5 คนที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เปิดเผยถึงกระแสข่าวยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เพราะไม่พอใจที่ ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีการมองว่าเป็นการบีบ นายจรัส ให้ลาออกจากตำแหน่งคณบดีรัฐศาสตร์ ว่า เหตุผลการลาออกทั้งหมดอยู่ในหนังสือลาออก ซึ่งตนไม่อยากเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องการบริหารภายในคณะ ประเด็นที่พอจะพูดได้ คือตำแหน่งคณบดีเป็นตำแหน่งที่ต้องดูแลรับผิดชอบโครงการ Thailand Democracy Watch หรือโครงการศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทยของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ต้องอาศัยความเป็นกลางทางการเมือง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร แต่การขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ของ ศ.ดร.จรัส ทำให้เกิดภาพลักษณ์ว่าผู้รับผิดชอบศูนย์ เลือกข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งจะทำให้คนภายนอกไม่เชื่อมั่นในความเป็นกลางของศูนย์นี้ได้ จะทำให้การบริหารงบที่มาจากภาษีราษฎรไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล แม้จะอ้างว่าเป็นการขึ้นเวทีนอกเวลาราชการ และไปในฐานะนักวิชาการ แต่ประชาชนก็รับรู้ว่า นายจรัส เป็นคณบดี และหมวกใบนี้ก็ติดตัว นายจรัส ตลอดเวลาจนกว่าจะหมดวาระ หากอยากจะขึ้นเวทีเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ก็สามารถเลือกเวทีของสถาบันการศึกษาหรือจัดสัมมนาขึ้นในมหาวิทยาลัยเองก็ได้
ผศ.อร่าม กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ การลาออกของตนมีสาเหตุอีกประการ คือ เรื่องการบริหารจัดการภายในที่ทำให้ตนรู้สึกเหนื่อยจึงอยากจะหยุดพัก ด้วยเหตุผลดังกล่าวตน และรองคณบดีอีก 1 คน ผู้ช่วยคณบดี 2 คน และประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์การสถาปนาคณะรัฐศาสตร์ครบรอบ 60 ปี รวมทั้งหมดจำนวน 5 คน มีความเห็นตรงกัน จึงร่วมลงชื่อในหนังสือลาออกฉบับเดียวกันเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ แต่ไม่คิดว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการกดดันหรือบีบให้ นายจรัส ลาออก
“ยืนยันว่า ที่ลงชื่อในหนังสือฉบับเดียวกัน ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะบีบให้ ศ.ดร.จรัส ลาออกจากตำแหน่ง และไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงขอร้องทุกฝ่ายว่าอย่ามากล่าวจาบจ้วงทำลายกันโดยไม่มีข้อมูล จะเป็นการสร้างความร้าวฉานในวงการวิชาการโดยมีอาจารย์นักวิชาการเป็นเหยื่อ หาก ศ.ดร.จรัส อนุมัติให้ลาออกตั้งแต่ต้นก็จบไปแล้ว และยืนยันว่า แม้ ศ.ดร.จรัส จะเรียกไปพูดคุยเรื่องนี้อย่างไร พวกเราทั้ง 5 คนจะไม่เปลี่ยนใจ เพราะขณะนี้ภาพลักษณ์พวกเราเสียหายไปมากเนื่องจากถูกเผยแพร่ออกไปสู่คนภายนอกโดยหยิบยกตัดตอนหนังสือเพียงบางส่วนเอาไปพูด หากเห็นหนังสือลาออกทั้งฉบับจะเข้าใจเหตุผลดีว่า ไม่ได้มีเหตุผลเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองใดๆ เลย และที่ไม่อาจเปลี่ยนใจกลับเข้าสู่ตำแหน่งได้ เนื่องจากจะถูกเข้าใจผิดได้ว่า ที่ยื่นหนังสือลาออกไปก็เพื่อการต่อรองหรือเพื่อการเมือง ซึ่งไม่เป็นความจริง ฉะนั้น จึงยืนยันจะลาออกจากตำแหน่งแน่นอน” ผศ.อร่าม กล่าว