“หมัก” กำชับ อย่าเยินยอ นโยบายรัฐ-พรรคพวก จนเกินจริง ขณะเดียวกัน ยันทำงานภายใต้อำนาจที่ กก.บห.มอบ และต้องรับผิดชอบร่วมกัน พร้อมย้ำมีมือที่มองไม่เห็น ต้องการทำลายรัฐบาล และพรรคอย่างต่อเนื่อง แย้มมียุทธวิธีจัดการแล้ว ปฏิเสธพรรคไม่มีแนวคิดแต่งตั้ง 111 อดีตซาก ทรท.นั่งเก้าอี้บอร์ด รสก.เชื่อ ข่าว “ยุทธ ตู้เย็น” โดนแดง แค่ดักทางให้เกิดความเสียหาย
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.30 น.นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาที่พรรคพลังประชาชน เพื่อประชุมร่วมกับ ส.ส.ของพรรค ในการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภา ในวันที่ 18-20 ก.พ.
จากนั้นเวลา 17.00 น. ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุม ว่า นายสมัคร ได้ให้แนวทางว่า ไม่ประสงค์ให้ ส.ส.ของพรรคชื่นชม สรรเสริญ เยินยอนโยบายของรัฐบาลจนเกินจริง รวมทั้งไม่อยากให้เยินยอพวกเดียวกันจนเกินไป และวันนี้รัฐมนตรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ก็มาให้ข้อมูลกับ ส.ส.ของพรรคในเรื่องนโยบายของรัฐบาลเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจด้วย
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังรู้สึกแปลกใจกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมผู้อภิปรายถึง 50 คน แต่ก็ยินดีและเต็มใจ หากฝ่ายค้านเห็นสมควรว่าจะอภิปราย 3 วันรัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง และไม่ขอให้คาดหวังว่ารัฐบาลจะเตรียมทีมโต้ตอบฝ่ายค้าน เพราะการเมืองสมัยใหม่จะเป็นไปตามกติกา และพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงจะใช้เวลาและอภิปรายอยู่ในกรอบกติกา ไม่พาดพิงจนเกิดความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้ผู้อภิปรายทั้งหมดกี่คน ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ในส่วนของผู้อภิปรายของพรรคนั้น มีผู้แจ้งความประสงค์ไม่มากนัก เนื่องจาก นายสมัคร ไม่ต้องการให้มีการสรรเสริญเยินยอเอาใจกัน โดยรวมแล้ว ส.ส.ทุกภาคของพรรคก็น่าจะไม่เกิน 30 คน
โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงด้วยว่า นายสมัคร ยืนยันต่อที่ประชุมว่า การตัดสินใจทางการเมืองใดๆ รวมทั้งการแก้ไขรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมืองในทุกระดับนั้น เป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ที่กรรมการบริหารพรรคมอบให้ ซึ่งกรรมการบริหารพรรคจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน รวมทั้งจะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายพรรคการเมืองด้วย
ร.ท.กุเทพ กล่าวอีกว่า นายสมัคร แจ้งต่อที่ประชุมด้วยว่า ยังมีความพยายามของบางคนบางกลุ่มหรือที่เรียกว่า มือที่มองไม่เห็น ที่ต้องการทำลายรัฐบาล และพรรคอย่างต่อเนื่อง เช่น การปล่อยข่าวให้เกิดความสับสนกรณีการแต่งตั้ง 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจนั้น นายสมัคร ยืนยันว่า ไม่จริง และไม่มีฐานข่าวนี้ออกจากพรรค แต่เป็นการปล่อยข่าวของบางกลุ่ม เพื่อให้พรรคและรัฐบาลเสียหาย ซึ่ง นายสมัคร ยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปล่อยข่าวดังกล่าวมาจากคนในหรือนอกพรรค ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า นายสมัคร ไม่ได้ระบุชื่อว่าใคร แต่ระบุว่า จะหาทางหยุดยั้งให้ได้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ขอให้ส.ส.อย่าประมาท ระมัดระวังทุกก้าวย่างที่จะเดินทางการเมือง อย่าหลงระเริง หรือประมาทแย้ม มียุทธวิธีจัดการมือที่มองไม่เห็น
สำหรับกรณีที่ นายสมัคร ระบุว่า จะดำเนินการกับผู้ปฏิบัติที่รับมอบหน้าที่มาจากมือที่มองไม่เห็นนั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า นายสมัคร เป็นนายกฯ ย่อมมีเครื่องมือและกลไกในการทำงาน ส.ส.ของพรรคก็รับฟัง เพราะวันนี้พรรคไม่ใช่พรรคที่กำลังหาเสียง แต่เป็นพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ฉะนั้น สิ่งใดที่เป็นปัญหา นายสมัคร ก็จะค่อยๆ แก้ไข และจะมียุทธวิธีในทุกขั้นตอน เพราะเรื่องนี้ คือ ความรับผิดชอบของนายสมัครในฐานะนายกฯ
ร.ท.กุเทพ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีกระแสข่าวให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร นั้น นายสมัคร ยืนยันต่อที่ประชุมว่า ไม่มีข่าวรั่วไหล แต่เป็นการปล่อยข่าวที่มีเจตนาดักทาง เพื่อให้เกิดความเสียหายกับพรรค ว่า หาก กกต.ไม่ตัดสินใจแบบที่มีข่าวออกมานั้น จะมีการกล่าวหาว่า มีการให้สินบน หรือแทรกแซงการตัดสินใจของ กกต.ซึ่งพรรครู้ว่ามีความพยายามแบบนี้ โดย นายสมัคร ขอให้ ส.ส.อย่าร้อนใจ เพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามระบบและขั้นตอน เพราะเรื่องนี้ไม่มีมูลใดๆ ตามที่มีข่าวออกมา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ นายสมัคร มั่นใจว่า ข้อมูลไม่รั่วไหลจากอนุกรรมการสอบสวนของ กกต.นั้น ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า นายสมัคร ยืนยันว่า อนุกรรมการสอบสวนของ กกต.ได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้องชอบธรรม และไม่มีการปล่อยข่าว ฉะนั้น ข่าวที่รั่วไปนั้น ฝ่ายที่โดนกล่าวหาก็ต้องตรวจสอบ และข่าวแบบนี้มันเคยเกิดในบางยุคบางสมัย เพื่อนำทางให้เกิดผลทางการเมืองที่ต้องการ เช่น การยุบพรรคไทยรักไทย ก็เคยมีข่าวแบบนี้ปล่อยออกมา โดยกรรมการและนักการเมืองบางคนนำข่าวออกมา และในครั้งนี้ก็น่าจะมีการกระทำแบบนั้นอีก ซึ่งหากผลการตัดสินของ กกต.ไม่เป็นไปตามข่าว ก็จะกล่าวหาว่ามีการเข้าไปแทรกแซงการทำงานและการตัดสินของ กกต.
ร.ท.กุเทพ กล่าวต่อว่า นายสมัคร ได้หยิบยกหนังสือของปราชญ์ชาวจีนคนหนึ่งมาเล่าให้ที่ประชุมฟังว่า ต้นข้าวที่ไม่มีรวงหรือเมล็ดนั้นมักจะชูช่อสูง แต่ต้นข้าวที่มีรวงมากมักจะโน้มต่ำลง เป็นการให้คติกับ ส.ส.ว่า ให้อ่อนน้อมถ่อมตัว อย่าหยิ่งจองหอง อำนาจที่ได้มานั้นเพื่อรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ไว้อวดเบ่ง นอกจากนี้ นายสมัคร ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้ยังมีขวากหนามอีกมาก ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการที่จะก้าวเดินไป ขอให้ทุกคนอย่าประมาทและระมัดระวัง
นอกจากนี้ นายสมัคร ยังเล่าให้ที่ประชุมฟังด้วยว่า วันนี้ได้ไปร่วมงานวันมาฆบูชาที่ กทม.จัดขึ้นที่สวนลุมพินี โดยมองว่า เรื่องของการจัดสถานที่นั้นไม่มีความพร้อมเท่าที่ควร