xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯศรีราชาลั่นภูมิใจได้ร่วมกู้ชาติ ทิ้งรายได้หลายหมื่นบาท/วันชุมนุมไล่ทรราช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญญา เกิดชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ ศรีราชา –บางพระ - อ่าวอุดม จังหวัดชลบุรี
ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดใจพันธมิตรฯ ศรีราชา เจ้าของร้านขายของชำในตลาดศรีราชาประกาศภูมิใจที่ได้ทำเพื่อชาติ ไม่สนใจผลกระทบที่ตามมา และยอมเสียรายได้วันละหลายหมื่นบาท เพื่อร่วมกับ 5 แกนนำพันธมิตรฯกู้ชาติ ล้มล้างรัฐบาลทรราชนอมินีระบอบทักษิณ

นายปัญญา เกิดชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ ศรีราชา –บางพระ - อ่าวอุดม จังหวัดชลบุรี เปิดเผยกับ” ASTV ผู้จัดการรายวัน” ว่า ตนเป็นคนที่สนใจข่าวสารบ้านเมือง แต่ไม่เคยรู้จักคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาก่อนว่าเป็นใคร แต่ได้ติดตามรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ทางช่อง 9 อสมท. หลังจากนั้นได้เป็นแฟนประจำของรายการ เพราะชอบในการนำเสนอ ที่ไม่มีใครกล้านำมาให้ประชาชนได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ

จนกระทั่งการรายถูกปิดลง และมีการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ตนก็ได้เดินทางไปร่วมงานด้วยทุกครั้ง ตั้งแต่สวนลุมฯ ลานพระบรมรูปฯ จนกระทั่งมีได้มีการตั้งสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี จึงได้ติดตามมาตลอด และเห็นว่ามีจุดยืนและเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าทำอะไร และเพื่ออะไร โดยเป้าหมายก็เหมือนกับตน คือ ทำเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หลังจากนั้นก็เริ่มติดตามรายการมาโดยตลอด และจะเปิดทีวีช่อง ASTV ช่องเดียวเท่านั้น โดยไม่สนใจช่องอื่นๆ เลย

“ผมเปิดร้านจำหน่ายสินค้า ขายส่ง-ปลีก โดยจะเปิดทีวีเสียงดัง เพื่อฟังข่าวสารของ ASTV ตลอดเวลา โขายสินค้าไปฟังข่าวทีวีไป ทำเช่นนี้มาโดยตลอด เพราะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว และเข้าใจที่ผมทำตัวเช่นนี้”

นายปัญญาเล่าอีกว่า ในระหว่างที่เข้าไปร่วมชุมนุม จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมเพียงคนเดียว โดยภรรยาจะอยู่เฝ้าร้านและขายของกับลูกจ้าง แต่เมื่อส่วนกลางเป่านกหวีดหรือรวมพลครั้งใหญ่ ภรรยาก็จะเข้าไปร่วมชุมนุมด้วย และจะปิดร้านไปกันทั้งครอบครัว ยอมเสียรายได้จาการขายของที่มีวันหลายหมื่นบาท ซึ่งในช่วงที่ปิดร้านก็จะขาดรายได้ไปพอสมควร แต่ตนและภรรยาไม่คิดอะไรและไม่ได้สนใจว่าขาดรายได้ไปเท่าไร เพราะทราบดีว่าเรากำลังทำเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่การเข้าไปร่วมชุมนุมนั้นมีแต่เสียอย่างเดียว เช่น ค่ารถในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายจิปาถะ แต่รู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่

นายปัญญา กล่าวต่อไปว่า การไปร่วมชุมนุมบางครอบครัวจะมีปัญหาทะเลาะกัน แต่ครอบครัวตนโชคดี เพราะภรรยาเข้าใจ และมีความคิดเห็นตรงกัน หากไม่เช่นนั้นคงมีปัญหาหรือถูกไล่ออกจากบ้านไปนานแล้ว

แต่ระยะหลังๆ ตนเริ่มท้อแล้ว และคิดว่าจะต้องถอนตัวในไม่ช้าอย่างแน่นอน เพราะทำไปแล้วก็มีแต่เสีย และถูกฝั่งตรงข้ามหรือเพื่อนฝูงบางคนโจมตีกล่าวหาว่า การเข้ามาชุมนุมทำให้มีเงินมีทอง มาเปิดร้านขายของทั้งๆ ที่ร้านดังกล่าวเปิดมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตร ฯ โดยบางคนไม่รู้แล้วนำมาพูดทำให้หมดกำลังใจ ที่จะร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯเหมือนกัน

หลังจากพันธมิตรฯส่วนกลางปิดเวทีใหญ่แล้ว ตนก็รู้สึกเหงาเหมือนขาดอะไรบางอย่างในชีวิต แต่ก็ยังรับข้อมูลข่าวสารจาก ASTV ที่ได้นำข้อมูลมาเผยแพร่ให้พันธมิตรฯได้รับชม โดยตนก็ยังติดตามอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯที่เคยร่วมชุมนุมไม่ขาดช่วง ขณะนี้จึงได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นภายในกลุ่ม โดยมีการพบปะสังสรรค์พูดคุย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของพันธมิตรฯ ในพื้นที่ต่างๆ เช่น ตำบลบางพระ ,ศรีราชา ,อ่าวอุดม และบางแสน เพราะที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ต่างเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ใน กทม. และไม่ค่อยมีเวลาได้พูดคุยกันเท่าที่ควร ดังนั้น จึงต้องมีการนัดรวมตัวเพื่อพบปะสังสรรค์ในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น หากเวทีใหญ่เป่านกหวีดก็สามารถระดมกำลังเข้าไปร่วมชุมนุมได้ทันท่วงที

สำหรับรูปแบบที่ตกลงกันไว้ในเบื้องต้น คือ จัดโต๊ะจีนรับประทานอาหารร่วมกัน ในวันที่ 19 ธันวาคม ในช่วงเวลา 17.00 น. ณ อาคารมูลนิธิประทีปธรรมสถานศรีราชา โดยคาดว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงรวมพบปะสังสรรค์ประมาณ 600 คน และหลังจากงานนี้ ก็มีแผนจะจัดงานในครั้งต่อไปด้วย

นายปัญญา เล่าต่อว่า ตลอดระยะเวลา ที่เข้ามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ปัญหาภายในกลุ่มพันธมิตรฯ จะไม่อะไร แต่กลุ่มภัยมืดหรือฝั่งที่ไม่ชอบเรามีบ้าง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง เพียงฝ่ายตรงข้ามไม่เข้ามาสั่งซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ก็ไม่เสียใจแต่อย่างไร เพราะคนเราก็มีทั้งคนรักและคนเกียจ โดยจะให้รักและชอบเพียงอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนและกลุ่มเพื่อนประมาณ 3-4 คน เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการเดินทางของพันธมิตรฯ โดยได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากกลุ่มพ่อยก-แม่ยกพันธมิตรฯในพื้นที่ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างแน่นอน เพราะในการเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร โดยได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนต่างๆ ให้ปัญหาเกิดขึ้น

“ส่วนตัวแล้วได้ทุ่มทั้งใจและกาย ส่วนเรื่องทรัพย์สินและค่าใช้จ่าย ต้องได้รับการสนับสนุน เนื่องจากกิจการร้านค้าก็ต้องเปิดขายเพื่อให้มีรายได้ หากทุ่มเทแต่ไม่มีใครให้การสนับสนุนก็คงไม่ไหว”นายปัญญากล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯศรีราชา – อ่าวอุดม – แหลมฉบัง มีสมาชิกประมาณ 400 คน แต่ก็ยังไม่รวมเครือญาติภายในครอบครัวที่มีรวมแล้วไม่ต่ำกว่าพันคนอย่างแน่นอน และกลุ่มนี้ก็ยังติดต่อประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยจะผ่านทีมทำงาน 3-4 คนที่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้ตลอดเวลา และเจตนาของกลุ่มจะไม่สนใจและใส่ใจกับปัญหาเล็กๆ เนื่องจากมีงานใหญ่รออยู่ข้างหน้า เพราะเป้าหมายหลักคือ “โค่นระบอบทักษิณให้สิ้นซากจากประเทศไทย"

สำหรับในช่วงนี้ที่มีการสรรหานายกรัฐมนตรี ก็ต้องเฝ้าติดตามว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศคนต่อไป ซึ่งจะมีความเป็นกลางและมีความโปร่งใสหรือไม่ คงต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด หากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยที่กลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศอีก คงจะต้องเข้าไปร่วมชุมนุมกันอีก ซึ่งทางศรีราชาและพื้นที่ใกล้เคียงก็พร้อมจะเข้าไปร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน



กำลังโหลดความคิดเห็น