xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ มศว จี้ ส.ส.ทยอยลาออก เชื่อพรรคไหนลาออกได้รับเสียงชมแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิชาการ มศว เสนอทางออก ให้ ส.ส.ทยอยลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เชื่อ ส.ส.พรรคไหนลาออกก่อนจะได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนจำนวนมาก

ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ในนามกลุ่มคณาจารย์และบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า ในขณะที่บ้านเมืองอยู่ในความวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้อยากจะขอเรียกร้องใน 4 ประเด็นเพื่อให้การเมืองมีทางออกและเกิดสันติสุขขึ้นในสังคม

1.ขอให้นักวิชาการ นักสันติวิธี องค์กรภาคประชาชนได้ออกมาแสดงเจตนารมณ์ ความคิดเห็นในการแก้ปัญหาเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ผมไม่อยากเห็นกลุ่มคนเหล่านี้อยู่เฉยๆ หรือปล่อยให้นักวิชาการ นักสันติวิธีหรืองค์กรภาคประชาชนบางคนบางกลุ่มทำงานอย่างโดดเดี่ยว แต่เราควรจะผนักกำลังเพื่อแสดงเจตนารมณ์และความคิดเห็น เพราะขณะนี้รัฐบาลแสดงความเห็นฝ่ายพันธมิตรก็ไม่สนใจ ในขณะเดียวกัน เมื่อฝ่ายพันธมิตรฯ แสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออก รัฐบาลก็ไม่ฟัง ถ้าสังคมยังให้ 2 ฝ่ายคือรัฐบาลและพันธมิตรแสดงความเห็นและหาทางออก ปัญหามันจึงคาราคาซังและยังหาทางออกในการแก้ไขปัญหาไม่ได้สักที

เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาล และพันธมิตรฯ ต้องยุติการนำเสนอข้อเสนอของฝ่ายตัวเองลง สังคมรับรู้จุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว ดังนั้น ทั้งฝ่ายรัฐบาลและพันธมิตรกรุณาหยุดพูดเรื่องเดิมของตัวเองได้แล้ว แต่ให้บุคคลอื่นออกมาแสดงความคิดเห็นแทน โดยการแสดงความคิดเห็นนั้นต้องไม่สร้างความร้าวฉานหรือความรุนแรงขึ้นในสังคม

2.ไม่ควรปล่อยเหตุการณ์หรือวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของนักการเมืองเพียงฝ่ายหรือสองฝ่ายเท่านั้น แต่ควรจะให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อันจะเป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิไตยที่มีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ถ้าทำได้เราจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการเปลี่ยนประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอยู่ในมือเพียง 4 วินาทีในการหย่อนบัตรแต่เมื่อหย่อนบัตรเสร็จสิ้นลง ประชาธิปไตยไม่ได้อยู่ในมือประชาชน แต่อยู่ที่บรรดานักการเมือง 480 กว่าคน และสมาชิกวุฒิสภาอีก 150 คน ซึ่งประชาธิปไตยที่อยู่ในมือนักการเมืองทั้ง ส.ส.และ ส.ว.มันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ การที่ทุกคนได้เข้ามาแสดงแจตนารมณ์ ความคิดเห็น ในยามวิกฤติอย่างสันติ ไม่ร้าวฉานอย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม มันถึงจะเป็นประชาธิปไตยที่ภาคประชาชนมีส่วนร่วมทดแทนประชาธิปไตยเลือกตั้ง หรือประชาธิปไตย 4 วินาที

3.ขอให้รัฐบาลยุติการใช้สื่อของรัฐในการที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในสังคม การแสดงความคิดเห็นเฉพาะด้านเฉพาะกลุ่มไม่ควรใช้สื่อของรัฐถ้าฝ่ายพันธมิตรมี ASTV ฝ่าย นปก.นปช.หรือฝ่ายรัฐบาลก็ไปออกอากาศทาง PTV ช่อง 9 อสมท ไทยทีบีเอส หรือ NBT ควรจะออกข่าวของฝ่ายรัฐบาลหรือกลุ่มพันธมิตรให้น้อยลง ไม่ควรให้พื้นที่ข่าวกับสองกลุ่มนี้มากเกินไป แต่ควรจะให้พื้นที่ข่าวกับบรรดานักวิชาการ นักสันติวิธี องค์กรภาคประชาชนให้มากขึ้น แต่ไม่ควรนำเสนอข่าวพันธมิตรหรือให้รัฐบาลพูดเป็นชั่วโมง ซึ่งมันเป็นเวลาที่มากเกินไป ควารจะลดพื้นที่การนำเสนอลง การนำเสนอข่าวในลักษณะที่ผมนำเสนอจะทำให้ความรุนแรงเบาลง และทำให้คนเกิดปัญญามากขึ้น อย่าลืมว่าการที่คนเอาแต่ดูโทรทัศน์ที่ทำเสนอแต่ความขัดแย้งมากๆ จะทำให้คนเห็นด้วยกับฝ่ายนั้นไปโดยอัตโนมัติ ขอให้สื่อของรัฐได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาอย่าซ้ำเติมปัญหาด้วยการนำเสนอข่าวอย่างที่นำเสนอกันอยู่

4.ขอเรียกร้องให้นักการเมือง 3 กลุ่มคือ พรรคพลังประชาชน 5 พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน เสียสละและมีความรับผิดชอบทางการเมืองโดยการลาออก และมันก็ยังอยู่ในกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป เนื่องจากมีคนกลัวว่าการบีบบังคับให้นายกรัฐมนตรีลงออกมันไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้า ส.ส.ทั้ง 3 กลุ่มคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ในขณะนี้ขอให้ลาออก และให้เลือกประชาชนเลือกตั้งใหม่ ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ยอมลาออก ฝ่ายค้านหรือ 5 พรรคร่วมลาออก จะเป็นวิธีการที่นำไปสู่สันติวิธีอีกครั้ง บ้านเมืองจะเกิดความสงบสุขขึ้น เพราะรัฐบาลไม่อาจจะอยู่ได้ เพราะเขาจะเป็นรัฐบาลเผด็จการ

“ผมคิดว่าวิธีการนี้จะดีกว่าการทำประชามติและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้หลายคนอาจจะคิดว่าเลือกตั้งใหม่ก็จะได้บรรดานักการเมืองกลุ่มเดิมเข้ามาบริหารประเทศอีก ผมอยากบอกว่ามันจะเปลี่ยนและเมื่อไหร่ที่พรรคการเมืองไหนลองออกมาแสดงความรับผิดชอบก่อนพรรคอื่น ประชาชนก็จะรู้สึกดีกับการกระทำของ ส.ส.หรือพรรคการเมืองนั้นอย่างมาก เพราะคุณคือเงื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดความสันติขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น